หลายวันก่อนหน้านี้ พิมทำขนมชนิดนี้ไปให้แบรนด์น้ำตาลยี่ห้อนึงค่ะ แล้วก็เห็นว่าเป็นขนมที่น่าสนใจดี คือ รูปก็สวย ชื่อก็เพราะ แถมยังอร่อยอีกด้วย ก็เลยอยากเอาสูตรมาฝากเพื่อน ๆ เผื่อใครสนใจก็ได้เอาไปลองทำกันดูนะคะ
"ผกากรอง" เป็นชื่อของขนมไทยที่หลายๆ คน อาจจะยังไม่เคยได้ยินค่ะ เพราะ "ผกากรอง" เป็นชื่อของขนมไทยสมัยใหม่ ที่เพิ่งมีคนเอามาเผยแพร่เมื่อสักประมาณปี 2557 ที่ผ่านมานี่เองนะคะ เพราะงั้นใครที่บอกว่าขนมชนิดนี้เป็นขนมไทยชาววัง ขนมไทยโบราณ อย่าไปเชื่อเค๊าาน๊าา
ขนมผกากรอง สูตรแต่เดิมคือขนมช่อแก้วของคุณกาแฟดำดำในกลุ่มเก็บสูตรขนมไทยในเฟสบุ๊คค่ะ ต่อมา อ.สำเร็จ วรรณพิรุณ ซึ่งเป็นสมาชิกคนนึงในห้องเก็บสูตรฯ ก็เอาสูตรไปปรับปรุงจนได้ออกมาเป็นขนมชนิดใหม่ แล้วตั้งชื่อว่าผกากรอง เพราะลักษณะขนมมีสีสันสวยงาม อ่อนหวาน กลีบบางซ้อนกันคล้ายกับดอกผกากรองนะคะ ^_^
ขนมชนิดนี้เนี่ย มีส่วนประกอบ 2 ส่วนด้วยกัน ก็คือ ไส้กับตัวแป้งค่ะ สำหรับไส้เนี่ยเราใช้ได้หลายอย่างทั้งถั่วทองกวน (วันนี้จะสาธิตอันนี้แหละ) ถั่วแดงกวน เผือกกวน มันหวาน มันม่วง ไปจนถึงทองหยอด ฝอยทอง....เรียกว่าตามที่สะดวกเลยนะคะ ส่วนตัวแป้ง เราใช้แป้งผสมกับกะทิ น้ำตาล เอาไปกวนจนแป้งสุกจับตัวเป็นก้อน แล้วค่อยเอามานวดผสมสีตามที่ชอบ ก่อนจะมาจับจีบให้คล้ายดอกผกากรองดอกค่ะ ส่วนรสสัมผัสของแป้งขนมชนิดนี้ก็จะคล้ายอาลัวสด คือจะนุ่ม ๆ หยุ่น ๆ ทานแล้วละมุนดีนะคะ
พิมเชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนน่าจะอยากเห็นภาพขนมและวิธีทำแล้ว เพราะงั้นเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ ^_^
:: ส่วนผสม “แป้งขนม” ::
- แป้งเค้ก 210 กรัม
- หัวกะทิอบควันเทียน 250 มิลลิลิตร
- น้ำตาลทรายขาว มิตรผล 60 กรัม
:: ส่วนผสม “ไส้ขนม” ::
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก (ถั่วทอง) 100 กรัม
- หัวกะทิ 280 มิลลิลิตร
- น้ำตาลอ้อยธรรมชาติ มิตรผล 125 กรัม
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเราจะมาทำไส้ขนมกันก่อนนะคะ ให้เรานำถั่วทองที่เตรียมไว้มาล้างน้ำให้สะอาดค่ะ น้ำแรก ๆ จะเป็นสีเหลืองขุ่น ก็ให้เราล้างและเปลี่ยนน้ำหลาย ๆ ครั้ง จนกว่าน้ำจะใสนะคะ
พอน้ำล้างถั่วใสดีแล้ว ก็ให้เราเทน้ำทิ้ง ใส่น้ำใหม่ลงไปแทน แล้วแช่ถั่วไว้ประมาณ 5 - 6 ชั่วโมงค่ะ
พอครบเวลา สังเกตุดูว่าน้ำแช่ถั่วจะขุ่น ๆ ก็ให้เรานำถั่วไปล้างน้ำเปล่าอีกสัก 1 – 2 ครั้ง ก่อนจะเทถั่วใส่กระชอน และพักไว้ให้สะเด็ดน้ำนะคะ
จากนั้นนำถั่วไปนึ่ง ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 20 นาทีค่ะ
พอถั่วสุกดี ก็ยกออกมาพักไว้สักครู่ จนถั่วจนหายร้อน ก็ตักใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยหัวกะทิ แล้วนำไปปั่นจนเนียนนะคะ
