ใครชอบอาหารที่มีกลิ่นหอมของเครื่องเทศ ชอบไก่ย่างนุ่ม ๆ บอกเลยว่าต้องชอบเมนูนี้แน่นอนค่ะ 😊
วันนี้พิมจะมาชวนเพื่อน ๆ ทำไก่ย่างเลมอนโยเกิร์ต กินคู่กับข้าวบาสมาติที่หุงกับเครื่องเทศนะคะ ปกติแล้วพิมชอบกินอาหารประเภทนี้ แต่ไม่ค่อยถนัดทำอาหารประเภทนี้สักเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่ามันน่าจะยุ่งยาก ประมาณว่าแค่เห็นลิสต์วัตถุดิบก็ตาลายแล้วค่ะ 😅 แต่สำหรับเมนูนี้ วิธีการทำมันง่ายกว่าที่คิดมากกกกก พิมก็เลยอยากเอาสูตรมาแจก เผื่อใครจะอยากลองทำดูนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ไก่เลมอนโยเกิร์ต" ::
- อกไก่หั่นชิ้นพอคำ (คำใหญ่) 700 กรัม
- กระเทียมสับ 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ปาปริกา 1 ช้อนโต๊ะ
- พาสลีย์อบแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
- ขมิ้นชันผง 1 ช้อนชา
- เกลือป่น 1 +1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
- โยเกิร์ต 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเลมอน 2 ช้อนโต๊ะ
*** ขนาดอกไก่ที่พิมหั่น กว้างยาวประมาณ 3*2 ซม.
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "มิ้นต์ซอส" ::
- โยเกิร์ต 8 ช้อนโต๊ะ
- สะระแหน่ 1 ถ้วย
- กระเทียมสับ 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
- พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
- น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "ข้าวอบเครื่องเทศ" ::
- ข้าวบาสมาติ 250 กรัม
- หอมแขกหั่นชิ้นเล็ก 50 กรัม
- พริกหวานสีแดงหั่นชิ้นเล็ก 50 กรัม
- ขมิ้นผง 1 ช้อนชา
- ยี่หร่า 1 ช้อนชา
- ปาปริก้า 1 ช้อนชา
- เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันสำหรับผัด (พิมใช้น้ำมันรำข้าว) 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 550 มิลลิลิตร
*** ปกติเวลาหุงข้าวบาสมาติ จะนิยมใช้ข้าว 1 ส่วน น้ำเปล่า 2 ส่วน แต่พิมลองหุงหลายรอบแล้วรู้สึกว่าข้าวมันแข็งไป เลยขอเพิ่มน้ำอีกหน่อยเพื่อให้ได้ข้าวที่นุ่มขึ้นนะคะ
:: วิธีทำ :
ก่อนจะไปลงมือทำ ... พิมขอบอกก่อนว่าเมนูนี้มี 4 ขั้นตอนด้วยกัน คือหมักไก่ ทำซอส ย่างไก่ และก็หุงข้าวนะคะ เริ่มต้น ... เราจะมาหมักไก่กันก่อนค่ะ 😊
ไก่ที่พิมใช้ในเมนูนี้เป็นอกไก่ไม่เอาหนังนะคะ หลังจากที่เราล้างทำความสะอาดอกไก่เรียบร้อยแล้ว ให้เราหั่นอกไก่แต่ละชิ้นให้มีขนาดประมาณในภาพค่ะ
พอหั่นเสร็จแล้ว ก็ให้เราหยิบกะละมังมาใบนึง ใส่ไก่ลงไป ตามด้วยส่วนผสมที่เหลือทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระเทียมสับ ปาปริก้า ขมิ้น พาสลีย์ เกลือ พริกไทย โยเกิร์ต และน้ำเลมอนนะคะ (ใส่อะไรก่อนหลังก็ได้) แล้วคลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากัน ก่อนจะหมักไว้ 1 คืน หรือประมาณ 6-8 ชม. ในตู้เย็น ถ้าใครมีเวลาน้อย หมักสัก 2 - 3 ชม. ก็ได้ แต่ถ้าหมักข้ามคืน รสชาติของเครื่องปรุงจะเข้าเนื้อมากกว่าค่ะ 😊
