วันนี้ 1 กันยายน 2554 เป็นวันแรกที่พิมตั้งใจจะเริ่มลดน้ำหนักอย่างจริงจังซะที พิมก็เลยไม่อยากกินเนื้อสัตว์ที่ย่อยยากหรืออาหารที่มันหนักท้องมากๆ อ่ะค่ะ
.. แต่พิมอยากจะกินอะไรที่เบาๆ ที่ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวเยอะ ไม่ต้องใช้พลังงานในการย่อยเยอะ ไม่มีไขมันเยอะ (= มีไขมันน้อย หรือไม่มี) อีกทั้งไม่อยากเสียเงินเพิ่มเพื่อซื้อของมาทำกับข้าว เลยเลือกทำเมนูน้ำพริกมะม่วงซึ่งวัตถุดิบแทบทุกอย่างแม้กระทั่งมะม่วง และผักสดที่ใช้กิน .... ก็หาได้จากในบ้านทั้งหมดอ่ะค่ะ
และถือโอกาสที่ช่วงนี้พิมทำน้ำพริกมะม่วงกินบ่อย (มาก) วันนี้ในโอกาสที่ทำกินอีกที พิมก็เลยขอเก็บภาพ ทั้งภาพส่วนผสมและภาพวิธีทำมาฝากเพื่อนๆ ตามคำสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่ราว 2-3 อาทิตย์ก่อนอ่ะค่ะ ^^
:: ส่วนผสมและวัตถุดิบ ::
- กระเทียมไทย 15 กลีบเล็ก
- พริกขี้หนูสวน 8-10 เม็ด (หรือตามความเผ็ดที่ชอบ)
- กะปิอย่างดี 1 ชต.
- น้ำตาลปี๊บ (น้ำตาลโตนด) 1 + 1/2 ชต.
- น้ำปลา 1 ชต.
- มะม่วงเปรี้ยวมาก 1/2 ลูกกลางๆ หรือประมาณเกือบๆ 1/2 ถ้วย
- น้ำมะนาว 1 ซีก
- ใบตองสำหรับห่อกะปิย่าง
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเลยจะตำน้ำพริกที่มีส่วนผสมของกะปิให้อร่อย เราก็ต้องเอากะปิไปปิ้งไฟเพื่อให้หอมซะก่อนนะคะ .... วิธีเอากะปิไปปิ้งไฟก็คือ ให้เราหาใบตองขนาด 1 คืบ * 1 คืบมาสัก 2 ชิ้นค่ะ เช็ดให้สะอาด คว่ำใบตองสลับหน้าหลังกันอย่างในภาพ แล้วเอาก้อนกะปิวางลงไป ห่อและกลัดให้เรียบร้อยด้วยไม้กลัด แล้วนำไปปิ้งบนเตาไฟ (ไฟอ่อนๆ) จนกะปิส่งกลิ่นหอม และใบตองชั้นนอกไหม้ (ใช้เวลาไม่นาน) ก็ยกลงมาพักไว้ให้อุ่น ๆ ก่อนที่จะแกะเอาไว้แต่กะปิค่ะ
จากนั้นก็หันมาจัดการกับมะม่วงกันต่อค่ะ ... ย้ำๆ นิดนึงว่ามะม่วงเนี่ยต้องเป็นมะม่วงเปรี้ยวนะคะ และก็ต้องแก่จัดด้วย (แต่ยังไม่สุก) ถึงจะเอามาตำน้ำพริกกะปิอร่อย ที่สำคัญอีกอย่างต้องเป็นมะม่วงที่เนื้อแข็งค่ะ หากเป็นมะม่วงเนื้อนิ่มอย่างมะม่วงน้ำดอกไม้ ตามความรู้สึกส่วนตัวของพิม พิมว่าเอามาตำน้ำพริกมะม่วงไม่อร่อยอ่ะค่ะ
ก็เอามะม่วงแก่มา 1 ลูกนะคะ จัดการปอกเปลือก ล้างน้ำ แล้วก็สับละเอียดแต่ไม่ต้องละเอียดมาก ให้มีขนาดประมาณในภาพด้านล่างอ่ะค่ะ (ใช้วิธีสับนะคะ ห้ามหั่น และก็ห้ามใช้ที่ขูดมะละกอขูดเอานะคะ) .... สับเสร็จก็พักไว้ก่อน
