header



จากตลาดศาลเจ้าโรงทอง  พิมเดินทางไปต่อที่วัดม่วง ซึ่งอยู่ห่างจากตลาดไม่ถึง 20 นาทีนะคะ

 201

วัดม่วงแต่เดิมสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายค่ะ  จนมาถึงช่วงนึงที่มีศึกสงครามกับพม่า เหลือแต่ซากปรักพัง เลยกลายเป็นวัดร้าง  ต่อมาเมื่อประมาณปี 2525  หลวงพ่อเกษม อาจารยสุโภ ได้มาปลักกลดธุดงค์บริเวณนี้และได้ปรากฎนิมิตรเห็นหลวงปู่ 2 องค์ บอกให้ท่านช่วยก่อสร้างวัดนี้ขึ้นใหม่  ท่านจึงรวบรวมกำลังกับชาวบ้านแถวนั้นทั้งกำลังแรงและกำลังทรัพย์ บูรณะวัดนี้ขึ้นมาใหม่จนกลายมาเป็นวัดม่วงขึ้นมาอ่ะค่ะ

แล้วต่อมาในปี 2534  หลวงพ่อท่านก็ได้ร่วมกับผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ  ร่วมกันสมทบทุนก้อนใหญ่ เพื่อสร้าง "หลวงพ่อใหญ่"  หรือ "พระพุทธมหานวมินทร์ศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ"  เพื่อน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนะคะ  โดยพระพุทธรูปองค์นี้ใช้เวลาในการสร้าง 16 ปี  มีขนาดหน้าตัก 63.5 เมตร  และความสูงจากฐาน 95 เมตร   ทำให้กลายเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลกอ่ะค่ะ   ^_^ 

angthong ayutthaya 01

angthong ayutthaya 02

นอกจากการตักบาตร ไห้พระแบบปกติทั่วไปแล้ว  ที่วัดนี้เค้าก็ยังมีการตักบาตรดอกดาวเรืองด้วยนะคะ   ตอนแรกพิมก็สงสัยว่าทำไมต้องเป็นดอกไม้และเป็นดอกดาวเรือง   น้องหวานที่เป็นเจ้าบ้านก็เล่าให้ฟังว่าเพราะแถวนี้ชาวบ้านปลูกดาวเรืองเพื่อตัดดอกขายกันหลายสวน ทางวัดก็เลยมีกุศโลบายในการช่วยชาวบ้านด้วยการรับซื้อดอกดาวเรือง  แล้วจัดให้มีการตักบาตรดอกดาวเรืองขึ้นมารอบองค์หลวงพ่อใหญ่อ่ะค่ะ ...... ซึ่งเห็นตะกร้าเล็กๆ  แบบนี้ ขอบอกว่ามีเป็นร้อยดอกเลยนะคะ ตะกร้านึง 90 บาท ใส่บาตรจนรอบองค์พระ ได้ 2 รอบ ยังไม่หมดเลยอ่ะค่ะ ^_^

angthong ayutthaya 03

angthong ayutthaya 06

angthong ayutthaya 09

angthong ayutthaya 67

angthong ayutthaya 53

angthong ayutthaya 69

หลังจากไหว้พระ ตักบาตรดอกดาวเรืองกันแล้ว  น้องหวานก็พาเรานั่งรถออกจากวัดไปนิดหน่อย ก็จะพบกับทุ่งทานตะวันและทุ่งดอกดาวเรืองขนาดใหญ่ที่อยู่รายล้อมอยู่รอบวัดม่วง ซึ่งทั้ง 2 ทุ่งนี้ ก็เป็นส่วนนึงของงานบุญครั้งใหญ่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาของอำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทองนะคะ    ^_^

