วันนี้พิมจะมาชวนทำเค้กกล้วยหอมไซส์มินิกันค่ะ  เป็นสูตรที่พิมทำขายมาหลายปีมาก  ทำทีไรก็ขายดีตลอด  ไม่เคยเหลือให้ต้องเก็บกลับบ้านเลยนะคะ 

เค้กกล้วยหอมสูตรนี้นอกจากจะเป็นสูตรที่ทำง่ายแล้ว   ก็ยังไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมากมาย แค่มีแค่ตะกร้อมือและเตาอบตัวเล็ก ๆ สักตัวก็ทำได้แล้วค่ะ  ...... วันนี้พิมไม่พูดเยอะ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยนะคะ 😊😊

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง :: 

- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
- เบคกิ้งโซดา 3/4 ช้อนชา
- ผงฟู 1/2 ช้อนชา
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำตาลทรายป่น 200 กรัม

- ไข่ไก่ 2 ฟอง  (พิมใช้เบอร์ 2) 
- น้ำมันรำข้าว 160 กรัม   หรือน้ำมันรำข้าว 80 กรัม + เนยละลาย 80 กรัม
- กลิ่นวนิลา 1 ช้อนชา

- กล้วยหอมสุกงอม 200 กรัม
- นมสดรสจืด 100 กรัม 

- เม็ดมะม่วงอบสุก บดละเอียด/หยาบตามชอบ  สำหรับโรยหน้าเค้ก

*** เอากล้วยหอมที่สุกงอมแล้ว ปอกเปลือกกล้วยออก  เก็บใส่กล่องแช่ตู้เย็นไว้คืนนึงก่อนนำมาใช้ เพื่อเป็นการบ่มกล้วย จะทำให้เค้กมีกลิ่นหอมของกล้วยมากขึ้นค่ะ

*** วันนี้พิมทำทีเดียว 2 สูตรครึ่ง เลยใช้ไข่ 5 ฟอง แต่ 1 สูตรคือใช้ไข่ 2 ฟอง เบอร์ 1 หรือเบอร์ 2 ก็ได้นะคะ 

:: วิธีทำ ::

อันดับแรก เราจะมาเตรียมในส่วนของกล้วยกันก่อนค่ะ  .... ให้เราหยิบกล้วยหอมที่เตรียมไว้ หั่นเป็นท่อนสั้น ๆ (จะได้ไม่ลำบากเครื่องปั่น)  แล้วใส่ลงในโถปั่นน้ำผลไม้  ตามด้วยนมสดรสจืดนะคะ    จากนั้นก็เอาไปปั่นให้ละเอียด ... พอปั่นเสร็จ ก็พักเอาไว้ก่อนค่ะ 😊

จากนั้น ... ให้เราหยิบกะละมังมาใบนึงนะคะ  

สำหรับคนที่ชอบเค้กกล้วยหอมแบบนุ่มฟูเบา เนื้อละเอียด ก็ให้ร่อนแป้ง  + ผงฟู  + เบคกิ้งโซดา +  เกลือ  ใส่ลงในกะละมังค่ะ    (ร่อนครั้งเดียวพอน๊า)    พอร่อนเสร็จก็ใส่น้ำตาลทรายตามลงไป    ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน  แล้วพักส่วนนี้ไว้ก่อนนะคะ  (เรียกส่วนนี้ว่า กะละมังของแห้ง)  😊

แต่ ... สำหรับคนที่ชอบเค้กกล้วยหอมที่เนื้อขนมไม่ละเอียดมาก และมีความแน่นนิด ๆ  ก็เทส่วนผสมทั้ง 5 อย่างใส่ในกะละมัง  แล้วเอาตะกร้อมือคนให้เข้ากันได้เลย โดยไม่ต้องร่อนค่ะ  😊 

ในกะละมังอีกใบ ให้เราใส่น้ำมันพืช ไข่ไก่ และกลิ่นวนิลาลงไป แล้วใช้ตะกร้อมือคนไว ๆ ให้เข้ากันนะคะ  (เรียกส่วนนี้ว่า กะละมังของเหลว) 

จากนั้นนำส่วนผสมในกะละมังของเหลว  เทลงในกะละมังของแห้ง  ตามด้วยกล้วยที่เราบดไว้  แล้วใช้ตะกร้อมือคนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันค่ะ   ก็เป็นอันว่าเราได้ส่วนผสมของเค้กกล้วยหอมที่พร้อมจะเอาไปอบแล้วนะคะ    ^_^ 

