เราเคยทำสังขยาในลูกฟักทองกันมาแล้ว วันนี้พิมเลยขอเปลี่ยนเป็นมาทำฟักทองในเนื้อสังขยา หรือที่พิมมักจะเรียกติดปากว่า สังขยาฟักทอง .. กันค่ะ
........ เรื่องมันเกิดขึ้นมาจากว่า ช่วงเดือนสองเดือนนี้ ไม่รู้พิมเป็นอะไรค่ะ อยากกินแต่ของหวานๆ แล้วของหวานที่พิมอยากกินก็จะเป็นพวกขนมหวานไทย ๆ อย่างสังขยา ขนมเทียน ขนมถั่วแปบ ขนมเหนียว หรือไม่ก็ช๊อคโกแลตอ่ะนะคะ ขนมฝรั่งอย่างเค้ก คุ๊กกี้ พายนี่ ไม่อยากกินเลยอ่ะค่ะ .... แต่ด้วยความที่ช่วงนี้พิมอยู่ในช่วงกำลังควบคุมอาหาร ช่วงที่ผ่านมาถึงแม้จะอยากกินมากแค่ไหน แต่พิมก็ไม่ค่อยจะลงมือทำกินอ่ะค่ะ อย่างมากก็แค่ไปเซเว่น ซื้อช๊อคโกแลต Van แท่งละ 30 บาทมาแท่งนึง หักเป็น 5 ชิ้น แล้วก็กินวันละชิ้นเท่านั้นเองอ่ะค่ะ
แต่มาเมื่อเที่ยงนี้เหมือนร่างกายพิมมันจะบอกว่าไม่ไหวแล้วล่ะค่ะ อย่างน้อยพิมจะต้องทำอะไรหวาน ๆ กินสักหนึ่งอย่างแล้วล่ะ ว่าแล้วพิมก็เลยไปค้น ๆ ตู้เย็นดูค่ะว่าพอจะมีเสบียงหรือวัตถุดิบอะไรที่พอจะให้พิมเอามาทำขนมไทยๆ ที่มีรสหวานๆ กินได้บ้าง ..... ก็ไปเจอเข้ากับฟักทองที่เหลือจากผัดฟักทองวันก่อนอยู่ 1 เสี้ยวใหญ่ ไปเจอไข่เป็ดที่น้องสะใภ้หอบมาจากกำแพงเพชรเมื่อตอนต้นเดือน และก็ไปเจอน้ำตาลปี๊บที่พิมมักจะซื้อติดบ้านไว้อยู่เป็นประจำ แถมยังมีมะพร้าวขูดขาวที่เหลือจากทำน้ำกะทิทุเรียนอยู่อีกเกือบครึ่งโล..... ก็เลยตัดสินใจว่าเอาล่ะ งั้นทำสังขยาฟักทองกินดีกว่าค่ะ
ว่าแล้วก็มาดูหน้าตาสังขยาฟักทองของพิมกันก่อนนะคะ ........ นี่เลยค่า หน้าตาดีไหม ^^ (แต่ที่แน่ ๆ หน้าตาดีกว่าคนทำแน่นอน หุหุ)
ดูหน้าตาไปแล้วก็มาดูส่วนผสมกะวิธีทำกันนะคะ
:: ส่วนผสม ::
- ไข่เป็ดใบใหญ่ 5 ใบ
- หัวกะทิข้น ๆ 1 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลมะพร้าว) 3/4 ถ้วย หรือถ้าชอบหวานก็ใส่ 1 ถ้วย (แต่พิมว่ามันหวานไปนะคะ)
- เกลือป่นนิดหน่อย
- ฟักทองปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ 2 ถ้วย
- ใบเตยแก่ ๆ 5 ใบ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นก็ให้ตอกไข่ทั้ง 5 ใบ ใส่ในกาละมังใบย่อม ๆ สักใบนะคะ ...... ซึ่งเวลาตอกไข่เนี่ย ให้ตอกทีละใบใส่ถ้วยเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยเทรวมใส่ในกาละมังใบใหญ่นะคะ เพราะไม่งั้นหากตอกใส่กาละมังใหญ่ทีเดียวเลย หากมีไข่สักใบเสียขึ้นมา เราก็จะเสียไข่ทั้งกาละมังเลยนะคะ
แล้วพอตอกไข่ใส่กาละมังเสร็จเรียบร้อย ก็ให้เทหัวกะทิใส่ลงไป ตามด้วยเกลือป่นนิดหน่อย และน้ำตาลปี๊บซึ่งวันนี้พิมเลือกใช้น้ำตาลมะพร้าวค่ะ (น้ำตาลมะพร้าวกลิ่นและรสรวมไปถึงสีจะค่อนข้างเข้มกว่าน้ำตาลโตนด)
จากนั้นก็ขยำ ๆ ให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี ...... (ใช้ใบเตยช่วยในการขยำ และใบเตยยังช่วยดับกลิ่นคาวของไข่ด้วยค่ะ)
ได้ออกมาเป็นแบบนี้
ก็จัดการกรองด้วยผ้าขาวบางหนา 2 ทบ หรือกระชอนที่ตาถี่มาก ๆ ซะ 1 ครั้ง
แล้วเทใส่ภาชนะที่เราจะใช้นึ่ง
โรยด้วยฟักทองที่เราหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ไว้แล้วลงไป (ขนาดของฟักทอง จะเล็กกว่านี้หรือใหญ่กว่านี้อีกนิดหน่อยก็ไม่เป็นไรค่ะ)
ได้ออกมาเป็นแบบนี้
นำไปนึ่งในน้ำเดือดจัด ประมาณ 35 - 45 นาที (ขึ้นกับความหนาของภาชนะ + ความหนาของสังขยา + ความแรงของไอน้ำ)
หากต้องการให้เนื้อสังขยาเนียนมากๆ ระหว่างนึ่ง ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อนค่ะ แต่ถ้าต้องการให้เนื้อสังขยาขรุขระหน่อย เป็นสังขยาแบบโบราณก็ใช้ไฟแรงในการนึ่งนะคะ
และหลังจาก 40 นาทีผ่านไป เราก็จะได้สังขยาฟักทองออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ
ก็ให้เราปิดไฟเตา ยกถาดสังขยาออกมาพักไว้ข้างนอกค่ะ ...... แล้วพักสังขยาไว้สัก 20 นาทีหรือจนกระทั่งเซตตัวดี ก็ค่อยตักมากินอ่ะค่ะ
สำหรับคนที่ไม่ชอบฟักทอง อยากใส่อย่างอื่นแทนฟักทอง เช่น เผือก ขนุน หรือจะเป็นพวกเมล็ดธัญพืชอย่าง ลูกเดือย ถั่วดำ ถั่วแดงที่ต้มสุกแล้วก็ได้นะคะ
อ้อๆ ... อีกอย่างเกือบลืม ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีไข่เป็ด จะใช้ไข่ไก่ก็ได้ค่ะ แต่เนื้อสังขยาจะนิ่มกว่า + เซตตัวยากกกว่าที่เราใช้ไข่เป็ดนะคะ
หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองทำกันดูค่ะ ไม่ยาก ไม่ถึง 1 ชม. ก็ได้กินแล้วค่ะ
แถมท้ายก่อนจบเมนูนี้ด้วย "ข้าวตอก-น้ำกะทิทุเรียน" ไม่รู้จะมีเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้องๆ ในนี้เคยทานบ้างไหม .... หากไม่เคย พิมขอบอกว่า อร่อยมากเลยนะคะ ถ้ามีโอกาส ลองหาทานดูจ้า