เมื่อเตรียมกะปิ เตรียมะม่วงเสร็จ ก็มาลงมือตำน้ำพริกมะม่วงกันค่ะ .. เริ่มต้นด้วยการปอกเปลือกกระเทียมกลีบเล็ก (พิมใช้กระเทียมไทย) แล้วหย่อนใส่ลงไปในครกประมาณ 15 กลีบค่ะ ตามด้วยพริกขี้หนูสวนที่แก่แล้ว (พริกขี้หนูอ่อน จะไม่หอม) ใส่ลงไปสักประมาณ 10 เม็ด หรือมากน้อยกว่านี้ตามความเผ็ดที่ต้องการค่ะ ..... แล้วก็โขลกให้กึ่งละเอียดกึ่งหยาบแบบในภาพ
จากนั้นก็ใส่กะปิ น้ำตาลปี๊บตามลงไป บดด้วยสากเบา ๆ มือให้เข้ากันดี ตามด้วยมะม่วงเปรี้ยวที่เราสับเอาไว้ โขลกเบา ๆ ให้มะม่วงนิ่มและแหลกพอประมาณ
ก็จะได้ออกมาเป็นลักษณะประมาณนี้นะคะ
เติมน้ำมะนาวกับน้ำปลาตามลงไป ... น้ำมะนาวนี่ไม่ต้องใส่มากนะคะ พิมใส่แค่มะนาวซีกเดียว เพราะว่าเดี๋ยวเราจะได้ความเปรี้ยวจากมะม่วงจากมะม่วงด้วยอ่ะค่ะ .... แต่ความเปรี้ยวจากมะม่วงเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่กลมกล่อมพอ เราเลยจะต้องใส่น้ำมะนาวเพิ่มลงไปสักหน่อย และก็เพิ่มรสให้กลมกล่อมด้วยน้ำปลาดี ๆ อีกสักราว ๆ 1 ชต. ค่ะ
แล้วก็คนให้เข้ากันดี ...... ลองชิมรสชาติดู ..... บางทีหากมะม่วงเปรี้ยวน้อยไป เราอาจจะต้องเติมน้ำมะนาวเพิ่ม หากมะม่วงเปรี้ยวมากไป กะปิเค็มไป เราอาจจะต้องเติมน้ำตาลเพิ่ม หรือถ้ากะปิไม่ค่อยเค็มสักเท่าไหร่ เราอาจจะต้องเติมเติมน้ำปลาเพิ่ม .... ก็ประมาณนี้อ่ะค่ะ .... ก็เอารสชาติที่ชอบเลยนะคะ (แต่แนะนำนิดนึงว่าหลังจากตำทิ้งไว้สักพัก น้ำพริกจะเปรี้ยวเพิ่มมากขึ้นอีกหน่อย เพราะว่าน้ำจากมะม่วงมันจะออกมานะคะ)
แล้วเราก็จะได้น้ำพริกมะม่วง ... ออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ ...... ขอบอกว่า แหล่มมากกกกก เลยค่ะ ^^ คือจะว่าไงดีอ่ะ รสชาติเค้าแบบว่าจะเป็นประมาณสามรสอ่ะนะคะ เปรี้ยวนำ หวานเค็มตามมานิด ๆ หอมกลิ่นมะม่วง หอมกลิ่นกะปิ .. สรุปว่าอร่อยค่ะ
และด้วยความที่วันนี้พิมไม่ค่อยจะมีผักอะไรติดตู้ พิมก็เลยไปเก็บมะเขือสีม่วง ๆ ถั่วพู กะยอดแคจากต้นแคที่แม่ปลูกไว้หน้าบ้านมากินคู่กับน้ำพริกมะม่วงอ่ะค่ะ
ขอบอกว่าด้วยความอร่อยของตัวน้ำพริก บวกกับความสดของผักที่เพิ่งเก็บมาได้ ทำให้พิมกินข้าวไม่ยุบจานเลยค่ะ แบบว่ากินแต่ผักจิ้มน้ำพริกตลอด จนกินไปกินมาผักเกือบหมดจาน แต่ข้าวยังหมดไม่ถึงครึ่งจานเลยอ่ะค่ะ ^^
ก็ดูหน้าตาน้ำพริกมะม่วงกันชัด ๆ อีกทีนะคะ ...... หน้าตาประมาณนี้เลย ยังไงเพื่อน ๆ คนไหนสนใจก็ลองไปทำดูนะคะ ถือเป็นอีกหนึ่งน้ำพริกที่อร่อยแต่ทำง่ายมาก และพิมอยากให้ทุกคนลองทำกันดูค่ะ ^__^