เหตุเกิดจากเมื่อ 3-4 เดือนก่อน พิมต้องใช้ชีสแผ่นประมาณ 30-40 แผ่น ครั้นจะซื้อห่อเล็กมาก็ดูไม่ค่อยคุ้ม เลยตัดสินใจซื้อแบบห่อใหญ่ 80 แผ่นมา เพราะราคาถูกกว่ากันพอควรอ่ะค่ะ
แล้วตอนที่ซื้อก็คิดว่า แหม.ม.มม..ม ไม่เป็นไรหรอก ห่อละ 80 แผ่น ใช้รอบแรก 40 แผ่น ที่เหลืออีกราว 40 แผ่น เดี๋ยวเราก็ทยอยใช้จนหมด หรือถ้ามันยังไม่หมด เดินผ่านตู้เย็นทีก็หยิบมากินทีละชิ้นสองชิ้นเดี๋ยวก็หมด ^__^ .... แต่จนวันเวลาผ่านไป วันหมดอายุของชีสเริ่มใกล้เข้ามา เหลือเพียงอีกแค่ 10 กว่าวัน ชีสอีก 40 แผ่นที่เหลือ ก็ยังเหลือ 40 แผ่นเหมือนเดิมเป๊ะ ไม่ได้ลดหายไปไหนเลยสักนิด - -" ........ ในใจตอนนั้นก็เริ่มคิดว่าไม่ได้การล่ะ ราคาชีสก็หลายบาท จะต้องหาทางเอาชีสมาใช้ทำอะไรก่อนชีสจะหมดอายุซะแล้วล่ะค่ะ
แต่ตอนนั้นจะว่าไปพิมก็ยังนึกไม่ออกนะคะว่าจะเอาชีสมาทำเป็นอะไรดี คือถ้าเป็นชีสขูดฝอยๆ ล่ะก็ ป่านนี้หมดไปนานแล้วค่ะ แต่เป็นชีสแผ่นนี่นึกไม่ออกจริง ๆ .... ใจจริงก็อยากกินแซนด์วิชชีสแฮม แต่ไม่มีแฮมและไม่ค่อยอยากซื้ออ่ะค่ะ เพราะช่วงนี้พยายามลดพวกของหมักดอง เนื้อสัตว์แปรรูป .......... จนวันนึงมีเพื่อนส่งคลิปที่กำลังกินชีสทอดอยู่ในร้านอาหารร้านนึงมาให้ดู เพื่อนบอกว่ามาเที่ยวร้านนี้ แล้วมีเพื่อนในกลุ่มอีกคนสั่งกิน แล้วมันอร่อยมาก คือ ด้านนอกมีความกรอบ ส่วนด้านในก็มีชีสละลายเยิ้มๆ เค็มๆ มันๆ ดี ก็เลยถ่ายเป็นคลิปแล้วส่งมาให้พิมดู เผื่อว่าพิมจะอยากจะลองทำตามบ้าง ....... อะไรทำนองนี้อ่ะค่ะ
งานนี้ก็เลยต้องขอบคุณเพื่อนคนนี้แหละค่าที่จุดประกายไอเดียให้กับพิม ได้เอาชีสแผ่นมาทำเป็นชีสทอด ซึ่งทั้งอร่อย และทำไม่ยากเลย พิมเชื่อว่ามือใหม่มือเก่าก็ทำเมนูนี้ได้หมดอ่ะค่ะ ......... ยังไงก็ไปลองดูวิธีทำในแบบฉบับพิมกันเลยนะคะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- เชดด้าชีสแผ่น 12 แผ่น (หรือจะใช้เป็นชีสแท่ง ๆ เลยก็ได้นะคะ สะดวกดี)
- เกล็ดขนมปังป่น 3/4 ถ้วย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 5 ชต.
