ถ้าพูดถึงของว่างอย่างนึงที่สมาชิกในบ้านพิม ไม่ว่าจะแม่ หรือน้องชาย น้องสะใภ้ ชอบกินกันมาก หนึ่งในนั้นต้องมีตือคาโค เผือกทอด เต้าหู้ทอดอยู่ด้วยแน่ ๆ เลยอ่ะค่ะ
ตือคาโค หรือที่บางคนเรียกว่าขนมขาหมู คือ ขนมเผือกผสมถั่วดำทอดนะคะ ซึ่งปกติเราจะเห็นมีคนทำขายบ่อย ๆ ในช่วงเทศกาลกินเจอ่ะค่ะ ...... แต่ว่าแถวบ้านพิมจะมีแม่ค้าอยู่เจ้านึง ถึงไม่ใช่เทศกาลเจ เค้าก็จะทำมาขายตลอดทั้งตือคาโต เผือกทอด เต้าหู้ทอดนะคะ ที่สำคัญอร่อยด้วยอ่ะค่ะ ^__^ ถ้าสมมติว่าวันไหนพิมขับรถผ่าน หรือไปธุระแถวนั้น พิมก็จะต้องแวะซื้อกลับมาทานที่บ้านเป็นประจำเลยนะคะ ครั้งนึงก็ 3 ชุด ๆ ละ 30 บาท ชุดนึงให้ตัวเอง ชุดนึงให้แม่กับน้องชายคนเล็ก และอีกชุดนึงให้ครอบครัวน้องชายคนโตอ่ะค่ะ ก็อุดหนุนเค้ามาอย่างนี้เป็นเวลาหลายปีอยู่นะคะ แต่พอมาประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา อยู่ดี ๆ เค้าก็เลิกขายไปซะงั้น ไปลองกินของเจ้าอื่น (ในละแวกบ้านพิม) ก็ไม่มีเจ้าไหนถูกใจ เลยคิดว่างั้นลองทำกินเองดีกว่าอ่ะค่ะ
..... และหลังจากลองทำอยู่เป็นสิบรอบ พิมก็ได้เจ้าตือคาโค เผือกทอด เต้าหู้ทอด ออกมาในแบบที่คิดว่าอร่อยใช้ได้ล่ะนะคะ ก็เลยอยากเอาสูตรมาแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ เผื่อใครที่ชอบตือคาโควเหมือนพิม แล้วหาอร่อยถูกใจไม่ได้ จะได้ลองไปทำกันดูอ่ะค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- เผือกหอม (ดิบ) หั่นเป็นเส้นเล็กยาวประมาณ 2 นิ้ว 2 ถ้วย
- ถั่วดำต้มสุก 1 ถ้วย
- เต้าหู้แข็ง สีขาว 2 ก้อน
- น้ำมันสำหรับทอด 1 ลิตร
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 135 กรัม
- แป้งข้าวเจ้า 45 กรัม
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
รายละเอียด และวิธีการใช้ถ้วยตวง (ถ้วย) ช้อนตวง (ชต. / ชช.) อ่าน >> ที่นี่ <<
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "น้ำจิ้ม" ::
- น้ำมะขามเปียกข้นๆ 1/3 ถ้วยตวง
- น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
- น้ำตาลทราย 150 กรัม
- เกลือป่น 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- ถั่วลิสงโขลกหยาบ (คั่วให้สุกหอม และเอาเปลือกออกก่อน) 1/2 ถ้วย หรือมากน้อยตามชอบ
- พริกจินดา 20 เม็ด หรือมากน้อยตามชอบ ปั่นกับน้ำต้มสุกจนละเอียด
- ผักชี 1 ต้น (ถ้ากินเจ ไม่ต้องใส่ผักชี)
