อาหารจานที่ 2 ของอาทิตย์นี้นะคะ ...."แกงเลียงผักรวม (แบบไม่ใส่กะทิ)" ... อาหารเพื่อสุขภาพ ของคนที่อยากลดน้ำหนัก และคนที่อยากมีสุขภาพดี..... อย่างพิม ^^
วันนี้พิมมาชวนทำแกงเลียงค่ะ ... เนื่องจากมีพี่ที่เป็นสมาชิกครัวบ้านพิมท่านนึง ที่วันก่อนได้คุยกันทาง M แล้วพี่เค้าบอกว่าอยากให้พิมทำอาหารแบบไม่มีกะทิบ้าง .... T___T .. พิมก็เลยจัดให้ค่ะ (จริง ๆ กำลังอยากกินพอดีเลย)
พูดถึงแกงเลียงเนี่ย ...... สมัยเด็ก ๆ พิมไม่รู้จักหรอกนะคะ แกงเลียงแบบน้ำใส ไม่ใส่กะทิอย่างนี้เนี่ย ..... ก็สมัยก่อน บ้านที่พิมอยู่มีบริเวณบ้านเยอะมากค่ะ (ที่ดิน 1 ไร่ ปลูกบ้าน 2 หลัง) ยายกับแม่ก็เลยพยายามจะใช้ที่ว่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการปลูกผักสวนครัวสารพัด ปลูกแบบประมาณว่าไม่ต้องไปซื้อกินเลยอ่ะค่ะ
แล้วหนึ่งในบรรดาผักสวนครัวของยายกับแม่ ก็จะมีพวกบวบ น้ำเต้า อยู่ด้วยค่ะ ..... ซึ่งเจ้าสองอย่างนี้เนี่ย พอผลของมันเริ่มจะโต แม่พิมจะต้องเก็บเอามาทำแกงเลียงให้พิมกับคนในบ้านกินทุกทีเลยค่ะ ซึ่งแกงเลียงในสมัยนั้นที่พิมกินเนี่ย จะเป็นแกงเลียงแบบใส่กะทิ แล้วก็มีรสชาติหวานๆ เค็ม มัน และหอมกะทิมากๆ ... พิมเองในตอนนั้นก็รู้จักแต่แกงเลียงแบบนี้ล่ะค่ะ ประเภทแกงน้ำใส ไม่ใส่กะทิ .. ไม่เคยแม้แต่จะได้ยินเลยสักครั้ง
จนกระทั่งพิมเริ่มโตมาหน่อย อาุยุสักประมาณ 14-15 ได้ ... มีวันนึงต้องเรียนวิชาการงานพื้นฐานอาชีพ พิมซึ่งเป็นแนวหน้าของห้องในการทำอาหารมาตลอด (แต่ตอนนั้นก็ทำแบบเด็ก ๆ ล่ะนะคะ งูๆ ปลาๆ ไปเรื่อยเปื่อย) ก็ถึงกับงงเต๊ก เมื่อครูบอกว่าอาทิตย์หน้าเราจะทำแกงเลียงไม่ใส่กะทิกันนะ ..... >_<" .... แล้วครูก็ให้เราจดๆ กันว่า อาทิตย์หน้าต้องซื้อผัก ต้องซื้อเครื่องอะไรมาใช้กันบ้าง ฯลฯ .... แล้วระหว่างวันนั้น ไปจนถึงวันที่จะต้องลงมือทำจริง ก็เป็นวันแห่งการรอคอยของพิมมากเลยค่ะ ด้วยความอยากรู้ว่า ...... มันเป็นไงอ่ะเนี่ย แกงเลียงไม่ใส่กะทิ มันจะเหมือนแกงจืดไหม หรือจะเหมือนต้มยำ ..... คิดไปสารพัดเลยค่ะ
แต่พอมาถึงวันที่ต้องลงมืำอทำจริง ... พอทำเสร็จเรียบร้อย กินได้ พิมก็ถึงบางอ้อเลยล่ะค่ะว่า แกงเลียงแบบใส่กะทิ กับไม่ใส่กะทิ มันก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากมาย แค่ต่างกันตรงอันนึงใส่กะทิ อันนึงไม่ใส่ และอันที่ใส่กะทิ ก็ปรุงรสให้หวานกว่านิดนึง รวมถึงอันที่ใส่กะทิ ไม่นิยมใส่เนื้อสัตว์ใด ๆ นอกจากกุ้งแห้งเป็นตัวๆ ...... ก็เท่านั้นเองอ่ะค่ะ
