header



หลายวันก่อนพิมไปเดินตลาดแถวบ้าน แผงเนื้อเจ้าประจำของพิมเค้าก็เรียกพิม บอกว่าวันนี้มีเนื้อสวย ๆ สนใจรับไปสักโลครึ่งโลไหม 

ตอนแรกพิมก็กะว่าจะไม่เอาแล้วค่ะ เพราะว่าเสบียงในตู้เย็นพิมมีอย่างเยอะ  เฉพาะเนื้อสัตว์ก็มีทั้งกะพงตัวละโล 2 ตัว  เนื้อกะพงหั่นเป็นชิ้นอีกประมาณ 1 โล  มีกุ้งแชบ๊วย 1 โล   มีสันคอหมู ตับหมูอย่างละประมาณ 3-4 ขีด    หมูตุ๋นอีกประมาณ 1 กล่องใหญ่ ๆ  เรียกได้ว่าเยอะมาก   พิมก็เลยไม่ค่อยอยากจะซื้ออย่างอื่นมาตุนเพิ่มนะคะ  (คือจริง ๆ ไม่มีช่องจะเก็บแล้ว 555)    แต่พอพ่อค้าบอกว่า เนื้อแบบนี้ไม่ค่อยมีมาบ่อย ๆ นะ จะไม่ลองแวะเข้ามาดูสักหน่อยเหรอ ...  และด้วยความที่พิมเป็นคนง่าย ๆ หลังจากชำเลืองตาแว๊บไปดูแป๊บบบนึงก็เลยจัดมาเบา ๆ  1 กิโล  และก็เป็นที่มาของข้าวหน้าเนื้อย่างกระเทียมในวันนี้ค่ะ  ^_^ 

พูดถึงข้าวหน้าเนื้อแล้ว  จะว่าไปส่วนใหญ่ที่เราเจอตามร้านอาหารโน่นนี่ ก็จะเป็นข้าวหน้าเนื้อสไลด์ติดมันนิด ๆ และออกสไตล์หวาน ๆ เน๊าะคะ   แต่ว่าหลายเดือนก่อนพิมแวะไปกินข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นร้านนึงที่ห้าง  Crystal Park  ใกล้ ๆ บ้านพิมนั่นแหละค่ะ  ก็ไปเจอกับเซตข้าวหน้าเนื้อที่เป็นข้าวสวยร้อน ๆ  โปะหน้าด้วยเสต๊กเนื้อที่หั่นมาเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอคำ ย่างแบบสุกกำลังดี หอม ๆ  ราดด้วยซอสเฉพาะของทางร้านเค็มนำ หวานตามนิด ๆ  แถมโรยด้วยกระเทียมทอดอีก   แบบว่าถูกใจพิมมากนะคะ   แต่ทีนี้จะไปกินบ่อยๆ มันก็ไม่ไหว แอบเกรงใจกระเป๋าตังค์ตัวเองค่ะ >__<    พิมก็เลยลองซื้อเนื้อจากตลาดจากซุปเปอร์มาร์เกตมาทำเอง  แล้วก็ปรับเป็นเนื้อย่างโปะข้าวสไตล์ไทย ๆ โรยด้วยกระเทียมทอดเยอะ ๆ  ออกมาอร่อยถูกใจพิมมาก  จนทำให้ยังไม่ได้แวะกลับไปที่ร้านนั้นอีกเลยค่ะ   แฮ่ๆ

เพราะงั้นวันนี้ พิมก็เลยจะมาทำข้าวหน้าเนื้อย่างกระเทียมสูตรนี้ให้เพื่อนๆ  ได้ดูกันนะะ เผื่อใครชอบกินแบบพิม จะได้ลองเอาไปทำกันดูค่า

garlic beef with rice 15

garlic beef with rice 11

garlic beef with rice 14

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เนื้อวัว 1 ชิ้น หั่นหนาประมาณ 2 ซม. หรือ 1 นิ้ว น้ำหนักประมาณ 200 กรัม  
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยดำบด 1/2 ช้อนชา 
- กระเทียมทอด 3 ช้อนโต๊ะ หรือตามชอบ 
- ต้นหอมซอย (สำหรับโรยหน้า) 3 ช้อนโต๊ะ  ตามชอบ 
- ข้าวสวยหอมมะลิ หรือข้าวสวยญี่ปุ่น 2 ถ้วย หรือตามชอบ

- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำมะนาว 1 + 1/2  ช้อนโต๊ะ 
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ 
- พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1/2  ช้อนโต๊ะ 
- หอมแดงซอย 1 ช้อนโต๊ะ 
- ต้นหอมซอย (สำหรับใส่ในน้ำจิ้ม)  1 ช้อนโต๊ะ 

** ในภาพด้านล่าง พิมทำสำหรับ 2 จาน ปริมาณส่วนผสมและเครื่องปรุงทุกอย่างก็จะเป็น 2 เท่าจากในสูตรนะคะ  

garlic beef with rice 01

:: วิธีทำ :: 

ก่อนจะไปลงมือทำข้าวหน้าเนื้อกัน พิมก็อยากจะพูดเรื่องเนื้อสักหน่อยนะคะ   สำหรับเนื้อที่เพื่อน ๆ จะเอามาทำข้าวหน้าเนื้อแบบพิมในวันนี้เนี่ย ก็เลือกมาใช้ได้หลากหลายตามความชอบเลยค่ะ 

- Tenderloin หรือสันในเนื้อ  เป็นเนื้อส่วนที่นุ่มที่สุด และมีไขมันน้อย  แต่รสชาติจะค่อนข้างจืดต้องปรุงรสเยอะถึงจะอร่อย ส่วนตัวพิมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่นะคะ 

