สมัยอยู่ใต้เคยกินน้ำพริกระกำที่คนงานทำมาฝาก อร่อยมาก มาวันนี้เลยขอลงมือทำกินเองซะหน่อยค่ะ

........ สืบเนื่องจากเมื่อสักสองสามอาทิตย์ก่อนโน้นพิมถามแม่ว่า ที่สวนตอนนี้มีระกำแก่ที่ยังเปรี้ยวมากๆ อยู่ไหม  จะเอามาทำน้ำพริกระกำ กะน้ำพริกลงเรืออ่ะ   แม่พิมก็บอกว่าไม่รู้ ไม่ได้เดินเข้าไปดูแถวต้นระกำเป็นเดือน ... คือประมาณว่าปลูกแล้วก็ทิ้งอ่ะ  (พูดว่าเป็นป่า จริง ๆ มีประมาณสิบกว่าต้นเองค่ะ)   แต่แม่ก็บอกว่า ถ้าเจอจะตัดมาให้ล่ะกัน  พิมก็อืมๆๆ .... และก็ลืมไปเลยอ่ะค่ะ

จนเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา .... อยู่ดี ๆ แม่พิมก็หิ้วสละเปรี้ยว 2 กระปุกกลางๆ มาทิ้งไว้ให้ค่ะ  พิมก็ถามแม่ว่าตัดมาทำไมอ่ะสละเปรี้ยว ไม่ได้อยากได้ง่ะ ..... แม่ก็บอกว่า ก็ระกำเปรี้ยวที่พิมอยากได้ มันไม่มี  คือมีน่ะนะ แต่มันยังไม่แก่ ต้องรออีกสักเดือนนึง  แต่แม่ไปเห็นว่ามันมีสละเปรี้ยวอยู่ 2 กระปุกที่ใช้ได้  แม่ก็เลยตัดสละเปรี้ยวมาให้ เผื่อจะใช้แทนกันได้อะไรประมาณนั้นอ่ะค่ะ

ว่าแล้ว .... เพื่อไม่ให้เสียของ พิมก็เลยจัดการเอาสละ 1 กระปุกกว่า ๆ มาทำน้ำสละกินกันค่ะ  ส่วนสละที่เหลืออีก 8-9 ผล ก็เอามาทำน้ำพริกสละแบบที่เห็นในภาพนี่แหละค่ะ  (ส่วนน้ำพริกลงเรือ รอระกำของแท้ก่อนนะคะ ไม่งั้นเดี๋ยวไม่อร่อยเต็มที่อ่ะจ้า)

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อสละเปรี้ยว 8 ผล
- กุ้งแห้งเนื้อป่นละเอียด 1 ชต.
- กะปิห่อใบตองปิ้งให้หอม 1 ชต.
- พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด .... (ค่อนข้างเผ็ด)
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก 15 กลีบ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 -3/4  ชต.
- น้ำมะนาว 2 ซีก
- น้ำปลา 1 ชช.

ป.ล. ปริมาณน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาวที่ใช้  ... ขึ้นอยู่กับความเปรี้ยวหวานของสละ  ความเค็มของกุ้งแห้งและกะปินะคะ

:: วิธีทำ ::

ตามธรรมเนียมนะคะ ก่อนจะไปลงมือทำ พิมก็ขอมาอธิบายรายละเอียดส่วนผสมแต่ละอย่างก่อนค่ะ แต่ว่าสำหรับเมนูนี้ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปรุงและส่วนผสมพื้นฐาน เพราะงั้นพิมเลยขออธิบายแค่บางอย่างนะคะ ^^

อันดับแรกเราก็มาดูที่นางเอกของเราในวันนี้ก่อนนะคะ ซึ่งก็คือ สละนั่นเองค่ะ

สำหรับสละเนี่ย ... วันนี้พิมเลือกใช้สละที่มีรสเปรี้ยวปรี๊ดดดนำ  (จริง ๆ ไม่ได้เลือกหรอกค่ะ มันมีแต่อย่างนี้อ่ะ) .....  ก็เอาสละมาปอกเปลือกนะคะ  ดึงเยื่อขาว ๆ เส้นสีขาวๆ  ออก ล้างให้สะอาด แล้วก็ฝานเอาแต่เนื้อไว้แบบนี้ค่ะ   (ในภาพนี่จากสละประมาณ 8 ผล)

ส่วนกะปิ ... เลือกใช้กะปิอย่างดี  เอามาห่อใบตองสัก 3 ชั้น แล้วไปย่างบนเตาถ่านให้หอมๆ ค่ะ

