สองวันก่อนคนข้างบ้านพิมเค้ากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัด ที่บ้านเค้าปลูกต้นมะพร้าวไว้นับสินต้น แต่ไม่ค่อยได้มีใครเอามาทำอะไร แล้วเค้ารู้ว่าพิมชอบทำกับข้าว ก่อนจะกลับมาบ้านที่กรุงเทพฯ ก็เลยสอยเอามะพร้าวแก่มาฝากพิมนับเป็นสิบลูกเลยค่ะ
ตามธรรมเนียมคนสมัยก่อน ใครเอาของมาฝากบ้านเรา เราก็ควรจะเอาของไปฝากเค้า เพื่อเป็นการสานสัมพันธไมตรีซึ่งกันและกันเน๊าะคะ ซึ่งหลายครั้งหลายคราที่ข้างบ้าน คนแถวบ้านเอาโน่นนี่มาฝากพิม (ส่วนใหญ่เป็นวัตถุดิบทำอาหาร ทำขนม) พิมก็จะทำอาหาร ทำขนมกลับไปฝากเค้าเพื่อเป็นการขอบคุณทุกครั้งเลยอ่ะค่ะ
อย่างสองสามสัปดาห์ก่อน คนรู้จักแม่เอาปลาดุกอุยตัวสวย ๆ เหลือง ๆ มาฝาก 4 ตัว ที่บ้านพิมก็เอามาแปรรูปเป็นแกงเขียวหวานปลาดุก แล้วก็ตักไปฝากคนรู้จักแม่ที่เอาปลาดุกมาให้ หม้อเล็ก ๆ หม้อนึง กับขนมจีนแป้งหมักประมาณครึ่งโลนะคะ ปรากฎว่าคนรับเค้าชอบมากๆ เลยอ่ะค่ะ หรืออย่างวันก่อนคนข้างบ้านพิมกลับจากไปโคราช เอาข้าวโพดฝักงาม ๆ มาฝากเป็นเข่งใหญ่ พิมก็เลยเอามาแปรรูปเป็นนมข้าวโพดเพื่อเก็บไว้กินวันหลัง และส่วนนึงก็เอาไปฝากคนที่ให้ข้าวโพดมาเพื่อเป็นการขอบคุณในน้ำใจของเค้าที่มีให้กับพิมนะคะ ซึ่งการทำแบบนี้เนี่ย นอกจากทั้งพิมทั้งเค้าจะอิ่มท้องแล้ว ก็ยังอิ่มอกอิ่มใจทุกครั้งที่ได้เห็นรอยยิ้มของกันและกันอีกด้วยอ่ะค่ะ
และครั้งนี้ก็เหมือนเช่นทุกครั้ง คนข้างบ้านพิมเค้าเอามะพร้าวแก่สำหรับขูดเพื่อคั้นเป็นน้ำกะทิมาฝากพิมหลายลูก ตอนแรกพิมคิดว่าจะทำเป็นข้าวต้มมัดไส้กล้วยไส้เผือกนะคะ เพราะจะได้เก็บไว้กินหลาย ๆ วัน แต่ปรากฎว่ามือห่อข้าวต้มอันดับหนึ่งเกิดไม่มีอารมณ์ห่อขึ้นมากระทันหันค่ะ -*- เลยเปลี่ยนมาทำขนมง่าย ๆ แทน อย่างบัวลอยแก้วอัญชันนะคะ ^_^ เราไปดูหน้าตา ส่วนผสม และวิธีทำกันเลยดีกว่าค่า
:: ส่วนผสม ::
- แป้งมัน 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
- ดอกอัญชันสด 20-25 ดอก
- มะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้น 1/2 ถ้วย (แต่ที่พิมใช้ในวันนี้ ไม่ค่อยอ่อนเท่าไหร่นะคะ)
- หัวกะทิ 100 ml
- กะทิ 300 ml
- น้ำตาลทรายขาว 3/4 ถ้วย ถึง 1 ถ้วย (ชอบหวานใส่ 1 ถ้วย ชอบหวานน้อยใส่ 3/4 ถ้วย)
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- ใบเตยล้างสะอาดมัดรวมกัน 3 ใบ
- เม็ดข้าวโพดต้มสุก 1/3 ถ้วย (ปกติพิมจะใส่ถ้วย แต่วันนี้ไม่มี เลยไม่ได้ใส่อ่ะค่ะ)
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นให้เราเทแป้งมันที่ตวงไว้ ใส่ลงในกาละมังผสมไว้ก่อนนะคะ ^_^
จากนั้นก็ให้เราเทน้ำเปล่าตามสัดส่วนด้านบนใส่ลงในหม้อที่จะใช้ต้ม ตามด้วยดอกอัญชันสดล้างสะอาด (ถ้าไม่มี ใช้อัญชันแห้งได้น๊าาาา) แล้วเอาไปตั้งเตา โดยใช้ไฟกลางค่ะ
พอน้ำเดือดดี ... ก็หรี่ไฟลงเล็กน้อย รอให้สีของน้ำกลายเป็นสีน้ำเงินเข้ม ก็ปิดไฟเตาได้ แล้วกรองเอาดอกอัญชันทิ้งไปนะคะ
จากนั้นเทน้ำดอกอัญชันที่กำลังร้อนจัด ๆ ใส่ลงไปในกาละมังแป้งค่ะ แล้วรีบใช้พายไม้หรือพายอะไรก็ได้ที่แข็ง ๆ หน่อย คนให้เข้ากันนะคะ (พิมใช้มือนึงเท อีกมือนึงคน)
