..... วันนี้พิมจะมาสาธิตวิธีการทำหมูกรอบ สูตรหนังกร๊อบบบกรอบ แต่เนื้อหมูยังนุ๊มมนุ่ม ตามคำเรียกร้องจ้า
........ ไม่พูดพล่ามทำเพลงล่ะนะ เอากันเลยค่ะ ก่อนอื่นมาดูสูตรกันเลยค่ะ ก็มีส่วนผสมไม่มากมาย ตามนี้เลยค่ะ
:: ส่วนประกอบในการทำหมูกรอบ ::
- หมูสามชั้น 1 แผ่น หนักประมาณ 1.5 กิโล
- น้ำเปล่า 10 ถ้วย
- เกลือป่น 85 กรัม
- น้ำมันปาล์มสำหรับทอด (เยอะมากๆ)
ป.ล. คราวนี้พิมไม่ได้ถ่ายรูปแบบรวมส่วนผสมกับเครื่องปรุงมาให้ดูนะคะ เพราะงั้นขออธิบายวิธีทำไปพร้อมกับรูปส่วนประกอบแต่ละอย่างเลยแล้วกันจ้า
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเลยเราก็มาดูที่หมูสามชั้นของเรากันก่อนนะคะ
วิธีเลือกหมูสามชั้นของพิมเนี่ย ... พิมจะเลือกตรงส่วนพื้นท้องค่ะ (ที่มีน๊ม...ม.ม นม เป็นปุ่มๆ ติดมาด้วย) เพราะหมูส่วนนี้จะนุ่มดี แล้วก็มีชั้นเนื้อชั้นไขมันที่พิมรู้สึกว่าทอดออกมาแล้วจะไม่กระด้างอีกทั้งสีสวยงามมากกว่าสามชั้นส่วนอื่น แล้วก็เลือกที่มีชั้นไขมันไม่มากนัก อีกทั้งมีชั้นไขมันสม่ำเสมอกัน ไม่ใช่ข้างนึงชั้นไขมันหนาเป็นนิ้ว อีกข้างหนาแค่เซ็นต์นึงอ่ะค่ะ
พอได้หมูมาแล้ว ก็ให้เราเอามีดโกนมาขูดขนอ่อน ๆ ที่หลงเหลืออกไปให้หมดค่ะ หากมีครบอะไรติดมา ก็เอาแปรงสีฟัน (ที่ไม่ได้ใช้แล้ว) ขัดๆ ออกให้หมดด้วยนะคะ และก็นำไปล้างให้สะอาด จากนั้นก็บั้งแนวยาวเป็น 3 รอยตามแบบในภาพด้านล่างอ่ะนะคะ (จริง ๆ ควรบั้งให้แต่ละช่วงมีขนาดเท่ากัน แต่มือพิมไม่เที่ยงเองแหละค่ะ แบบว่าตอนแรกตั้งใจจะบั้งให้ได้เป็น 4 ชิ้น แต่ไป ๆ มา ๆ เอาชิ้นใหญ่หน่อยให้เหลือ 3 ชิ้นก็พอ)
จากนั้นก็หันไปตั้งหม้อหรือกระทะบนเตาไฟนะคะ ใส่น้ำเปล่าลงไปประมาณ 10 ถ้วย เกลือป่น (ธรรมดา) ประมาณ 85 กรัม (ใครชอบเค็มมากๆ ก็ใส่เยอะกว่านี้ได้นะคะ เพราะหากใส่ตามอัตราส่วนที่พิมใช้เนี่ย จะเค็มอ่อน ๆ ค่ะ) ... รอน้ำเดือดก้ใส่หมูทั้งชิ้นลงไปต้ม (น้ำไม่ต้องท่วมหมูทั้งชิ้นก็ได้นะคะ แต่อย่างน้อยให้ท่วมมากกว่า 3/4 ชิ้นอ่ะค่ะ) โดยให้คว่ำด้านหนังลงนะคะ ต้มไปสัก 40 นาที ก็ค่อยพลิกเอาด้านเนื้อกลับลงไป .. และต้มต่ออีกประมาณ 5 นาทีอ่ะค่ะ
พอครบเวลาตามที่กำหนดไว้ ก็ใช้ตะหลิวโปร่ง ๆ นะคะ ตักชิ้นหมูขึ้นจากกระทะ รอให้อุ่นหน่อย ก็ใช้ส้อมหรือเหล็กแหลมที่มีขนาดเล็ก ๆ จิ้มไปที่หนังหมูให้ทั่ว ๆ (ถ้าตามประสาพิมก็จะพูดว่า จิ้มให้พรุน)
แล้วก็เอาไปวางพักบนตะแกรงโปร่ง + นำไปตากแดดจัด หรืออบด้วยไฟอ่อนๆ 1 ชม. หรือจนหนังหมูแห้ง
จากนั้นก็นำมาทอดในน้ำมันเยอะหน่อย (ไม่ต้องให้น้ำมันท่วมหมูทั้งชิ้นก็ได้ อย่างน้อยให้ท่วมสักครึ่งอ่ะค่ะ) .... โดยเอาด้านหนังลงไปทอดก่อน .... ซึ่งช่วงแรกใช้ไฟกลางค่อนมาทางแรงประมาณ 70% ค่ะ พอด้านหนังเหลืองดี (ลอง ๆ พลิกดูนะคะ) ก็พลิกกลับอีกด้านลงไปทอด และลดไฟลงเหลือประมาณ 60% ทอดต่อไปอีกสักหน่อย จนหมูเหลืองทั้งสองด้าน
