เผลอแป๊บเดียว วันที่ 14 กุมภาพันธุ์ วันวาเลนไทน์ ก็เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งแล้วเน๊าะคะ  

พิมเชื่อว่าวันนี้ คู่รัก คนรักหลายคู่ หลายครอบครัว ก็คงอยากจะออกไปหาอาหารอร่อย ๆ ทาน เพื่อเป็นการฉลองวันวาเลนไทน์อ่ะค่ะ   แต่ว่าบางทีแล้วการได้อยู่บ้านกันสองคน  อยู่บ้านกับคนที่เรารัก  กับครอบครัว ไม่ว่าจะพ่อแม่ พี่น้อง ลูกหลาน ไม่ต้องออกไปเผชิญกับรถติด  กับความวุ่นวาย  กับการเลือกหาร้านอาหารที่กินแล้วอาจจะไม่ถูกใจ  ^_^ ...... แต่เปลี่ยนบรรยากาศมาทำอาหารอร่อย ๆ แบบพิเศษๆ  ฉลองกันเองระหว่างเราสองคน หรือภายในครอบครัว  แบบไม่ต้องออกไปนอกบ้าน มันก็น่าจะเป็นความสุขอีกแบบนึงที่ทำได้ง่ายกว่าเน๊าะคะ

เพราะนั้นวันนี้แล้ว พิมก็เลยจะมาชวนเพื่อน ๆ ทำอาหารที่ปกติแล้วหลายครอบครัวไทย ๆ  อาจจะไม่ค่อยได้ทำกัน  นั่นก็คือ เสต๊กอ่ะค่ะ   ซึ่งเสต๊กที่พิมจะเอามาทำให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันในวันนี้ ก็จะเป็นพอร์คชอบซอสเห็ดพริกไทยอ่อนนะคะ   ตัวซอสเนี่ย เบสิคจะมาจากซอสเห็ดทั่วไป   แต่พิมมาปรับให้มีรสและกลิ่นที่พิเศษกว่าทั่วไปนิดนึง ทำให้ไม่ว่าจะกินกับเนื้อสัตว์ หรือผักลวก ผักสลัดก็อร่อยแบบไม่เลี่ยน

เราลองมาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยดีกว่าค่ะ   ^_^

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "เสต๊ก" :: 

- พอร์คชอบ 2 ชิ้น 
- น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ 
- พริกไทยดำคั่วบด 1/4 ช้อนชา  
- เกลือสมุทรป่น 1/4 ช้อนชา

:: เครื่องเคียง ::

- มันฝรั่งปอกเปลือก หั่นชิ้นพอคำ  6 ชิ้น
- แครอทปอกเปลือก หั่นชิ้นพอคำ 6 ชิ้น
- ถั่วแขก หั่นครึ่งท่อน 10 ฝัก

- ผักสลัดตามชอบ

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ซอสเห็ดพริกไทยอ่อน ::

- เนยจืด 3 ช้อนโต๊ะ 
- หอมใหญ่ สับละเอียด  1/2 ถ้วย
- เห็ดหอมสด ซอย 1  ถ้วย 
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุปไก่ 100 มิลลิลิตร
- วิปครีม 200 มิลลิลิตร
- ซอสกระเทียม แจ๊สซี่ 1 ช้อนโต๊ะ 
- ซอสเผ็ด แจ๊สซี่ 1 ช้อนโต๊ะ 
- เกลือป่น  1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำบด 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยอ่อน รูดเอาแต่เมล็ด 1 ช้อนโต๊ะ  (ถ้าชอบ ใส่เพิ่มได้อีก 1/2 - 1 ช้อนโต๊ะ) 

*** ซอสกระเทียม ซอสเผ็ด ยี่ห้อแจ๊สซี่ ซื้อได้ที่ BigC, Makro, MaxValu, Tesco Lotus บริเวณตู้แช่เย็น แถว ๆ ที่แช่พวกเนื้อสัตว์ ผัก ราคาขวดละประมาณ 40 กว่าบาท

*** น้ำซุปไก่ที่พิมใช้ พิมทำแบบง่ายๆ  ก็คือเอาโครงไก่สับเป็นชิ้นใหญ่ ดึงปอด  ดึงส่วนที่เป็นหนังและมันทิ้งไป  ลวกในน้ำเดือดจัดประมาณ 3 นาที เอาขึ้นมาล้างให้สะอาด ใส่ลงในหม้อ แล้วเติมน้ำสะอาดตามลงไป  ใส่กระเทียมกลีบใหญ่ทุบลงไปหน่อย แล้วก็ต้มไฟอ่อน ๆ (ถ้ามีฟอง ก็ช้อนออกด้วย) ประมาณ 1.5  ชั่วโมง  ถึง 2 ชม. ก็กรองแต่น้ำซุปเก็บใส่ขวดแช่ตู้เย็นไว้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อเอามาใช้ทำอาหารอื่นๆ  ที่ต้องใช้น้ำซุปอ่ะค่ะ