สำหรับเครื่องเทศทุกอย่างสามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเทศ ซุปเปอร์มาร์เกตทั่วไป หรือถ้าใครไม่มีเวลาออกจากบ้าน จะลองซื้อจาก Shopee ก็ได้นะคะ
ทีนี้ระหว่างหมักไก่ เราก็จะมาทำมิ้นต์ซอสสำหรับกินกับไก่ย่างสูตรนี้กันค่ะ
ให้เราหยิบโถปั่นน้ำผลไม้ออกมา ใส่โยเกิร์ต ใบสะระแหน่ กระเทียมสับ เกลือ พริกไทย และน้ำเลมอนลงไปนะคะ แล้วเอาไปปั่น พอส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีก็ลองใช้ช้อนตักขึ้นมาชิมรสชาติดูว่ามันไปทางไหน ปกติที่พิมทำจะออกเปรี้ยวนิด ๆ เผ็ดหน่อย ๆ หอมกลิ่นเลมอน ถ้าใครไม่ชอบรสนี้ก็ปรุงเพิ่มได้ตามที่ชอบเลย เสร็จแล้วก็เทใส่กระปุกแช่ตู้เย็นรอไว้ก่อนค่ะ 😊
จากนั้นนำไก่ที่หมักครบเวลาแล้วมาเสียบไม้นะคะ (พิมใช้ไม้ยาว 9 นิ้ว) ใครจะเสียบแต่ไก่อย่างเดียวก็ได้ หรือถ้าใครมีพริกหวานเขียว เหลือง แดง มีหอมแขกแบบพิม จะหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมแล้วเอามาเสียบสลับกับไก่ก็ได้ค่ะ แต่ว่าอันนี้ไม่ซีเรียสน๊า เอาตามที่มีได้เลยนะคะ
เสียบเสร็จแล้วก็เอาไปย่างในกระทะก้นแบน ... ย่างด้วยไฟกลางค่อนไปทางอ่อน จนไก่สุกและมีสีเหลืองเข้มนิดนึง ก็ใช้ได้ค่ะ 😊
*** ก่อนเอาไก่ลงไปย่าง ทาน้ำมันบาง ๆ สัก 1 ช้อนโต๊ะ ที่ก้นกระทะด้วยนะคะ ไก่ย่างจะได้สีสวย
ต่อมาในกระทะใบเดิมที่ย่างไก่ (ไม่ต้องล้าง) ให้เราใส่น้ำมันพืช หอมกับพริกหวานที่เตรียมไว้ลงไปค่ะ ผัดไปผัดมาพอให้หอมกับพริกสดนิ๊ดดนึง ก็ใส่เครื่องเทศทั้งหมด (ขมิ้น ยี่หร่า ปาปริก้า เกลือ) ตามด้วยข้าวบาสมาติลงไป แล้วผัดให้เข้ากันนะคะ 😊
*** วิธีการเตรียมข้าวบาสมาติก่อนนำมาใช้ คือเอาข้าวไปล้างน้ำเปล่าสัก 3-4 รอบ แล้วแช่ข้าวในน้ำเปล่า 30 นาที พอครบเวลาก็เทข้าวใส่กระชอนพักให้สะเด็ดน้ำก่อนนำมาใช้ค่ะ
จากนั้นเติมน้ำเปล่าลงไป คนให้เข้ากันดี พอน้ำเดือดก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ปิดฝากระทะ แล้วรอประมาณ 8 นาที ข้าวก็จะสุกใช้ได้นะคะ ... พอข้าวสุกก็ให้เราเอาทัพพีหรือตะหลิวพลิกกลับข้าวไปมา แล้วปิดฝาไว้อีกประมาณ 10 นาที พอข้าวระอุก็ตักเสิร์ฟได้เลยค่ะ
สุดท้ายก็จัดเสิร์ฟข้าวของเราคู่กับไก่ย่าง และมิ้นต์ซอสที่ทำไว้ ... ก็จะได้ "ข้าวกับไก่ย่างเลมอนโยเกิร์ต" ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ 😊
ตัวข้าวจะหอมเครื่องเทศเบา ๆ และมีรสเค็มอ่อน ๆ ส่วนไก่ก็จะนุ่มอร่อย เครื่องเทศไม่จัดมาก กินคู่กับมิ้นท์ซอสโยเกิร์ต บอกเลยว่าเข้ากันที่สุดค่ะ 😄
สำหรับสูตรนี้ พอทำเสร็จแล้วเราจะเสิร์ฟได้ประมาณ 4 จานนะคะ ใครที่ทำแล้วกินไม่หมด ให้เอาข้าว ไก่ย่าง (หรือจะยังไม่ย่างก็ได้) น้ำจิ้ม ใส่กล่องสูญญากาศอย่างพวกยี่ห้อ Lock & Lock / Double Lock แล้วเก็บไว้ในตู้เย็น อยู่ได้ประมาณ 4-5 วัน เวลาจะกินก็เอามาใส่ไมโครเวฟแป๊บนึง (ใส่เฉพาะไก่กับกข้าว) พอให้ร้อน ๆ ... ก็กินได้ล่ะค่ะ
ยังไงลองไปทำกันดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็มาถามไถ่กันได้ แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่า
:: เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับข้าวบาสมาติ ::
ข้าวบาสมาติ หรือ ข้าวบาสมตี หรือ ข้าวบาสมาตี (Basmati) เป็นข้าวชนิดหนึ่ง ที่มีเมล็ดเรียวยาว และมีกลิ่นเฉพาะตัวคล้ายกลิ่นถั่วนะคะ ข้าวพันธุ์นี้แต่เดิมนิยมปลูกในประเทศอินเดีย ปากีสถาน แต่ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกไปทั่วเอเชียเลยค่ะ
ข้าวบาสมาติเป็นข้าวที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงกว่าข้าวชนิดอื่น ๆ อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีและจำเป็นต่อร่างกาย แถมยังมีไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องระบบทางเดินอาหาร มีฟอสฟอรัสสูงช่วยรักษาความแข็งแรงของกระดูก และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้ด้วยนะคะ
ข้าวบาสมาติเป็นข้าวที่เอามาทำได้หลายเมนู ทั้ง Chicken Biryani หรือข้าวหมกไก่ และยังสามารถนำมาทานคู่กับแกงอินเดียชนิดต่างๆ ได้อีกด้วยค่ะ
(ด้านล่างเป็นข้อมูลและข้อความที่ตัดจากเพจ Curry & Co)
ข้าวบาสมาติเป็นข้าวที่มีหลายสายพันธุ์ย่อย แต่พันธุ์ที่เด่นๆ ก็จะมีอยู่ 6 พันธุ์ด้วยกันนะคะ
1. PUSA BASMATI 1121 ( ปูซา บาสมาตี 1121)
เป็นข้าวทั่วไปที่ใช้ในตลาดในอินเดีย และเป็น 95% ของข้าวบาสมาตีในเมืองไทยค่ะ ข้าวบาสมาติพันธุ์นี้เป็นข้าวเม็ดผอมๆ ออกแหลมๆ หลังหุงจะนิ่ม เหมาะสำหรับการหุงต้มทั่วไป ไม่เหมาะกับการผัดหรือหมก เพราะจะทำให้ข้าวแฉะนะคะ
2. PUSA BASMATI 1 ( ปูซา บาสมาตี 1 )มีลักษณะเม็ดยาวเป็นพิเศษ หลังหุงเสร็จจะฟูขึ้นหม้อ ประมาณ 4 เท่าตัว คุณสมบัติหลักของพันธุ์นี้คือกินแล้วย่อยง่ายค่ะ
3.RANBIR BASMATI (รันบีร์ บาสมาตี)เป็นข้าวเฉพาะของดินแดนปกครองพิเศษชัมมูและกัศมีร์ เป็นข้าวที่มีกลิ่นเฉพาะตัวมาก ๆ เหมาะกับการไปทำข้าวปิลาฟต่างๆ นะคะ
4. BASMATI 386 (บาสมาตี 386)เป็นข้าวพรีเมี่ยมสุดของบาสมาตี เน้นส่งออกไปตะวันออกกลาง นิยมนำมาทำเป็นข้าวหมก ข้าวคับสา และ ข้าวมันดี่ เพราะเมล็ดข้าวไม่อมน้ำมัน แถใหุงเสร็จแล้วยังไงก็คงรูปเดิม ไม่เปลี่ยนด้วยค่ะ
5.TAROARI BASMATI (ตาเรารี บาสมาตี)เป็นหนึ่งในพันธ์ข้าวบาสมาติที่เก่าแก่ที่สุดของอินเดียนะคะ ซึ่งข้าวพันธุ์นี้มีการปลูกและพัฒนามาเรื่อยๆ นิยมนำมาใช้ในงานแต่งงาน หรือพิธีเฉลิมฉลอง เพราะข้าวมีลักษณะเม็ดยาว สีสวยโดยไม่ต้องปรุงแต่งค่ะ
6. BASMATI 217 (บาสมาตี 217)เป็นข้าวบาสมาติพันธุ์ใหม่ล่าสุด เกิดจากการผสมกันระหว่างข้าว 1121 กับ 386 นะคะ แต่ว่ายังไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากเท่าไหร่ ข้อดีคือ ถูกกว่าข้าวบาสมาตีพันธุ์อื่นเยอะเลยค่ะ