พริกขี้หนูสวน ..... ดูในภาพจะเห็นว่าเม็ดใหญ่หน่อย พอดีเป็นพริกรุ่นแรกของต้นพริกต้นนี้ค่ะ  ก็เลยเม็ดโตนิดนึง แต่เดี๋ยวพอออกรุ่นสองรุ่นสาม เม็ดก็จะเล็กลงค่ะ ... นำมาล้างให้สะเด็ด แล้วเด็ดขั้วทิ้งไป

กุ้งแห้งเนื้อ .... แช่น้ำให้นิ่ม  เอาขึ้นใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำ แล้วโขลกให้ละเอียดแบบในภาพนี่ค่ะ

เมื่อเราเตรียมส่วนผสมและเครื่องปรุงทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็มาลงมือทำกันค่ะ

เริ่มต้นด้วยการหงายครกขึ้นมา ใส่กระเทียมกลีบเล็กลงไป (ปอกแค่เปลือกแข็ง ๆ ออก)  โขลกให้ละเอียด แล้วใส่พริกขี้หนู  โขลกให้แหลกตามชอบ (แหลกมากเผ็ดมาก)   จากนั้นก็ใส่กะปิที่เราย่างไว้ให้หอมแล้ว

ตามด้วยน้ำตาลปี๊บอย่างดี  กุ้งแห้งป่น  เนื้อสละ  จากนั้นใช้สากบดเบา ๆ พอให้กะปิ น้ำตาลละลาย แต่เนื้อสละยังคงเป็นชิ้นอยู่  ........    แล้วแอบเอานิ้วจิ้มชิมรสชาตินิดนึงว่าเป็นประมาณไหน  หากขาดเปรี้ยวไปก็เติมมะนาว ขาดเค็มก็เติมน้ำปลานะคะ  .... พอเติมเสร็จก็ใช้สากคน ๆ ให้เข้ากันอีกที

ป.ล.  ปริมาณน้ำปลากับมะนาวที่เติม รวมไปถึงน้ำตาลด้วยเนี่ย ...  จะไม่เท่ากันในแต่ละครกของแต่ละคน  ขึ้นอยู่กับว่าสละที่เพื่อน ๆ ใช้ เปรี้ยวหวานขนาดไหน และกะปิกุ้งแห้งมีความเค็มมากน้อยขนาดไหนอ่ะค่ะ ซึ่งถ้าสละเปรี้ยวสุด ๆ หรือใช้ระกำเปรี้ยวปรี๊ดแทนสละ บางทีอาจจะไม่ต้องเติมน้ำมะนาวเลยก็ได้ .... ยังไงก็ตำไปขิมไปให้ได้ 3 รสนะคะ

ก็เป็นอันว่าเราจะได้น้ำพริกสละออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ ........ (อารมณ์จะประมาณน้ำพริกกะปิที่ข้นมากๆ)

ก็ตักใส่ถ้วย ... เอาไว้ก่อนค่ะ

จากนั้นหันไปมองซ้ายมองขวารอบบ้าน ดุสิว่ามีผักอะไรพอจะเด็ดเอามากินกับน้ำพริกสละได้บ้าง ก็ไปเจอเจ้านี่ล่ะค่ะ ดอกแค - ยอดแค - โหระพา  (และก็กะหล่ำในตู้เย็น) ก็จัดแจงเอามาล้างน้ำ แล้วเอาไปลวกให้สุกซะหน่อย (ยกเว้นโหระพา)

และก็แอบ ๆ ไปค้น  ๆ ในตู้เย็น เจอปลาทูที่ซื้อมาเมื่อวาน 2 ตัว ก็เอามาทอดให้เหลืองกรอบซะค่ะ

และแล้ว ... เราก็จะได้น้ำพริกสละ ที่ไว้กินคู่กับผักลวกและปลาทูทอด ...  ออกมาหน้าประมาณนี้นะคะ

ป.ล. ที่โรยหน้าในถ้วยน้ำพริก คือ สละหั่นชิ้นเล้ก ๆ ค่ะ  ใส่เพื่อเพิ่มรสสัมผัสและกลิ่นสละให้มากขึ้นจ้า

ก็ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพมื้อเย็น (ไม่กินข้าว) ในช่วงที่อยากลดน้ำหนัก และไม่สร้างภาระให้ร่างกายอีกอย่างนึง

ถ้าเพื่อนๆ  สนใจก็ลองทำกันดูนะคะ .......... ไม่ยากๆ  พิมรับประกัน

ยังไงใครทำแล้ว มาบอกเล่าความอร่อย (หรือไม่อร่อย) กันบ้างนะคะ .. พิมจะรอจ้า