:: วิธีทำ ::

เริ่มต้นเรามาหมักหมูกันก่อนค่ะ

ให้เราวางพอร์คชอปลงในจาน (พิมทำทีละชิ้น แต่ส่วนผสมตามในสูตร ใช้สำหรับ 2 ชิ้น)  โรยเกลือป่น พริกไทยดำบด และน้ำมันพืชลงไป   คลุกเคล้านวดให้เข้ากัน แล้วหมักไว้อย่างน้อย 30 นาทีนะคะ

*** ถ้าไม่ชอบพอร์คชอป ใช้เป็นหมูส่วนสันนอก หรือสันคอแทนก็ได้  หั่นหนาประมาณ  2  ซม. ถ้าเป็นสันนอก  ทุบเบา ๆ ด้วยค้อนสำหรับทุบหมูก่อนเอามาหมัก  จะทำให้หมูยิ่งนุ่มขึ้นอ่ะค่ะ

จากนั้นเราจะมาจัดการผักกันต่อนะคะ

ปกติผักที่ทานกับเสต๊กเนี่ย ก็จะมีทั้งผักสลัด  ผักผัดเนย  หรืออาจจะเป็นเฟรนฟรายด์ มันฝรั่งอบ มันฝรั่งทอดกรอบ ก็ได้ค่ะ  แบบว่าเราสามารถเลือกได้ตามชอบเลย  แต่ส่วนใหญ่พิมก็มักจะใช้เป็นผักลวก เพราะว่าสมาชิกที่บ้านชอบกันนะคะ   ซึ่งผักลวกที่พิมใช้เนี่ยก็จะมีถั่วแขก  แครอท และก็มันฝรั่งค่ะ  แต่ถ้าใครอยากจะใช้เป็นผักอย่างอื่น เช่น บร๊อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ หน่อไม้ฝรั่ง  ถั่วลันเตาหวาน  ข้าวโพดอ่อน  ก็ได้เช่นกันนะคะ 

วิธีลวก เราจะต้องแยกผักที่สุกไว้กับสุกช้าออกจากกันก่อนค่ะ  อย่างผักที่พิมใช้วันนี้ ถั่วแขกจะสุกง่าย เพราะนั้นพอน้ำในหม้อที่เราจะใช้ลวกผักเดือดดีแล้ว   ก็ให้เราใส่ถั่วแขกลงไปลวกสัก 10 วินาที จากนั้นก็เอาขึ้นพักไว้นะคะ  ส่วนแครอทกับมันฝรั่ง  ก็ให้เราหย่อนใส่ลงไปในหม้อต่อเลย ต้มด้วยไฟปานกลาง พอสุก (เทสต์โดยการเอาส้อมจิ้มลงไป  ถ้าจิ้มทะลุยาก แปลว่ายังไม่สุก  แต่ถ้าจิ้มทะลุง่าย แปลว่าสุกแล้ว)  ก็ตักขึ้นพักไว้เช่นกันนะคะ    

*** ถ้าชอบผักกรอบเขียว หลังจากลวกน้ำร้อนแล้ว ให้เอาขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นจัด จะทำให้ผักคงสีเขียวและความกรอบเอาไว้ได้

เมื่อเราเตรียมผีกเสร็จแล้ว เราก็จะมาย่างพอร์คชอปกันต่อเลยค่ะ  (ควรย่างก่อนเวลาจะทานสัก 10 นาที)    ...... ก็ให้เราตั้งกระทะย่างบนเตา   เปิดไฟกลางค่อนไปทางแรงหน่อย    พอกระทะร้อนจัดก็วางพอร์คชอปลงไปย่าง  หรี่ไฟลงเป็นไฟกลาง  จนพอร์คชอปสุกด้านนึง ก็กลับอีกด้านลงย่าง ให้สุกทั่วกันทั้งสองด้านก็แปลว่าใช้ได้แล้วนะคะ   (ระดับของความสุก  ตามที่แต่ละคนชอบ)  ก็เอาไปจัดใส่จานรอไว้ค่ะ 

หรือถ้าใครมีเตาอบแบบเตาตึ๊ง (เตาที่ปรับได้แต่เวลา กับไฟบนล่าง แต่ปรับอุณหภูมิไม่ได้)  ก็อาจจะย่างพอร์คชอปให้แค่พอมีรอยกระทะด้านนอก  แล้วเอาเข้าอบต่อในเตาอบสัก 3-5 นาทีเพื่อให้สุกทั่วถึง  ก็ใช้ได้เหมือนกันนะคะ 