เทถั่วที่ปั่นแล้วใส่ลงในกระทะ ตามด้วยน้ำตาลอ้อยธรรมชาติ มิตรผล และเกลือป่นค่ะ
คนส่วนผสมให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง แล้วกวนถั่วไปเรื่อย ๆ ประมาณ 30 นาที พอถั่วกวนเริ่มแห้ง ก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วกวนต่ออีกประมาณ 10 นาที จนกระทั่งถั่วกวนล่อน ไม่ติดกระทะ เราก็จะได้ถั่วกวนออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ
พักถั่วไว้สักครู่พอให้ถั่วหายร้อน ก็หยิบมาปั้นไว้เป็นลูกกลม ๆ หนักประมาณ 5 กรัม (ดอกเล็ก) หรือ 10 กรัม (ดอกใหญ่) อ่ะค่ะ
ต่อมาเราก็จะมาเตรียมในส่วนของแป้งกันต่อนะคะ
ก็ให้เราใส่แป้งที่เตรียมไว้ น้ำตาลทรายขาว มิตรผล และหัวกะทิลงไปในกระทะที่เราจะใช้กวนแป้งค่ะ
คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วนำไปตั้งไฟอ่อน กวนประมาณ 5 นาที จนแป้งล่อนออกจากกระทะ และจับตัวกันเป็นก้อน ก็นำมาใส่กาละมังพักไว้นะคะ
พอแป้งเริ่มอุ่น ๆ ก็นำมานวดเพื่อให้เนื้อแป้งเนียน สักประมาณ 5 นาที จากนั้นก็แบ่งผสมสีตามชอบเลยค่ะ ซึ่งสีที่เราใช้จะเป็นสีน้ำ สีเจล ก็ได้ ตามที่มีเลยนะคะ แต่ถ้าเป็นสีแบบผง ควรผสมน้ำสักเล็กน้อยก่อน ไม่งั้นถ้านวดไม่ได้ที่ สีอาจจะจับตัวกันเป็นกระจุกบนเนื้อแป้งได้อ่ะค่ะ
ขั้นตอนต่อมาก็คือการปั้นและจับจีบดอกนะคะ
สำหรับดอกใหญ่ เราจะใช้ไส้ 10 กรัม แป้ง 15 กรัมค่ะ ส่วนดอกเล็ก เราจะใช้ไส้ 5 กรัม และแป้ง 7.5 กรัมนะคะ เป็นสัดส่วนโดยประมาณ แต่ถ้าใครจะใช้ไส้/แป้ง มากหรือน้อยกว่านี้ หรือใครอยากได้ดอกเล็กดอกใหญ่กว่านี้ ก็จัดตามที่ชอบได้เลยอ่ะค่ะ
เริ่มจากหยิบแป้งขึ้นมา แล้วปั้นให้เป็นก้อนกลมแบนนะคะ วางไส้ถั่วกวนลงไปตรงกลาง ห่อแป้งให้ปิดไส้ ตรงรอยต่อของแป้งก็อย่าลืมบีบให้แป้งติดกัน และปั้นแป้งให้เป็นก้อนกลมอีกครั้งค่ะ
จากนั้นใช้แหนบสำหรับจับจีบแบบปลายใบไม้ (หาซื้อได้ตามร้านขายอุปกรณ์เบเกอรี่) ในการจับจีบนะคะ
** ในภาพด้านล่าง ฝั่งขวาคือปลายตัด ฝั่งซ้ายคือปลายใบไม้
โดยเราจะเริ่มจับจีบชั้นแรกตั้งแต่ตรงกลางขึ้นมา (วิธีการจับจีบ ดูตามรูป) แล้ววนไปโดยรอบ และจับจีบทั้งหมด 3-4 ชั้น (ตามแต่ขนาดดอก) ค่ะ ซึ่งถ้าเป็นดอกที่มีขนาดแป้ง 15 กรัม ชั้นแรกจะจับจีบประมาณ 12 กลีบ และชั้นบนสุดจะจับอยู่ที่ 4 กลีบนะคะ
และเมื่อจับจีบเสร็จแล้ว เราก็จะได้ขนมดอกผกากรองออกมาตามภาพด้านล่างค่ะ
ลักษณะของขนมชนิดนี้ ตัวแป้งด้านนอกจะนุ่มละมุน ๆ นะคะ แล้วก็มีความหยุ่นนิด ๆ ส่วนตัวไส้ด้านในจะหวานหอม เป็นอีกหนึ่งขนมที่อร่อย และหน้าตาสวยงามจนอยากให้ทุกคนเอาไปลองทำดูเลยค่ะ
แต่ถ้าหากทำแล้วทานไม่หมด ก็ให้เก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็น จะอยู่ได้ประมาณ 7 วัน เวลาจะทานก็เอามาอุ่นในเวฟนิดนึง หรือจะกินเย็น ๆ ก็ได้ ...... ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ ^_^