หลังจากนั้น ..... คราไหนที่พิมอยากลดน้ำหนัก หรืออยากซดซุปที่เค็ม ๆ เผ็ดพริกไทย พิมก็จะทำแกงเลียงแบบไม่ใส่กะทิเสมอค่ะ ส่วนคราวไหนอยากเพิ่มน้ำหนัก (ฮาาาาาาาาาา) ..... หรือว่าวันที่แม่อยู่ด้วย ก็จะทำแกงเลียงแบบใส่กะทิค่ะ เพราะว่าแม่พิมน่ะเค้าชอบมากๆ เลย .... ดังนั้นพอได้ทำกินกัน 2 คน มันมีความสุขมากๆ เลยค่ะ
แต่คราวนี้ .. ขอรีวิว แกงเลียงแบบไม่ใส่กะทิ ....... ที่ทุกคนรู้จัก...ก่อนแล้วกันนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
1. เนื้อหมูสามชั้น 100 กรัม .......... (ใส่เนื้อปลาต้ม บิเป็นชิ้นใหญ่ ๆ แทนก็ได้นะคะ)
2. กุ้งแห้งเนื้อ 3 ชต.
3. พริกไทย 1 1/2 ชต. ........ (พิมชอบรสเผ็ดร้อนของพริกไทย จึงใส่เยอะๆ แต่ถ้าใครไม่ชอบพริกไทย จะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ)
4. กะปิ 2 ชต.
5. หอมแดง 5 หัวกลาง
6. พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด ........ (ไม่ชอบให้มีรสเ็ผ็ด ก็ไม่ต้องใส่นะคะ)
7. กระชาย 1 1/2 ชต. ........ (ไม่ชอบกระชาย ไมใส่ก็ได้)
8. เกลือป่น 2 ชต.
9. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ชต.
10. บวบหอมอ่อน 2 ลูก
11. ฟักทองชิ้น 20 ชิ้น ........ (ชิ้นนึง ขนาดประมาณ 3/4 * 3/4 นิ้ว)
12. ข้าวโพดอ่อน 5 ฝัก
13. ใบแมงลัก 1 1/2 ถ้วย
14. น้ำซุป หรือน้ำสะอาด 3 ถ้วย
ป.ล. ผักที่ใส่แกงเลียงเนี่ย ....... ใส่ได้หลายผักมากเลยนะคะ ใครไม่ชอบผักที่พิมบอก ก็เลือกผักที่ตัวเองชอบได้เลยค่ะ ไ่ม่ว่าจะเป็น ตำลึง เห็ดฟาง เห็ดนางฟ้า เห็ดออรินจิ เห็ดหอม ผักหวาน ยอดฟักแม้ว ยอดมะพร้าวอ่อน ถั่วฝักยาว น้ำเต้า หรือผักตามท้องถิ่นที่อยู่อ่ะค่ะ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นก็มาโขลกกุ้งแห้งกันก่อนนะคะ ... จริง ๆ ถ้าจะให้ง่าย ก็เอากุ้งแห้งไปแช่น้ำให้นิ่มก่อนค่ะ แล้วค่อยนำมาโขลก รับรองแป๊บเดียว แหลกและฟูมากๆ แต่วันนี้ของพิมโขลกทั้งแข็ง ๆ ค่ะ ก็เลยออกมาไม่ค่อยฟูเท่าไหร่ (จะปั่นก็ได้นะ) ... โขลกเสร็จก็ตักขึ้นพักไว้ก่อน
