ขนมเหนียวเป็นขนมไทยโบราณ เมื่อก่อนตอนเด็ก ๆ เนี่ย แม่ค้าขายขนมไทยแทบทุกคนต้องมีขนมเหนียวขายด้วยเสมอ แต่สมัยนี้หากินได้ยากมาก ๆ แล้วค่ะ
และเด็ก ๆ สมัยนี้ก็ไม่ค่อยมีใครรู้จัก ... พอได้ยินพิมบอกว่าทำขนมเหนียว น้องๆ หลาน ๆ จะต้องมาถามกันตลอดว่า "ขนมเหนียวมันเป็นยังไงเหรอพี่ เหมือนข้าวเหนียวไหม" หรือไม่ก็ "กินแล้ว มันจะติดฟันเหมือนแตงเมไหมพี่" ......... >_<"
ว่าแล้วใครไม่เคยดู ไม่เคยเห็น ไม่เคยชิม ก็มาลองดูกันที่ครัวบ้านพิมนี่นะคะ ^^ .... นี่ค่ะ หน้าตาขนมเหนียว เป็นประมาณนี้เลยค่ะ
ถ้าพูดถึงขนมเหนียว .... ก็จะประกอบไปด้วยส่วนประกอบหลัก ๆ 4 อย่างด้วยกันค่ะ ก็คือ ตัวแป้งขนม มะพร้าวขูด ข้าวตากทอด และก็น้ำตาลปี๊บเคี่ยวเหนียว ๆ ไว้สำหรับคลุกกินกับขนมค่ะ
ดูหน้าตาไปแล้ว ... เพื่อน ๆ อาจจะสงสัยว่า แล้วมันมีส่วนผสมอะไรบ้างล่ะ .... ก็มาดูกันเลยนะคะ
:: ส่วนผสมตัวขนม ::
- แป้งข้าวเหนียว 1 1/4 ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า 1/4 ถ้วย
- เกลือป่นสำ 1/4 ชช.
- น้ำเปล่าหรือกะทิ 1/2 - 3/4 ถ้วย (ปริมาณน้ำขึ้นอยู่กับความเก่าใหม่ของแป้ง)
- สีผสมอาหารตามชอบ แต่ส่วนใหญ่ใช้สีจากธรรมชาติมากกว่า เช่น น้ำคั้นใบเตย น้ำคั้นจากดอกอัญชัน
:: ส่วนผสมน้ำตาลปี๊บเคี่ยว ::
- น้ำตาลปี๊บอย่างดี หรือน้ำตาลปึ๊ก 1.5 ถ้วย
- น้ำลอยดอกมะลิ 1 ถ้วย
:: ส่วนผสมอื่นๆ ::
- ข้าวเหนียวนึ่งสุก หรือข้าวสวย ตากให้แห้ง แล้วทอด/คั่ว ให้พอง+กรอบ 1 ถ้วย
- มะพร้าวขูดด้วยมือแมวจ๊ะ 1 ถ้วย
- เกลือป่นหยิบมือ
ดูส่วนผสมไปแล้ว ก็มาดูวิธีทำกันนะคะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรก ... มาดูของอื่น ๆ ที่เราจะต้องเตรียมเอาไว้ก่อนจะไปทำตัวแป้งขนมกันนะคะ
อย่างแรกมะพร้าวขูด ........ พิมใช้มะพร้าวทึนทึกค่ะ เลือกที่ค่อนมาทางอ่อนหน่อย จะทำให้เวลากิน รู้สึกมันเข้ากับตัวขนม ... ไม่แข็งเกินไป
ก็เอามะพร้าวมาขูดด้วยที่ขูดแบบมือแมวนะคะ ขูดเป็นเส้นบาง ๆ หน่อย แล้วก็เอาไปนึ่งสัก 5-10 นาที เพื่อให้สุก เมื่อเก็บไว้นาน (เช่นสักครึ่งวัน หรือหนึ่งวัน) มะพร้าวจะได้ไม่เสียอ่ะค่ะ (แต่ถ้าไม่มีที่ขูดแบบเส้น ๆ แบบนี้ จะใช้วิธีขูดออกมาเป็นฝอย ๆ แบบมะพร้าวขูดที่เอามาคั้นกะทิทำแกงก็ได้ค่ะ) ... นึ่งเสร็จแล้วก็คลุกกับเกลือป่นนิดหน่อย พอให้มีรสเค็มปะแหล่ม ๆ แล้วก็พักเอาไว้ก่อน
จากมะพร้าว ... ก็มาดูข้าวตากทอดกันค่ะ .... ข้าวตากทอดเนี่ย เราสามารถใช้ได้ทั้งข้าวเหนียวนึ่งสุก และข้าวสวยค่ะ โดยนำข้าวที่สุกแล้ว มายีให้เป็นเม็ด ๆ บนถาดหรือกระด้ง แล้วก็เอาไปตากแดดให้แห้งค่ะ พอแห้งดีแล้ว ก็นำมาทอดให้พอง หรือไม่ก็คั่วให้พองก็ได้ค่ะ (แบบคั่วจะหอมกว่า แต่บางทีถ้าเราคั่วไม่ดี บางเม็ดก็จะแข็งค่ะ) .... ก็จะได้ข้าวตอกพอง ๆ ออกมาเป็นแบบนี้ (หรือถ้าจะเอาวิธีลัดสุด ๆ ก็ไปซื้อนางเล็ดมานะคะ แล้วก็บิให้แตก ๆ ก็พอใช้แทนกันได้เหมือนกันค่ะ)
