วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศทำอาหารฟิวชั่น สไตล์ไทย-อิตาลี กันบ้างดีกว่าเน๊าะคะ  กับ  #ลาซานญ่าแกงเขียวหวานเนื้อจ้า 

เรื่องมันเกิดจากว่า วันก่อนพิมไปเดินที่ห้าง Foodland  แถวบ้านค่ะ   แล้วเห็นเนื้อบดในตู้แช่สวยดี  พิมก็เลยอดใจไม่ได้ ซื้อติดไม้ติดมือกลับมาซะ 1 กิโล กะว่าจะเอามาทำผัดกะเพรากินไปเรื่อยๆ  จนกว่าจะเบื่อนะคะ ^^"   แต่ปรากฎว่ากินมา 5 มื้อแล้ว  เนื้อบดก็ยังไม่หมดซะที  แถมพิมก็เริ่มเบื่อๆ  กะเพราเนื้อแล้ว  >_<   ก็เลยลองเปลี่ยนมาทำเป็นลาซานญ่าแกงเขียวหวานเนื้อดูบ้างอ่ะค่ะ   ^^   

 :: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- แผ่นลาซานญ่า 8 แผ่น (หรือมากน้อยกว่านี้ขึ้นกับขนาดภาชนะที่ใช้อบ และจำนวนชั้นที่ต้องการ) 
- เนื้อสับ 400 กรัม
- กะทิอัมพวา 1 ขวดเล็ก
- น้ำเปล่า 100 มิลลิลิตร
- พริกแกงเขียวหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- เห็ดหอมสด หั่นเป็นชิ้น 100 กรัม
- เห็ดแชมปิญอง หั่นเป็นชิ้น 100 กรัม
- ใบมะกรูดซอย 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบโหระพาเด็ด 1 ถ้วย  (ถ้าใบใหญ่ ให้หั่นหยาบๆ) 
- พริกชี่ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด 
- มอสเซอเรล่าชีส  300 กรัม

อ่านวิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง ได้ >> ที่นี่ << 

:: วิธีทำ ::

เริ่มต้นเราก็มาดูที่แผ่นลาซานญ่ากันก่อนค่ะ ....... สำหรับแผ่นลาซานญ่าเนี่ย โดยปกติทั่วไปที่ขายตามซุปเอร์มาร์เกตทั่วไปในเมืองไทย จะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน  ก็คือ แบบต้องต้มให้สุกก่อนใช้ และแบบเอาไปใช้ได้เลยโดยไม่ต้องต้มนะคะ     (จะมีบอกไว้ข้างกล่อง)  ซึ่งวันนี้พิมเลือกใช้เป็นแบบที่ต้องต้มก่อน  เพราะพิมรู้สึกว่าแบบนี้อร่อยกว่า  และที่สำคัญคือมีติดครัวอยู่แล้ว ไม่ต้องไปซื้อเพิ่มอ่ะค่ะ ^_^

ส่วนวิธีการต้มแผ่นลาซานญ่า ก็ไม่ยุ่งยากเลยนะคะ   แค่ให้เราใส่น้ำลงในกระทะก้นลึก ปริมาณน้ำสูงสัก 4 นิว เอากระทะตั้งไฟกลาง พอน้ำเดือดก็ค่อยๆ  หย่อนแผ่นลาซานญ่าลงไปทีละแผ่น และก็ต้มไปเรื่อยๆ  ประมาณ 8-10 นาที ตามที่ระบุไว้ข้างกล่อง  พอแผ่นลาซานญ่าสุก ก็หยิบออกมาใส่ในน้ำธรรมดา แล้วพักใส่ชามไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ

ระหว่างนั้นเราก็จะมาทำแกงเขียวหวาน เพื่อใช้เป็นซอสของลาซานญ่านะคะ 

ก็ให้เราตั้งกระทะบนเตา  ใส่กะทิอัมพวาลงไปครึ่งขวด  แล้วเปิดไฟกลางค่อนมาทางอ่อน แต่ไม่ต้องอ่อนมากค่ะ 

พอกะทิเดือดสักแป๊บบบ เราก็ใส่พริกแกงเขียวหวานลงไปผัดให้หอมนะคะ 

แล้วก็ใส่เนื้อบดลงไป  (แนะนำให้ใช้เป็นแบบติดมันนะคะ จะทำให้แกงของเราอร่อยมากๆๆๆๆๆ) 