หันมาโขลกเครื่องแกงเลียงกันต่อค่ะ ... โดยโขลกพริกไทยเม็ดให้แหลกก่อน แล้วก็ใส่หอมแดงที่ปอกเปลือก-หั่นชิ้นเล็ก ๆ ลงไป ตามด้วยเกลือป่น (จะทำให้โขลกง่ายขึ้น หอมแดงไม่ลื่นไหล) .... แล้วพอโขลกหอมแดงได้เกือบละเอียดดี ก็ใส่กุ้งแห้งลงไป ตามด้วยกะปิ กระชาย และก็พริกขี้หนูสวนค่ะ ..... โขลกทุกอย่างให้เข้ากันดี
ได้ออกมาเป็นแบบนี้นะคะ (ไม่ต้องให้แหลกมาก)
แล้วก็หันผักต่างๆ เตรียมไว้ค่ะ ..... ฟักทองก็ปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นใหญ่หน่อยนะคะ / บวบ พิมใช้บวบหอมที่ัยังอ่อนอยู่ ก็ไม่ต้องปอกเปลือกค่ะ แค่เอามีดบางขูด ๆ เปลือกออกมานิดหน่อย ล้าง แล้วก็หั่นเฉียงๆ เอาไว้ / ข้าวโพดอ่อนก็เช่นกันค่ะ ปอกเปลือกออก แล้วหั่นเฉียงไว้เหมือนกัน / ส่วนใบแมงลัก ก็เด็ดไว้เป็นช่อ ๆ นะคะ
สุดท้ายก็ ....... หมูค่ะ พิมใช้หมูสามชั้น หั่นเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม. นะคะ ..... (จริง ๆ คนอื่นเค้าใส่กุ้งสด กุ้งแม่น้ำ เนื้อปลากัน .... แต่ว่าคุณสามีพิมเค้าไม่ชอบค่ะ เค้าชอบหมูๆๆๆๆๆๆๆๆ พิมก็เลยต้องพยายามทำให้เค้ากินแกงเลียง ซึ่งปกติเค้าจะไม่กิน ด้วยการใส่หมู...ของโปรดของเค้าลงไป ซึ่งก็ปรากฎว่าได้ผลค่ะ ^__^)
พอเตรียมของทุกอย่างเสร็จ ก็มาลงมือทำกันดีกว่า ...... เริ่มต้นด้วยการเอาาน้ำซุปใส่หม้อ และก็ตั้งเตานะคะ ใช้ไฟกลางๆ (แต่พิมไม่มีน้ำซุปค่ะ ขอใช้น้ำสะอาด + ผงปรุงรสนิดหน่อย)
พอน้ำเดือด ก็ตักน้ำซุปร้อน ๆ มาละลายเครื่องแกงเลียงที่เราโขลกไว้ค่ะ
ละลายจนเครื่องแกงไม่เป็นก้อน .... ก็ตักใส่ในหม้อน้ำซุปนะคะ แล้วปรุงรสด้วเกลือ กับน้ำตาลตามที่บอกไว้ .... แล้วก็ตั้งไฟต่อจนเดือดอีกรอบ
พอน้ำเดือดก็ทยอยใส่ผักลงไปค่ะ โดยใส่ผักที่สุกยากก่อน อย่างฟักทอง ...... แล้วรอให้สุก จึงค่อยใส่ผักอื่นๆ ที่สุกง่าย (ยกเว้นใบแมงลัก อย่าเพิ่งใส่) ....... พอผักสุก ก็ทำการชิมรสอีกรอบค่ะ ว่าได้ตามชอบไหม ถ้าไม่ได้ ก็ปรับแต่งปรุงเพิ่มเอานะคะ
สุดท้าย ...... ก็ใส่ใบแมงลักลงไป คนๆ ให้เข้ากัน แล้วก็ปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ตักขึ้นใส่ชามแล้ว ...... หน้าตาแบบนี้เลยนะคะ ....... ขอบอกว่า เห็นหน้าตาบ้านๆ อย่างนี้ อร่อยมากเลยนะคะ ยิ่งได้ซดตอนร้อน ๆ แหมมมมมม ไม่อยากจะเซ่ดดดด เลยค่ะ ^^ ... นี่ถ้าได้ปลาสลิดหรือปลาเค็มมาแอ้มด้วยสักตัวสองตัว จะเวิร์คมอร์มากๆ ..... ใครสนใจก็ลองไปทำดูนะคะ ^^