แล้วก็ยังมีน้ำตาลปี๊บเคี่ยว .... เราใช้น้ำตาลปี๊บดี ๆ กลิ่นหอม ๆ สีเข้มหน่อย ประมาณ 1.5 ถ้วย ผสมกับน้ำสะอาด 1 ถ้วย ตั้งไฟให้ละลายแล้วก็เคี่ยวไฟกลางค่อนมาทางอ่อน จนเหนียวดี ... ก็ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นค่ะ
ดูส่วนผสมอื่น ๆ ไปหมดแล้ว ก็มาดูตัวแป้งขนมเหนียวกันนะคะ .... เริ่มต้นทำแป้งขนมเหนียวด้วยการผสมแป้ง 2 ชนิดที่บอกไว้ด้านบน เข้าด้วยกันค่ะ
แล้วก็ใส่น้ำหรือหัวกะทิตามลงไป .... คนให้เข้ากัน (อย่าเพิ่งเทใส่หมด ค่อย ๆ เท ค่อย ๆ นวดไปเรื่อยๆ นะคะ / ระวังแป้งจะแฉะเกิน)
ป.ล. ซึ่งถ้าจะใส่สีผสมอาหาร เพื่อให้ขนมมีสีสันสวยงาม ก็หยดสีใส่ตอนนี้ได้เลยค่ะ ใส่สัก 2-3 หยด ให้ขนมมีสีอ่อน ๆ ก็พอ (แล้วถ้าสีไม่เข้ม ก็ค่อยหยดเพิ่มลงไป) หรือถ้าจะใส่เป็นน้ำคั้นใบเตย น้ำคั้นดอกอัญชัน ก็ใส่ตอนนี้เช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าใช้เป็นอย่างหลังนี่ ก็อย่าลืมลดปริมาณน้ำหรือหัวกะทิที่เราจะใช้นวดแป้งลงตามปริมาณน้ำคั้นฯ ที่เราใช้ด้วยนะคะ
จากนั้นก็นวดๆๆๆๆๆ ไปเรื่อย ๆ จนเหนียวนุ่ม ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ... (จริง ๆ ใช้เวลานวดน้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ แต่แป้งที่ออกมาจะแค่เหนียว แต่ไม่นุ่ม)
พอนวดเข้ากันดีแล้ว ก็ปั้นเป็นตัวเล็กตัวใหญ่ (แต่ตัวเล็กอร่อยกว่า) รูปทรงตามชอบ หรือจะปั้นเป็นเส้นยาว ๆ ความอ้วนขนาดนิ้วก้อยเรา .... แล้วพอต้มสุกก็ค่อยเอามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ อีกทีก็ได้ค่ะ
ปั้นเสร็จ ก็เอาไปต้มในน้ำเดือดจัดจนสุกดี ไม่เป็นไตแข็ง และนุ่มพอประมาณค่ะ (ถ้าไม่อยากต้ม ใช้วิธีนึ่งเอาก็ได้ค่ะ)
พอสุกดีแล้ว ก็ช้อนขึ้นให้สะเด็ดน้ำ แล้วเอามาคลุกกับมะพร้าวขูดที่เรานึ่งไว้แล้วนะคะ ... ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ทีนี้เวลาจะกิน .. ก็แค่ตักตัวขนมคลุกมะพร้าว ใส่ถ้วยเล็ก ๆ หรือใส่จานค่ะ
แล้วก็ตักข้าวตากทอดพอง ๆ โรยลงไป (ปริมาณตามชอบ - ส่วนพิมชอบเยอะๆ) ตามด้วยการราดน้ำตาลปี๊บที่เราเคี่ยวเอาไว้ (อันนี้ก็ปริมาณตามความหวานที่ชอบอีกเช่นกัน) .... แล้วก็คลุกเคล้าให้เข้ากัน เป็นอันเสร็จเรียบร้อยโรงเรียนพิม .. กินได้เลยค่า
หรือบางคนอาจจะชอบกลิ่นของงาคั่ว ก็สามารถใช้งาขาวหรืองาดำคั่ว โรยลงไปอีกได้นะคะ (แต่สมัยก่อนเค้าไม่ใส่กันค่ะ)
ว่าแล้วก็ซูมมมมมมมมมมซะหน่อย ..... ใครสนใจลองเอาไปทำกินดูกันนะคะ ทำง่าย ๆ แต่ก็อร่อยไม่แพ้ขนมไทยอื่น ๆ เลยค่ะ ^___^