*** ถ้าไม่มีกระทะย่าง ใช้กระทะเทปล่อนทั่วไป

สุดท้ายเราก็จะมาทำตัวซอสกันค่ะ  ซึ่งซอสที่พิมจะทำในวันนี้ จะกลิ่นรสของกระเทียม และมีความเผ็ดจากซอสเผ็ด พริกไทยอ่อนอยู่ด้วยนิดๆ ทำให้เป็นซอสเสต๊กแบบที่กินได้ไม่เบื่อเลยนะคะ 

เริ่มต้นก็ให้เราใส่เนยลงไปในกระทะที่ย่างเสต๊ก แล้วเปิดไฟกลาง  พอเนยละลายก็ใส่หอมใหญ่สับลงไปผัดค่ะ

ผัดไปผัดมา พอหอมใหญ่สุก ก็ใส่เห็ดหอมหั่นลงไปผัดต่อเลยนะคะ 

 ผัดจนเห็ดหอมสุก ก็ใส่แป้งสาลีลงไป แล้วผัดให้เข้ากัน จนไม่เห็นแป้งเป็นเม็ดสีขาว ๆ  ค่ะ

จากนั้นก็เติมน้ำสต๊อก กับวิปครีมลงไปเลยค่า    แล้วรีบผัดให้ทุกอย่างเข้ากัน  ตอนแรกจะดูใส ๆ นิดนึง แต่พอทุกอย่างเข้ากันดี ซอสเดือด และแป้งสุก ซอสของเราก็จะข้นขึ้นอ่ะค่ะ 

*** ถ้าใครไม่มี 2 อย่างนี้ ก็อาจจะใช้เป็นนมข้นจืด + ผงปรุงรสไก่นิดหน่อย

ปรุงรสด้วยซอสกระเทียม ซอสเผ็ด  แจ๊สซี่นะคะ 

*** ถ้าชอบเผ็ดกว่านี้ เติมซอสเผ็ด แจ๊สซี่เพิ่มได้   จะเติมในกระทะที่เราทำซอส หรือเติมในถ้วยซอสหลังจากที่ทำเสร็จแล้วก็ได้อ่ะค่ะ

คนให้เข้ากันดี  ก่อนจะใส่เกลือ  พริกไทยป่นอย่างละนิดนิดหน่อย และพริกไทยอ่อนตามลงไป 

พอซอสเดือดอีกที และชิมรสชาติได้ตามที่ชอบแล้ว  ก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ 

** สีของซอส ขึ้นอยู่กับความไหม้ของเนื้อสัตว์ที่ติดอยู่ในกระทะย่าง   และขึ้นอยู่กับสีของน้ำสต๊อก   แต่ถ้าอยากให้ซอสสีเข้มกว่านี้แบบไม่ต้องยุ่งยาก  ก็เหยาะซีอิ๊วดำหวานลงไป 1 - 2 หยด เพื่อแต่งสีค่ะ  (ซีอิ๊วดำหวาน กลิ่นและรสจะไม่แรงเหมือนซีอิ๊วดำเค็ม)  

สุดท้ายก็เอาไปราดบนพอร์คชอปที่เราเตรียมไว้  

 เราก็จะได้ออกมาเป็นพอร์คชอปซอสเห็ดพริกไทยอ่อน หน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้เลยนะคะ

ตัวพอร์คชอปมันก็จะมีความนุ่มและฉ่ำ ๆ หน่อย จากการหมัก และจาการที่เราย่างหมูให้สุกกำลังดี  คือเป็นพอร์คชอปที่เคี้ยวง่าย ไม่เหนียวอ่ะค่ะ และยังคงรู้สึกว่าเป็นหมูตามปกติอยู่  ไม่ใช่หมูที่ผ่านการเอาไปแปรรูป+ปรุงรสแล้วนะคะ  

ส่วนตัวซอสแต่เดิมถ้าเป็นซอสเห็ดทั่วไป ก็จะแค่เค็ม ๆ มัน ๆ ทานไปนาน ๆ อาจจะรู้สึกไม่ค่อยชอบอ่ะค่ะ   แต่ซอสตัวนี้จะมีกลิ่นกระเทียมด้วย ซึ่งเป็นกลิ่นที่คนไทยเรามีความคุ้นเคย  มีความเผ็ดนิด ๆ จากซอสเผ็ดที่เราใส่เข้าไป   และเวลาเคี้ยวก็จะได้ความเผ็ดหอมจากพริกไทยอ่อนเข้ามาเสริม  เรียกว่ายิ่งกินยิ่งเพลินอ่ะค่ะ  

ยังไงไปลองทำกันดูนะคะ เป็นอีกสูตรนึงที่พิมเลิฟเลย   ไม่ว่าจะทำให้ตัวเอง ทำให้คนที่เรารักกิน  พ่อแม่ ลูกหลาน พี่น้อง ก็ดีงามทั้งนั้นเลยนะคะ   ^_^