** จริงๆ ๆ สีแป้งในภาพจะต้องออกไปทางสีน้ำเงิน แต่สีเพี้ยนนิดหน่อย เพราะพิมตั้งค่า White Balance คนละโหมดกันนะคะ **
พอส่วนผสมแป้งกับน้ำเข้ากันดีประมาณนึง ก็หยุดคนได้ค่ะ แล้วลองเอามือสัมผัสแป้งดู ถ้ายังร้อนจัดก็พักไว้ก่อนนะคะ แต่ถ้าร้อนน้อยลงขนาดที่มือสัมผัสขยำ ๆ แป้งในระดับทนได้ ก็ให้เรานวดแป้งในกาละมังให้เข้ากันดีค่ะ ซึ่งระหว่างนวด ให้หมั่นเอาแป้งนวล (แป้งมัน-นอกเหนือจากสูตร) ทามือบ่อย ๆ ไม่งั้นแป้งจะติดมือได้ และก็นวดจนกระทั่งแป้งออกมาเนียนนุ่มแบบนี้นะคะ
** ถ้านวดแล้วแป้งไม่ค่อยเข้ากัน ค่อย ๆ เยาะน้ำร้อนใส่ลงไปทีนะหน่อย แล้วรีบนวดต่อเพื่อให้เข้ากันค่ะ
** ถ้านวดแล้วแป้งเหลวไป เติมแป้งได้ทีละสักครึ่งช้อนโต๊ะ
** ถ้านวดเสร็จแล้วแป้งแข็ง ไม่นุ่ม แป้งไม่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน แปลว่าใช้ไม่ได้ ทิ้งสถานเดียวนะคะ
และเมื่อนวดแป้งเข้ากันดีแล้ว ก็แบ่งแป้งเป็น 5 ก้อน แต่ละก้อนจะเท่ากัน ไม่เท่ากันบ้าง ไม่เป็นไร ไม่ซีเรียสค่า ^_^
คลึงแป้งแต่ละก้อนให้เป็นเส้นยาว เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. นะคะ คลึงเสร็จก็เอาแป้งโรยบาง ๆ ตลอดทั้งเส้น (เพื่อไม่ให้แป้งมารวมติดกันเป็นก้อน)
ใช้มีดคม ๆ ตัดแป้งเป็นชิ้นๆ
ก็จะได้ออกมาเป็นตัวบัวลอยแก้วอย่างในภาพด้านล้างนี้นะคะ
** สีแป้งบัวลอยตอนนวด ต่างกันตอนตัดเสร็จแล้ว เพราะพิมตั้งค่า whiter balance ผิด แต่มันคือสีเดียวกันอ่ะค่ะ
สำหรับใครที่อยากจะทำเป็นแป้ง 2 สี 3 สี แบบไล่โทนสี เช่น สีขาว สีฟ้าอ่อน สีฟ้าเข้ม และสีน้ำเงิน ก็ทำแบบเดียวกันกับแป้งบัวลอยแก้วสีน้ำเงินเลยนะคะ เพียงแต่ลดปริมาณดอกอัญชันลง เช่นจะทำสีฟ้าเข้ม ก็ใช้ดอกอัญชันสัก 15-18 ดอก ทำสีฟ้าอ่อน ก็ใช้สัก 8-10 ดอก อะไรอย่างนี้ค่ะ
พอทำตัวบัวลอยแก้วเสร็จแล้ว ต่อมาเราก็จะทำในส่วนของน้ำกะทิกันนะคะ
ก็ให้เราเทกะทิใส่หม้อใบย่อม ๆ สักใบค่ะ ตามด้วยใบเตย น้ำตาลทราย และเกลือป่นนะคะ
คนทุกอย่างในหม้อให้พอเข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟจนน้ำตาลละลายหมด + เดือดอ่อน ๆ ก็ปิดไฟเตา แล้วยกหม้อลงได้เลยอ่ะค่ะ
จากนั้นหยิบหม้ออีกใบนึงขึ้นมา ใส่น้ำสะอาดลงไป ให้สูงสักประมาณ4-5 นิ้วนะคะ พอน้ำเดือดก็ใส่บัวลอยที่เราปั้นไว้ลงไป หรี่ไฟลงเป็นไฟกลาง แล้วต้มไปจนกระทั่งบัวลอยสุกดีทั่วทั้งเม็ด
(แบบตัวสีฟ้าอ่อน)
ก็ตักไปล้างในน้ำเย็น (น้ำธรรมดาในอุณหภูมิห้องค่ะ)
พอตัวบัวลอยเย็นลง ก็ใช้ตะแกรงตักขึ้นมา สะบัดเล็กน้อยเพื่อให้บัวลอยสะเด็ดน้ำ แล้วก็ใส่ลงไปในหม้อน้ำกะทิที่เราทำไว้เมื่อกี้นี้นะคะ ... ตามด้วยมะพร้าวอ่อน และถ้ามีข้าวโพดต้มสุกก็ใส่ไปตอนนี้ได้เลยอ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นเอาไปตั้งไฟเตานะคะ โดยใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อน พอเดือดปุดๆ รอบหม้อก็เทหัวกะทิใส่ลงไปค่ะ
คนพอเข้ากัน และรอให้กะทิเดือดอีกรอบ ก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ
ถึงเวลาทานก็ตักใส่ถ้วยขนมหวานใบเล็ก ๆ น่ารัก ๆ ...... แล้วเราก็จะได้บัวลอยแก้วออกมาหน้าตาน่าทานพร้อมเสิรฟอย่างในภาพด้านล่างนี่้ค่า ^_^
ยังไงลองไปทำทานกันดูนะคะ ขนมชนิดนี้เป็นอีกขนมไทยที่ทั้งทำไม่ยากและก็อร่อย จนอยากให้เพื่อน ๆ ได้เอาไปลองทำทานกันดูเลย ... สวัสดีค่า