- Sirloin เป็นเนื้อส่วนสันนอก จะมีมันติดเป็นแถบด้านนึง  มีความนุ่มปานกลาง รสจะเข้มกว่าเนื้อส่วนสันใจ   ถ้าใครไม่ชอบทานมันก็เฉือนมันทิ้งไปได้ค่ะ 

- Rib eye เป็นเนื้อวัวส่วนซี่โครง ที่มีมันแทรกทั้งชิ้นเลย  ตัวเนื้อจะมีความนุ่ม และรสเข้ม ไม่ต้องปรุงมากก็อร่อย เป็นเนื้อที่พิมชอบมากที่สุดนะคะ   (แต่ในภาพด้านล่างเป็นเนื้อหนอกค่ะ) 

วิธีทำเริ่มจากหยิบชิ้นเนื้อมาใส่จาน โรยเกลือพริกไทยลงไปทั้งสองด้าน  คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วก็พักไว้สัก 1-2 นาทีนะคะ 

garlic beef with rice 02

garlic beef with rice 03

พอครบเวลาเราก็เอาเนื้อของเราไปย่างบนกระทะให้สุกค่ะ จะสุกมากน้อยก็ตามที่เพื่อนๆ  ชอบเลย    แต่ด้วยความที่เนื้อชิ้นหนา  การจะย่างในกระทะให้มีความสุกพอดีโดยที่ด้านนอกของเนื้อไม่แห้งเกินอาจจะทำได้ลำบาก เพราะนั้นพิมก็เลยจะเอาไปย่างในหม้อทอดไร้น้ำมันนะคะ 

วิธีการก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก  แค่วางเนื้อที่เราจะย่างลงไปในหม้อ   ตั้งอุณหภูมิที่ 200 องศา เวลาประมาณ 10 นาที    แล้วก็ปล่อยให้หม้อทอดทำงานไปค่ะ 

** พิมรองด้วยฟอยด์ที่ก้นหม้อ เพื่อไว้สำหรับรองรับน้ำที่จะออกมาจากการย่าง  เอาไว้ราดเสต๊กที่สุกแล้วอีกที  และเพื่อให้ทำความสะอาดหม้อง่ายขึ้นด้วยนะคะ  

garlic beef with rice 04

garlic beef with rice 06

พอครบ 10 นาที เนื้อของเราก็จะสุกประมาณนึง  ก็ให้หยิบเนื้ออกมาหั่นเป็นชิ้นพอคำ  (พิมหั่นชิ้นใหญ่หน่อย เพราะชอบแบบเต็มปากเต็มคำ)   แล้วก็ใส่กลับไปย่างต่ออีกรอบ  โดยคราวนี้เราจะใช้อุณหภูมิเท่าเดิมแต่ย่างแค่ 5 นาทีพอนะคะ  หรือถ้าใครชอบเนื้อย่างแบบสุกมาก ๆ จะย่างต่ออีกสัก 10 นาทีก็ได้ค่ะ 

garlic beef with rice 09

และเมื่อครบเวลา เราก็จะได้เนื้อย่างออกมาหน้าตาแบบนี้เลยค่า  คือข้างนอกจะดูเกรียมนิด ๆ แต่ไม่แห้ง และข้างในยังมีความชุ่มฉ่ำของเนื้ออยู่เต็มที่   ก็พักเนื้อไว้สักแป๊บนะคะ 

garlic beef with rice 10

 ระหว่างนั้นเราก็จะมาทำตัวซอสสไตล์ไทย ๆ  ไว้สำหรับทานคู่กับเนื้อกันค่ะ   ก็ให้เราผสมน้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาล พริกขี้หนู  หอมแดง ผักชีฝรั่ง  แล้วคนให้เข้ากันจนน้ำตาลละลายหมด  ก็เป็นอันว่าได้ซอส หรือที่หลาย ๆ คนอาจจะเรียกว่า "แจ่ว" มาแล้วนะคะ 

garlic beef with rice 07

garlic beef with rice 08

ถึงเวลาทาน ก็ตักข้าวใส่ชาม โปะด้วยเนื้อที่เราย่างเอาไว้ โรยด้วยกระเทียมทอด และต้นหอมซอย  ราดด้วยน้ำที่อยู่ก้นหม้อ  (หรือใครจะไม่ราดก็ได้)   แล้วเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มที่เราทำเอาไว้  เท่านี้เราก็จะได้ข้าวหน้าเนื้อย่างกระเทียม ที่ทั้งทำง่าย และก็หอม อร่อย + แซ่บบบบ มากแล้วอ่ะค่ะ 

garlic beef with rice 15

 สำหรับใครที่ไม่ทานเนื้อ จะเปลี่ยนเป็นหมูส่วนสันคอ หรือคอหมูก็ได้นะคะ  ทุกส่วนผสมทุกวิธีการ ทำแบบเดียวกันเลยอ่ะค่ะ 

garlic beef with rice 14

ยังไงลองไปทำกันดูน๊า แล้วเพื่อน ๆ จะพบว่า การทำอาหารอร่อย ๆ ทานเองนั้นไม่ยากเลยค่า ^_^ 

garlic beef with rice 12

garlic beef with rice 13

:: เพิ่มเติม ::

หม้อทอดไร้น้ำมันที่พิมใช้ ยี่ห้อ Summer ชื่อ Magic Oven นะคะ เพื่อน ๆ สามารถดูรายละเอียดได้ >> ที่นี่   <<  และถ้าสนใจ  ก็สามารถสั่งซื้อได้ >> ที่นี่ <<  เลยค่ะ

pressed grilled banana with thick sweet sauce 11 



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก