เรื่องมันเริ่มขึ้นจากว่าพิมซื้อผงวุ้นซองใหญ่มาเก็บไว้ตั้งหลายเดือนแล้วค่ะ ทีนี้ก็ทยอยเอาออกมาใช้ทำวุ้นสังขยาบ้าง วุ้นผลไม้บ้าง ทำวุ้นนมสดบ้างไปเรื่อยเปื่อยเลยค่ะ แต่มันก็ยังไม่หมดซะที
จนว่าสองสามวันก่อนหน้านี้ไปรื้อ ๆ ดูตู้สมบัติ อ่าว....ว มันมีผงวุ้นเหลืออยู่ด้วยแห๊ะ มอง ๆ ดูวันที่ซื้อมา+วันที่เปิดซอง อ่าว...2-3 เดือนแล้วนี่นา เพราะงั้นต้องรีบเอาออกมาจัดการทำอะไรสักอย่างก่อนที่วุ้นมันจะเสียไปล่ะค่ะ (เดี๋ยวนี้ซองละเกือบร้อยแน่ะ) ก็เลยลองมานั่ง ๆ คิดดูว่า เอ....อ เราจะเอามาทำอะไรกินดีหว่า คือ ไงดีล่ะค่ะ..แบบว่าปกติพิมไม่ค่อยชอบกินวุ้น หรืออะไรที่มันดึ๋ง ๆ สักเท่าไหร่อ่ะค่ะ ก็เลยไม่รู้ว่าจะเอามาทำวุ้นอะไรที่ตัวเองชอบดีอ่ะนะ แต่คิดไปคิดมา อือ.อ.อ..อ มันมีมะพร้าวทึนทึกที่ปอกไว้ว่าจะคั้นเอามามูนข้าวเหนียวอยู่ลูกนึงนี่นา (แต่ไม่ได้มูน) อีกทั้งมีเนื้อมะพร้าวอ่อนที่อยู่ในช่องฟรีสด้วย เพราะงั้นทำวุ้นกะทิใส่มะพร้าวอ่อนดีกว่า ........ ท่าทางจะเวิร์คที่สุดอ่ะค่ะ
ว่าแล้วก็มาดูหน้าตาวุ้นกะทิใบเตยมะพร้าวอ่อนของพิมกันก่อนนะคะ ... หน้าตาเป็นอย่างนี้เลยจ้า (พิมทำแบบใส่พิมพ์ และใส่ถ้วยนะคะ ไม่ได้ทำแบบใส่ถาดอ่ะ)
ดูหน้าตากันไปแล้ว ก็มาดูวิธีทำกันต่อเลยค่ะ ........ แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีทำกัน เราก็จะต้องมาเตรียมพิมพ์วุ้นเอาไว้ก่อนนะคะ ซึ่งพิมพ์วุ้นเนี่ย เราจะใช้พิมพ์วุ้นโดยเฉพาะที่เป็นพวกรูปดอกไม้ รูปปลา นก เต่า หรือเป็นถ้วยหยัก ๆ ก็ได้ค่ะ หรือถ้าไม่มีจะใส่ถ้วยถ้วย ใส่ถ้วยกระเบื้อง ใส่จานก้นลึก ใส่ชาม หรือจะใส่ถาดใหญ่ ๆ แบบที่เวลาจะกินก็ค่อยตัดเป็นชิ้น ๆ ออกมา อย่างนั้นก็ได้อ่ะค่ะ
ซึ่งพิมพ์วุ้นเนี่ย ให้ล้างให้สะอาดนะคะ แล้วก็คว่ำไว้หรือเช็ดด้วยผ้าที่ไม่มีขนให้แห้งสนิท ก่อนจะนำมาใช้ค่ะ ^^
หลังจากเตรียมพิมพ์ไว้แล้ว ก็มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันต่อเลยค่ะ ........ ซึ่งพิมอยากจะขออธิบายนิดนึงนะคะว่า วันนี้พิมจะทำวุ้นกะทิที่มี 2 ชั้นค่ะ ชั้นล่างเป็นวุ้นใส ๆ ที่มีกลิ่นใบเตย มีมะพร้าวอ่อน และชั้นบนเป็นวุ้นสีขาวขุ่นที่มีกะทิเป็นส่วนผสมนะคะ ซึ่งวุ้นแต่ละชั้นเนี่ย เราจะต้องแยกทำทีละครั้ง โดยครั้งแรกเราจะต้องทำชั้นล่างที่มีส่วนผสมของน้ำใบเตยก่อนค่ะ แล้วพอหยอดวุ้นชั้นล่างใส่พิมพ์เรียบร้อย ก็ค่อยมาทำวุ้นชั้นบนต่อค่ะ
แต่ก่อนจะไปลงมือทำ ก็มาดูส่วนผสมของวุ้นทั้ง 2 ชั้นกันก่อนนะคะ
:: ส่วนผสม "ตัววุ้น" ::
- น้ำลอยดอกมะลิ 2 ถ้วย
- น้ำคั้นใบเตย 1/2 ถ้วย
- น้ำตาลทรายขาว 3/4 ถ้วย ... (ถ้าชอบหวานจัดใช้ 1 ถ้วย)
- ผงวุ้น 1 ชต. + 2/3 ชช.
- มะพร้าวอ่อนหั่นเป็นเส้นสั้น ๆ 1/2 ถ้วย .... (หากมีน้อยกว่านี้ จะใส่น้อยกว่านี้ก็ได้ค่ะ หรือถ้าไม่มีจะไม่ใส่ก็ได้ หรือจะใส่พวกเม็ดบัวเชื่อม แห้วในน้ำเชื่อม พวกนี้แทนก็ได้ค่ะ อร่อยเหมือนกัน)
ป.ล. มะพร้าวอ่อนไม่มีในภาพนะคะ พอดีถ่ายภาพเสร็จ เพิ่งนึกได้ว่าลืมเอามาถ่ายด้วยอ่ะค่ะ
---------------------------------------
:: ส่วนผสม "หน้าวุ้น" ::
- หัวกะทิ 2.5 ถ้วย .... (ใช้มะพร้าวขูดขาว 400-500 กรัม)
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย .... (ถ้าชอบหวานใส่เพิ่มอีกสัก 2 ชต.)
- เกลือป่นธรรมดา 1/2 ชช.
- ผงวุ้น 1 ชต. + 2/3 ชช.
ดูส่วนผสมไปแล้ว ก็มาดูวิธีทำกันต่อเลยนะคะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเราจะต้องมาทำตัววุ้นกันก่อนค่ะ ..... เริ่มด้วยการเทผงวุ้นใส่หม้อใบย่อม ๆ สักใบนะคะ จะเป็นหม้อแสตนเลส หม้อเคลือบ หรือหม้ออะไรก็ได้ค่ะ ขอให้เป็นหม้อที่สะอาดเป็นพอ
พอเทผงวุ้นหมด ก็เทน้ำลอยดอกมะลิตามลงไปนะคะ ... ซึ่งหากเพื่อน ๆ คนไหนไม่มีน้ำลอยดอกมะลิ ใช้น้ำสะอาดก็ได้ค่ะ ไม่ผิดกฎอ่ะ (แต่ความหอมอาจจะลดลงไปหน่อยนึง)
แล้วก็เอาทัพพีคน ๆ ให้ผงวุ้นละลายเข้ากับน้ำ และไม่จับตัวกันเป็นก้อน พักไว้ประมาณ 5 นาทีค่ะ
จากนั้นก็ยกหม้อวุ้นขึ้นไปตั้งบนเตาไฟนะคะ เปิดไฟกลางๆ ค่อนไปทางอ่อน (อย่าใจร้อน) คนเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งน้ำเดือด และผงวุ้นละลายหมดค่ะ
ก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป ซึ่งพิมใช้ประมาณ 3/4 ถ้วยนะคะ แต่ถ้าใครชอบให้หวานจัดหน่อย จะใส่สัก 1 ถ้วยก็ได้ค่ะ
พอใส่น้ำตาลลงไปแล้ว ก็เอาทัพพีคนๆ จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมดนะคะ ก็กรองด้วยผ้าขาวบางสัก 1 รอบ แล้วเทใส่ลงหม้อเดิม
ใส่น้ำคั้นใบเตยที่มีสีเขียวเข้มอย่างนี้ลงไป
รอจนเดือดอีกครั้งก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน เคี่ยววุ้นไปสัก 10 นาที หรือพอเหนียวนิดนึง ก็ค่อยใส่เนื้อมะพร้าวอ่อนที่เราหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้ลงไป ... แล้วก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
จากนั้นก็เอาไปหยอดใส่พิมพ์ที่เราเตรียมไว้ค่ะ หยอดให้มีความสูงสักครึ่งพิมพ์ก็พอ ส่วนครึ่งพิมพ์ที่เหลือด้านบนเอาไว้ใส่หน้าวุ้นที่เป็นกะทิ ...... แล้วก็ตั้งพักเอาไว้นะคะ
ต่อมาเราก็จะมาทำส่วนของหน้าวุ้นกะทิกันต่อเลยค่ะ ... ด้วยการเทกะทิใส่ลงไปในหม้อใบเดิม (ที่ล้างแล้ว)
แล้วก็ใส่ผงวุ้นตามลงไป (จะใส่ส่วนที่เป็นน้ำก่อน หรือส่วนของผงวุ้นก่อนก็ได้นะคะ / แต่จริง ๆ ใส่ผงวุ้นก่อนค่อยใส่น้ำ จะทำให้คนเข้ากันได้ง่ายกว่าค่ะ ^^")