ป.ล. ปกติน้ำมันที่ใช้ทอดอาหาร ไม่ควรใช้เกิน 2 ครั้งนะคะ แต่ช่วงนี้น้ำมันแพงมาก >_<" แถวบ้านพิมลิตรละ 60 บาท แถมหาซื้อยาก ต้องสั่งจองกันเลย ... ถ้าไปห้าง ไม่ว่าห้างไหนก็ได้แค่ครอบครัวละขวด เพราะงั้นขอใช้ 3 ครั้งล่ะกันนะคะ
หมายเหตุ ..... ระหว่างทอด ... ช่วงนี้น้ำมันพยายามจะแทรกตัวเข้าไปในเนื้อหมู (เพื่อทำให้หมูกรอบ) น้ำจากเนื้อหมูจะซึมออกมาด้านนอก ทำให้น้ำมันกระเด็นได้ .... ก็ให้เอาพวกฝารังถึง หรือตะแกรงที่เค้ามีไว้กันกระเด็นโดยเฉพาะปิดเอาไว้นะคะ รอจนหายกระเด็นหรือให้กระเด็นน้อยหน่อย (ฟังจากเสียง) แล้วค่อยเปิดนะคะ
สุดท้ายแล้ว ... เราก็จะได้หมูกรอบออกมาแบบในภาพด้านล่างนี่อ่ะค่ะ ... ขอบอกว่าตรงหนัง และรอบนอกๆ ของเค้ากรอบมากเลยค่ะ กรอบแบบไม่ด้านเลย (ผ่านไป 2 วันแล้ว ตอนหั่นยังได้ยินเสียงกรอบ ๆ อยู่เลยค่ะ แต่น้อยกว่าตอนทำเสร็จใหม่ ๆ) แล้วตอนเคี้ยวเนี่ยหนังแทบจะละลายหายไปไหนปาก ^^ ส่วนเนื้อหมูด้านในก็ยังนุ่มอยู่ ไม่แข็งอ่ะค่ะ
.... สรุปว่าถูกใจพิมและคนที่บ้านมากเลยค่ะ ยังไงก็ถ้าเพื่อน ๆคนไหนสนใจ ลองไปทำดูกันนะคะ
ส่วนนี่ก็เป็นผลงานของหมูกรอบที่พิมเอามาต่อยอดไว้ค่ะ "ข้าวหมูกรอบ กับ ไข่ต้มยางมะตูม"
สำหรับน้ำราดข้าวหมูกรอบของพิมมีส่วนผสมและวิธีตามนี้นะคะ .... คั่วอบเชย โป๊ยกั๊ก ผงพะโล้ รากผักชีทุบพอแตก ให้หอม ใส่น้ำตาลปี๊บลงไป คนจนละลาย และรอจนให้กลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม (เหมือนทำน้ำพะโล้อ่ะจ้า ใครงงหรือสงสัย คลิ๊กไปที่หมวด กับข้าวจากเนื้อหมู แล้วไปดูตรงส่วนเมนูพะโล้เห็ดหอมนะคะ) แล้วก็ใส่น้ำซุปหมูลงไป ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทย ซีอิ๊วขาว ... รอเดือดก็ชิมรสชาติ เอาตามชอบเลยนะคะ จะหวานจะเค็ม เอาตามต้องการเลย จากนั้นก็เคี่ยวไฟอ่อนไปสักแป๊บนึง ประมาณ 5 นาที (ถ้าทำน้ำราดปริมาณเยอะ ๆ ก็ใช้เวลาเคี่ยวมากกว่านี้อีกห่นอยค่ะ) แล้วก็ค่อยใส่แป้งท้าวที่ละลายน้ำแล้วลงไปค่ะ เอาให้ข้นเหนียวตามต้องการ ..... พอเดือดอีกทีก็ดับไฟเตา ใส่เหล้าจีน กับน้ำมันงาไปอย่างละหน่อยนะคะ คน ๆ ให้เข้ากัน
จากนั้นก็ยกลง .. ตั้งพักไว้ให้อุ่น ๆ ก็ใส่งาขาวคั่ว กับถั่วลิสงคั่ว บดเกือบจะละเอียดลงไป คนให้เข้ากัน เป็นอันใช้ได้ล่ะค่ะ ........ ซึ่งน้ำราดของพิมเนี่ย จะออกใส ๆ แต่รสเข้มข้นนะคะ จะไม่ขุ่น ๆ เหมือนที่บางเจ้าเค้าทำขาย เพราะว่าพิมไม่ได้ใส่ซีอิ๊วดำอ่ะค่ะ
ยังไงก็ลองไปทำดูกันนะคะ ... สูตรนี้อร่อยจริงค่ะ ไม่ได้โม้ !!!
ป.ล. พิมไม่ได้จดมานะคะว่าใช้อย่างละเท่าไหร่ เพราะว่ารีบน่ะค่ะ
----------------------------------------------------------------------------
นี่เป็นผลงานของน้องคนนึงในห้องก้นครัวที่เค้าทำส่งการบ้านพิมนะคะ ลองดู ๆ ใคร ๆ ก็ทำได้จ้า (เพียงแต่ต้องระวังเรื่องน้ำมันกระเด็นเท่านั้นเอง)