รายละเอียด และวิธีการใช้ถ้วยตวง (ถ้วย) ช้อนตวง (ชต. / ชช.) อ่าน >> ที่นี่ <<
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเรามาเคี่ยวน้ำจิ้มกันก่อนเน๊าะคะ ^_^
ให้เราหยิบหม้อใบย่อม ๆ มาใบนึง ใส่ส่วนผสมทุกอย่างของน้ำจิ้ม (น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย น้ำมะขาม เกลือป่น น้ำเปล่า) ลงไป อ้อๆ ..... ยกเว้นถั่วกับพริกบดนะจ๊ะ
แล้วเอาหม้อขึ้นตั้งไฟกลางค่ะ คนเป็นระยะ จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด ก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วเคี่ยวไปสักแป๊บ จนเหนียวหน่อย ๆ ก็ปิดไฟเตาได้เลย แล้วยกลงตั้งพักไว้ให้เย็นนะคะ
ตอนที่น้ำตาลละลายหมดแล้ว ให้ลองใช้ช้อนตักน้ำจิ้มขึ้นมาชิมสักหน่อยค่ะว่ารสชาติไปทางไหน เพราะมะขามเปียก กับน้ำตาลจากแต่ละที่มันหวานเปรี้ยวไม่เท่ากัน หากเปรี้ยวไปก็เติมน้ำตาลเพิ่ม หากหวานไปก็เติมน้ำมะขามเพิ่ม เอาให้ได้สามรสนะคะ คือ หวานนำ เปรี้ยวเค็มตามพอกลมกล่อมอ่ะค่ะ
ถ้าพักน้ำจิ้มไว้จนเย็น แล้วเหนียวเกิน ให้ต้มน้ำร้อนแล้วเทใส่ลงไปทีละ 1 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน ถ้ายังเหนียวมากไป ก็เติมได้อีก และคนให้เข้ากัน จนกว่าจะได้ความเหนียวมตามต้องการค่ะ แต่อย่าใส่น้ำร้อนทีละเยอะๆ เพราะถ้าใสไปแล้วจะต้องมาเสียเวลานั่งเคี่ยวใหม่นะคะ
จากนั้นเราจะมาทำแป้งสำหรับทอดเผือก ทอดถั่วดำกันต่อค่ะ
ก็ให้เราผสมแป้งสาลี แป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย และเกลือป่นรวมกันนะคะ คนเบา ๆ ให้พอเข้ากันเล็กน้อย แล้วก็ค่อย ๆ เทกะทิใส่ลงไป
แป้งสูตรนี้ เป็นแป้งที่ทอดแล้วขนมจะออกมากรอบนุ่ม ไม่กรอบแข็งนะคะ ทอดเช้า..อยู่จนถึงเย็นก็ยังอร่อย ถ้าชอบแบบกรอบแข็งกว่านี้ ให้ลดแป้งสาลี และเพิ่มแป้งข้าวเจ้าแทนค่ะ
คนให้เข้ากันจนแป้งไม่เป็นเม็ด และส่วนผสมทุกอย่างในกาละมังเนียนเป็นเนื้อเดียวกันก็ใช้ได้ล่ะค่ะ
จากนั้นก็หันไปตั้งหม้อน้ำมัน (หม้อหรือกระทะที่จะใช้ทอด) บนเตา โดยใช้ไฟกลาง
ระหว่างรอน้ำมันร้อน ก็ผสมเผือกกับถั่วดำลงในกาละมังแป้งนะคะ ... แต่วันนี้เนี่ย พิมอยากกินแบบหลากหลายหน่อย ก็เลยจัดการแบ่งแป้งผสมเผือกล้วน ๆ ส่วนนึง (เผือกทอด) ผสมถั่วดำล้วนๆ ส่วนนึง (ถั่วดำทอด) และ ผสมเผือก+ถั่วดำอีกส่วนนึง (ตือคาโค) อ่ะค่ะ
แล้วพอน้ำมันร้อน (แต่ไม่ต้องให้ร้อนจัดจนควันขึ้น) ก็ใช้ช้อนตักส่วนผสมหยอดใส่ลงไปในหม้อนะคะ ใครที่ต้องการให้เผือกทอด ถั่วดำทอดของเราแต่ละชิ้นมีขนาดใกล้เคียงกัน อาจจะตักใส่ถ้วยเล็ก ๆ ให้มีขนาดพอ ๆ กัน แล้วค่อยเทจากถ้วยลงหม้อก็ได้อ่ะค่ะ
จากนั้นก็ทอดอย่างใจเย็น หมั่นพลิกกลับเผือกทอด ถั่วดำทอดเป็นระยะนะคะ
จนกระทั่งสุกทั่วทั้งชิ้น และเหลืองสวยดี ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันได้เลยค่ะ
พิมทอดเผือกล้วนจนหมดกาละมังก่อน ต่อด้วยทอดถั่วดำล้วน และก็ทอดถั่วดำผสมเผือกเป็นอันดับสุดท้ายนะคะ แต่เพื่อนๆ ไม่ต้องเรียงตามแบบพิมก็ได้ ทอดสลับ ๆ กันไป หรือเอาที่สะดวกก็ได้อ่ะค่ะ
แล้วเราก็จะได้เผือกทอด ถั่วดำทอด ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ
พอทอดเผือกเสร็จ ต่อมาก็ทอดเต้าหู้นะคะ แต่ถ้าใครไม่ชอบเต้าหู้ ... ข้ามส่วนนี้ไปก็ได้ค่ะ ^_^
สำหรับเต้าหู้ สามารถหั่นได้หลายแบบนะคะ แต่พิมเลือกแบบที่ง่ายสุด คือ หั่นตามยาว ให้มีขนาดกว้างสัก 2 ซม. ซับด้วยทิชชู่อเนกประสงค์ให้แห้งนิดนึง แล้วก็เอาลงไปทอดจากจากเผือกได้เลยอ่ะค่ะ
ทอดด้วยใจเย็น ไฟกลาง น้ำมันท่วม หมั่นกลับเป็นระยะ
จนกระทั่งสุกเหลืองสวย และกรอบนอกนุ่มใน (มากน้อยตามชอบ) ก็ตักขึ้นวางบนตะแกรง หรือกระชอน พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันได้เลยนะคะ
ถึงเวลาทาน ก็จัดการหั่นเผือกทอด ตือคาโค เต้าหู้ทอด ใส่จาน แล้วเสริฟพร้อมกับน้ำจิ้มที่เราเคี่ยวไว้ (ใส่ถั่ว พริกบด ผักชีมากน้อยตามชอบ) เท่านี้เราก็จะได้ของว่างอร่อย ๆ ทานแล้วอ่ะค่ะ
ขนมอันนี้เนี่ย (ขอเรียกขนมเน๊อะ) ยุ่งยากที่สุด ใช้เวลานานที่สุดตอนเตรียมถั่วดำนี่แหละนะคะ เพราะเราจะต้องเอาถั่วดำไปล้างน้ำสะอาด แล้วแช่น้ำธรรมดาไว้ประมาณ 6 ชม. ก่อนจะนำมาต้มอีกราว 30 นาทีเพื่อให้สุกอ่ะค่ะ เพราะงั้นแล้วพิมก็เลยมักจะต้มถั่วดำไว้ทีละครึ่งโล ต้มเสร็จ หลังจากเหลือใช้ในเมนูนี้ ก็จะเอาใส่ช่องฟรีสไว้ ซึ่งอยู่ได้หลายเดือนเลยนะคะ พอจะทำขนมอันนี้กิน (หรือจะเอาถั่วดำไปทำข้าวต้มมัด ทำแกงบวดถั่วดำ) ก็จะค่อยหยิบถั่วดำออกมาวางพักไว้ให้น้ำแข็งละลาย ล้างอีกรอบ แล้วก็นำมาผสมกับแป้งได้เลยอ่ะค่ะ
ความอร่อยของเมนูนี้ ของสูตรนี้ อยู่ที่แป้งซึ่งเมื่อทอดออกมาแล้วจะไม่กรอบแข็ง แต่จะเป็นแบบกรอบนอกนุ่มในนะคะ (ความกรอบขึ้นอยู่กับการทอดของตัวเราเอง) และเมื่อทอดเสร็จ ทิ้งไว้หลายชั่วโมง ก็ยังอร่อยอยู่เลยอ่ะค่ะ
ยังไงไปลองทำกันดูนะคะ แล้วพบกับพิมใหม่ ในเมนูถัดไป สวัสดีค่าาา ^_^