คน ๆ พอให้ผงวุ้นไม่จับตัวกันเป็นก้อน แล้วก็เอาหม้อไปตั้งไฟ คนเป็นระยะ ๆ จนกระทั่งผงวุ้นละลายหมด (อย่าใช้ไฟแรงเกิน และอย่าให้กะทิเดือดพล่าน ไม่งั้นกะทิจะแตกมัน ทำให้หน้าวุ้นไม่สวยค่ะ)
ก็ใส่น้ำตาลทรายลงไป
ตามด้วยเกลือป่นนิดหน่อย (พอให้มีรสเค็มปะแหล่ม ๆ ตัดกับรสหวาน วุ้นของเราจะได้ไม่เลี่ยนจนเกินไป)
คน ๆ ให้เข้ากันจนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด และเดือดอีกทีก็ปิดไฟเตา ยกลงได้เลยค่ะ
ในช่วงนี้เองก็จะเป็นจังหวะที่วุ้นชั้นล่างของเราเริ่มเซตตัวแล้ว คือ หน้าวุ้นจะตึง ๆ ถ้าเราลองเอานิ้วจิ้มลงไปเบา ๆ จะรู้สึกได้ถึงความยืดหยุ่นอ่ะค่ะ (ถ้ารู้สึกว่ามันยังเหลวเป็นน้ำอยู่ ก็ยังใช้ไม่ได้นะคะ ต้องรอให้เซตตัวอีกนิด เพื่อไม่ให้เวลาที่เราหยอดตัววุ้นกะทิชั้นบนลงไป แล้ววุ้นมันจะไปผสมกับวุ้นชั้นล่างอ่ะค่ะ ..... ซึ่งถ้าหากไม่มีเวลา ไม่อยากรอ สามารถเอาถาดวุ้นใส่เข้าไปในตู้เย็นสัก 2-3 นาที ก็จะช่วยให้วุ้นเซตตัวได้ไวขึ้นค่ะ)
ซึ่งเมื่อวุ้นชั้นล่างเซตตัวดีแล้ว ก็ให้เราหยอดหน้าวุ้นกะทิที่เราทำไว้เมื่อกี้ ลงไปในพิมพ์ส่วนด้านบนที่เหลือไว้ได้เลยค่ะ ... ก็จะได้ออกมาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ
จากนั้นก็ตั้งพักไว้ให้วุ้นเซตตัวค่ะ หรือถ้าอยากย่นระยะเวลา ไม่อยากรอ ก็เอาไปแช่ในตู้เย็นได้เลยนะคะ .... ซึ่งพิมก็ใช้แบบหลังนี่แหละค่ะ ^^ เอาทั้งถาดไปเข้าตู้เย็นประมาณ 30 กว่านาที (เข้าจนเกือบลืม) ก็จะได้วุ้นกะทิที่รสหวานหอม มีกลิ่นกะทิ และเย็นสดชื่นออกมาหน้าตาแบบนี้ล่ะค่ะ
นี่ค่ะ ... ลองยกให้ดูถ้วยนึง เพื่อน ๆ สังเกตุเห็นมะพร้าวอ่อนที่พิมใส่ไว้ไหมค่ะ ^^
ก็นะคะ ... หากเพื่อน ๆ คนไหน ไม่รู้ว่าหน้าร้อน ๆ อย่างนี้จะทำอะไรกินดี พิมก็ขอเสนอวุ้นกะทินี่แหละค่ะ กินตอนเย็น ๆ อร่อยอย่างแรงค่า
NOTE :: แช่วุ้นในน้ำแข็ง อร่อยกว่าแช่ในตู้เย็นนะคะ เพราะความเย็นมันต่างกันจ้า
อ้อ ๆ แถมนิดนึงค่ะ ... พอดีเพิ่งนึกได้ เคยมีคนถามพิมไว้ว่าวุ้นกะทิเนี่ย ตรงตัววุ้นทำสีอื่น ใส่อย่างอื่นที่ไม่ใช่ใบเตยได้ไหม ... ซึ่งพิมขอตอบว่าได้นะคะ เพื่อน ๆ จะใส่น้ำลำไย น้ำมะพร้าว น้ำตาลสด น้ำแดงเฮลบลูบอยด์ หรือน้ำเขียวครีมโซดา ก็ได้ทั้งนั้นค่ะ แล้วแต่ความชอบ แต่.....ถ้าถามพิม เท่าที่เคยลองใส่มา 3-4 อย่าง พิมว่าใส่น้ำใบเตยหรือใส่น้ำมะพร้าวอ่อนอันนี้เวิร์คมอร์ที่สุดแล้วอ่ะค่ะ (คือมันจะเข้ากับกะทิน่ะค่ะ ส่วนอย่างอื่นไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่จ้า) ^^
ป.ล. วุ้นรูปปลาในจานด้านล่างนี่ทำให้เด็กผู้ชายข้างบ้านค่ะ อายุ 10 หรือ 11 ขวบนี่แหละ น้องเค้าอยู่โคราชกะตากะยาย จะมาอยู่กะพ่อกะแม่เค้าที่กรุงเทพฯ (ข้างบ้านพิม) ก็แค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น ... เพราะงั้นช่วงปิดเทอมพอเค้ามาอยู่ เวลาพิมทำขนมอะไร ก็เอาไปเผื่อเค้าทุกทีเลยค่ะ น้องเค้าน่ารักอ่ะ ^^