- ไข่ไก่เบอร์ใหญ๋ 1 ฟอง
- น้ำมันสำหรับทอด
- ซอสมะเขือเทศ / มายองเนส สำหรับจิ้ม
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกมาดูหน้าตาชีสที่เป็นต้นเหตุทำให้พิมต้องทำชีสทอดในวันนี้เลยค่า
นี่ค่ะ ... เหลือเยอะขนาดนี้เลย >_< น้ำหนักก็ประมาณ 400 กว่ากรัมได้ แถมแช่ตู้เย็นมานานจนชีสแต่ละแผ่นติดกันแนบแน่นมากกกกเลยนะคะ T__T ... แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เป็นการดีซะอีก เพราะชีสที่แนบแน่นกันแบบนี้ เวลาเอาไปชุบไข่ จะไม่หลุดง่ายอ่ะค่ะ ^_^
ก็ให้เราหยิบชีสออกชุดละประมาณ 6 แผ่นนะคะ แล้วตัดเป็นเส้นตามแนวยาวชุดละ 5 เส้นอ่ะค่ะ เพราะงั้นชีส 12 แผ่นที่พิมบอกไว้ในสูตรด้านบนก็จะตัดได้ 10 เส้นนะคะ ...... ซึ่งงานนี้เนี่ยพิมตัดชีสทั้งหมดเลย 40 แผ่น แต่ไม่ได้ทอดทีเดียว เก็บไว้ทยอยทอดให้คนโน้นคนนี้กินวันละนิดละหน่อย่อ่ะค่ะ ^_^ ..... หรือถ้าเอาสะดวก ไม่อยากต้องมานั่งตัดนั่งนับแผ่น เพื่อนๆ จะซื้อเป็นชีสสติ๊กมาเลยก็ได้นะคะ ง่ายดีค่า
และพอตัดเสร็จ ให้เราเอาชีสใส่กล่องไปแช่ตู้เย็นต่อสักประมาณ 1-2 ชม. เพื่อให้ชีสเซตตัวแข็งๆ นะคะ
พอถึงเวลาจะทอด ก็ให้เราตอกไข่ 1 ฟองใส่ชาม ตีให้เข้ากัน ... ตรงนี้จะโรยเกลือป่น พริกไทยป่นลงไปนิดหน่อยก็ได้ เพื่อเพิ่มกลิ่นเพิ่มรส แต่พิมไม่ได้โรย เพราะชีสเค็มอยู่แล้วแถมผงขนมปังป่นที่ใช้ก็มีการปรุงรสมาบ้างแล้วอ่ะค่ะ
ส่วนแป้งสาลีอเนกประสงค์ ให้แบ่งเป็น 2 ชต. กับ 3 ชต. ส่วนที่เป็น 2 ชต. เอาไว้คลุกกับชีส ส่วนที่เป็น 3 ชต. ให้เอาไปผสมกับเกล็ดขนมปังป่นนะคะ
และเมื่อจัดการส่วนผสมทุกอย่างครบ ก็มาเตรียมการทอดได้เลยค่ะ ..... ให้เราเอาชีสแต่ละชิ้นคลุกกับแป้งสาลีแห้ง ๆ --> นำไปชุบไข่ ---> คลุกเกล็ดขนมปัง ---> ชุบไข่อีกรอบ ---> และคลุกเกล็ดขนมปังอีกรอบ ...... เหตุที่เราต้องชุบไข่ชุบเกล็ดขนมปัง 2 รอบ เพื่อให้ส่วนที่ห่อหุ้มชีสมีความหนาพอประมาณ เพราะถ้าบางเกินไป ความร้อนจากน้ำมันขณะทอด อาจจะทำให้ชีสทะลุออกมาปนกับน้ำมันก็ได้อ่ะค่ะ ^_^
พอคลุกเสร็จก็เรียงใส่จานเอาไว้ ........ หากยังไม่ได้ทอดทันที ก็นำไปแช่ตู้เย็นรอไว้ได้นะคะ
จากนั้นตั้งหม้อหรือกระทะสำหรับทอดบนเตาไฟ เปิดไฟกลาง รอจนน้ำมันร้อน แต่ไม่ต้องให้ร้อนจัดมาก ก็หรี่ไฟลงเป็นไฟกลางค่อนมาทางอ่อน แล้วใส่ชีสลงไปทอด ..... ตรงนี้ต้องระวังนิดนะคะ เพราะว่าเกล็ดขนมปังที่เราใช้ค่อนข้างป่น จะเหลือง+ไหม้ไวมาก ดังนั้นพอใส่ชีสลงไปแล้ว ให้รีบเอาที่คีบหรือตะหลิว ทัพพี เขี่ยๆ ดูว่าชีสทอดของเราเหลืองหรือยัง ถ้าเหลืองแล้วก็รีบเอาขึ้นพักใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำมันได้เลยค่ะ
ก็จะได้ออกมาประมาณนี้นะคะ
ถึงเวลาเสริฟก็จัดชีสทอดใส่จาน ตกแต่งด้วยใบผักสีเขียว ๆ เช่น ผักชี พาสลี่ย์นิดหน่อยพอสวยงาม แล้วเสริฟคู่กับซอสมะเขือเทศ หรือไม่ก็มายองเนสนะคะ ..... รับรองถ้าเป็นคนชอบชีสอยู่แล้ว จะรู้สึกว่าอร่อยจนไม่อยากหยุดทานเลยค่ะ
และสำหรับชีสทอดเนี่ย เท่าที่พิมได้ลอง สามารถใช้ได้ทั้งมอเซอเรล่าชีส และเชดด้าชีสนะคะ หากเป็นมอสเซอเรล่าจะออกมาจืดๆ มันๆ แต่เวลากัดแล้วจะยืดดดดด น่าทานมาก ส่วนถ้าเป็นเชดด้า จะแค่ข้นๆ เป็นครีม ไม่ยืด และจะเค็มมันกว่ามอสเซอเรล่าอ่ะค่ะ ....... เพื่อน ๆ ก็เลือกใช้เอาตามชอบหรือตามที่มีเลยนะคะ
แล้วพบกันใหม่กับความอร่อยใหม่ ๆ ในเมนูถัดไปค่า ^_^