ถึงตรงนี้ก็ให้เราเริ่มวอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาได้เลยจ้า

สำหรับพิมพ์ขนมที่พิมจะใช้อบเค้กกล้วยหอมในวันนี้  เป็นพิมพ์ถ้วยจิ๋วตามแบบในภาพเลยค่ะ   ..... สำหรับตัวถาดเป็นแบบ 48 หลุม (แบบ 24 หลุมก็มีนะ)  พิมซื้อมาจากงานอะไรสักอย่างที่เมืองทองเมื่อหลายปีมาแล้ว   อาจจะอบได้แค่ครั้งละ 48  ชิ้น   แต่สะดวกตรงที่ไม่ต้องมานั่งเรียงถ้วยใส่ถาดเอง ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย  ที่สำคัญล้างทำความสะอาดง่ายกว่าแบบถ้วยเดี่ยวๆ  ด้วยนะคะ    ส่วนตัวถ้วยกระดาษเป็นถ้วยสีขาว  พิมซื้อที่แมคโคร แถวนึงน่าจะมีประมาณ 600 ถ้วย ราคา 40 กว่าบาทค่ะ  

*** สำหรับพิมพ์ขนมแบบที่พิมใช้ เดี๋ยวนี้พิมเห็นมีขายใน Lazada / Shopee  ด้วย  เผื่อใครสนใจ พิกัดตามนี้เลยนะคะ 

Shopee  ร้านที่ 1 >> https://shope.ee/7KMOLS5BWS
Shopee  ร้านที่ 2 >> https://shope.ee/3AWpNurLf6

Lazada >> https://s.lazada.co.th/l.bMD2

เมื่อเตรียมพิมพ์เตรียมถ้วยกระดาษเรียบร้อยแล้ว  ก็หยอดส่วนผสมลงในถ้วยได้เลย  หยอดประมาณ 3/4 ของถ้วยนะคะ   เสร็จแล้วก็โรยเม็ดมะม่วงนิดหน่อย เพื่อให้สวยงาม และจะช่วยทำให้หน้าขนมนูนสวยกว่าไม่โรยด้วยค่ะ     ถ้าไม่ชอบเม็ดมะม่วงจะใช้เป็นอย่างอื่น เช่น อัลมอนด์ ถั่วลิสง เม็ดทานตะวัน พวกนี้ก็ได้นะคะ 

 จากนั้นก็เอาเข้าอบที่อุณหภูมิ 200 องศา ไฟบนล่าง ประมาณ 13 นาที หรือจนกว่าจะได้ขนมสีเหลืองสวยตามที่ชอบค่ะ 

เสร็จแล้วเราก็จะได้เค้กกล้วยหอมจิ๋วออกมาหน้าตาอย่างในภาพนี้เลยค่า  ซึ่งตอนที่อบออกมาใหม่ๆ  หน้าขนมจะแห้ง และตัวขนมจะยังติดถ้วยกระดาษอยู่    แนะนำว่าให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 2-3 ชม. ก่อนค่อยกินนะคะ จะทำให้เค้กมีความนุ่มชุ่มฉ่ำมากขึ้น  หน้าไม่แห้งแข็ง และเวลาแกะ ก็ไม่ติดกระดาษด้วยค่ะ 😊 

เค้กกล้วยหอมสูตรนี้  (จริง ๆ ก็แทบจะทุกสูตรที่ไม่ได้ใส่สารกันบูด)  จะอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ประมาณ 3 วันนะคะ แต่ถ้าใครอยากจะทำแล้วเก็บไว้กินนาน ๆ ก็เอาแช่ตู้เย็นไว้เลย  อยู่ได้ประมาณ 5-7 วันค่ะ  

สำหรับเค้กกล้วยหอมสูตรนี้ ปกติแล้วถ้าพิมไม่ได้ทำขายก็จะทำให้หลานกินนะคะ   หลานพิมชอบมากเลย  กินมาตั้งแต่อายุขวบกว่าๆ  จนตอนนี้ 8 ขวบแล้วก็ยังชอบมากอยู่เลยค่ะ     เค้าว่ามันนุ่ม หวานไม่มาก กินแล้วอร่อยไม่ฝืดคอ  ที่สำคัญหอมกล้วยสุด ๆ ไปเลยค่า  

ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ  ติดขัดตรงไหนก็มาถามไถ่กันได้ บางครั้งพิมอาจจะตอบช้าเพราะว่าติดงานอื่น ๆ  แต่ว่าจะเข้ามาตอบให้แน่นอน .... แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่ะ 😊😊