ผัดไปผัดมาจนเนื้อสุกและเข้ากับพริกแกงเขียวหวานดี 

ก็เติมกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยน้ำเปล่าอีกเกือบๆ ครึ่งขวดค่ะ 

แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ และน้ำปลาดี ๆ นะคะ 

คนให้น้ำตาลปี๊บละลาย  ก็ลองเอาช้อนตักน้ำแกงในกระทะขึ้นมาชิมสักหน่อย ว่ารสไปทางไหนนะคะ   ซึ่งปกติก็จะออกเค็มนำนิดๆ  แต่ไม่มาก เพราะเดี๋ยวตอนเราเอาไปอบจะได้ความเค็มจากชีสขึ้นมาอีกอ่ะค่ะ   ถ้าขาดรสอะไรไปก็เติมเพิ่มตามชอบใจนะคะ   

และเมื่อได้รสที่ชอบแล้ว ก็ใส่เห็ดทั้งสองอย่างลงไป 

ตามด้วยใบมะกรูดซอย  ใบโหระพา พริกชี้ฟ้าแดง   

แล้วผัดให้เข้ากันอีกที ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ 

จากนั้นหาภาชนะที่เอาเข้าเตาอบมาได้สักใบนึงนะคะ  พิมใช้เป็นถาดแก้วขนาดประมาณ  1 * 1 คืบอ่ะค่ะ   (ถาดแก้ว ไม่ใช่ว่าจะเอาเข้าเตาอบได้ทุกใบ ต้องดูว่าเป็นถาดแก้วชนิดไหน ทางผู้ผลิตระบุว่าเอาเข้าเตาอบได้ไหมนะคะ)

พอได้ภาชนะมาแล้ว ก็ให้เราเอาแปรงจุ่มน้ำมันพืชเล็กน้อย ทาให้ทั่วภาชนะด้านในเพื่อกันแผ่นแป้งติดค่ะ   

แล้วก็ตักแกงเขียวหวานเนื้อของเราใส่ลงไปประมาณนึงนะคะ  (ต่อไปนี้พิมขอเรียกว่า ซอสเนื้อ เน๊าะ)  เกลี่ยให้ทั่วๆ  ภาชนะ   ตามด้วยแผ่นลาซานญ่าที่เราต้มเอาไว้   ตามด้วยซอสเนื้อ  ชีส  และก็แผ่นแป้ง ซอสเนื้อ ชีส  .....สลับกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเต็มภาชนะ หรือสูงประมาณสักเกือบ ๆ 2 นิ้วอ่ะค่ะ   (ปิดท้ายด้วยชีส) 

และพอได้ความสูงตามต้องการแล้ว ก็ให้ปิดปากภาชนะด้วยฟอยล์  แล้วเอาเข้าอบที่ไฟ 180 องศา ประมาณ 20 นาที นะคะ    (อย่าลืมวอร์มเตาอบก่อนด้วยน๊าาาา) 

และพออบครบเวลาแล้ว ก็ให้เราแกะแผ่นฟอยล์ออก   แล้วเอาเข้าอบต่ออีก 5-10 นาทีเพื่อให้หน้าด้านบนเกรียมอ่ะค่ะ    (ระยะเวลาอันหลัง ขึ้นกับความเกรียมของหน้า ตามที่ชอบ) 

และเมื่ออบเสร็จเรียบร้อยแล้ว  ก็ให้ยกลาซานญ่าออกมาพักไว้สักแป๊บ  ก่อนจะตักเสิร์ฟเป็นชิ้นอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ  ^_^  

สำหรับเพื่อนๆ  คนไหนที่ไม่ทานเนื้อ จะเปลี่ยนจากเนื้อสับ เป็นหมูสับแทนก็ได้ค่ะ  หรือถ้าใครชอบเป็นหมึกเป็นกุ้ง   ก็ใช้หมึกกุ้งหั่นชิ้นเล็ก ๆ แทนได้นะคะ   และถ้าใครทำแล้วกินไม่หมดในคราวเดียว ก็ให้เอาฟอยด์ปิดปากภาชนะด้านบน แล้วแช่ตู้เย็นไว้  เวลาจะทานก็เอามาอุ่นในไมโครเวฟสักแป๊บ  (อย่าลืมเอาฟอยด์ออกก่อน)  ก็จะได้ลาซานญ่าอุ่น ๆ พร้อมทานแล้วล่ะค่ะ 

ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ  แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไปจ้า ^_^