angthong ayutthaya 10

สำหรับพื้นที่การปลูกดอกดาวเรืองและดอกทานตะวันของที่นี่ แม้จะไม่ใหญ่เท่ากับที่อื่น  แต่ขอบอกว่าเดินเมื่อยสุด ๆ ค่ะ -*-  และถ้าคิดว่าจะเดินชมทั้งหมด คาดว่าจะไม่สามารถเดินได้ เพราะที่นี้เค้ามีพื้นที่การปลูกรวมแล้วกว่า 100 ไร่เลยนะคะ  ^_^  แถมด้วยความที่ทางเจ้าของพื้นที่เค้าอยากให้นักท่องเที่ยวได้เห็นดอกทานตะวันที่สวย ๆ  อยู่ตลอด   ก็เลยมีการแบ่งปลูกดอกทานตะวันเป็นหลายแปลง  แล้วแต่ละแปลงก็จะปลูกกันคนละวัน   เพื่อให้แต่ละแปลงดอกบานไล่กันไปเรื่อย ๆ อ่ะค่ะ    เพราะงั้นนักท่องเที่ยวที่มาที่นี่ ไม่ว่าจะมาช่วงเริ่มเดือนเมษา หรือช่วงปลายเมษา (ที่ผ่านมา)  ก็ยังจะได้เห็นดอกทานตะวันสวย ๆ ตลอดเลยนะคะ ^^

angthong ayutthaya 11

angthong ayutthaya 12

หลังจากเดินชมทานตะวันและดาวเรืองสีเหลือง ๆ จนอิ่มอกอิ่มใจแล้ว  ก็ได้เวลาไปหาข้าวกลางวันกินแล้วอ่ะค่ะ   ซึ่งวันนี้เจ้าถิ่นก็พาเราไปที่ร้านกุ้งเผาทองชุบ ที่อยู่ในเขตจังหวัดสิงห์บุรีนะคะ  

angthong ayutthaya 13

พูดถึงกุ้งเผาแล้ว  พิมเชื่อว่าหลายคนถ้านึกอยากจะกินกุ้งเผา ก็มักจะนึกถึงกุ้งเผาตามร้านต่าง ๆ ในจังหวัดอยุธยานะคะ  ซึ่งจะว่าไปพิมก็ไปกินกุ้งเผาตามร้านดัง ๆ ที่อยุธยามาหลายร้าน ยังไม่เจอถูกใจสักร้านเลยค่ะ  เพราะบางร้านกุ้งเผาอร่อย แต่อาหารอื่นไม่ไหวจะเคลียร์  แถมยังมาเสริฟช้ามาก  >_<   ส่วนบางร้าน..อาหารอื่นพอไหว  แต่กุ้งเผาย่างออกมาได้แข็งมากก็มีนะคะ (หรืออาจจะเพราะตอนพิมไป จังหวะไม่ดีก็ไม่รู้ T__T)    แล้วที่สำคัญคือพิมไม่ชอบกุ้งเผาที่ถูกย่างแบบผ่าครึ่ง  เพราะความชุ่มชื้นในเนื้อกุ้งมันจะหายไปบางส่วน    ซึ่งร้านที่อยุธยาส่วนใหญ่จะเป็นแบบนั้น เพราะเวลาเสริฟมันดูสวย  เหมาะแก่การถ่ายรูปไปลง social อ่ะค่ะ    เพราะงั้นน้องหวานก็เลยพาพวกเรามาที่ร้านนี้ เพราะน้องหวานบอกว่านอกจากที่นี่จะเปิดมานานมากแล้ว  อาหารของที่นี่ยังรสชาติดีแบบไทยบ้านๆ   โดยเฉพาะอาหารจากปลาแม่น้ำนะคะ  ส่วนกุ้งเผาก็เป็นแบบย่างทั้งตัวอย่างที่พิมชอบ   ที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ราคากุ้งและราคาอาหารของที่นี่ เมื่อเทียบกับร้านดังหลายร้าน ราคาสบายกระเป๋ากว่าอย่างเห็นได้ชัดเลยอ่ะค่ะ 

angthong ayutthaya 14

 สำหรับอาหารที่ร้านทองชุบ นอกจากกุ้งเผาแล้ว เค้าก็ยังมีอาหารอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมายเลยนะคะ  แต่ที่เด่นๆ  ของเค้าก็จะเป็นอาหารจากปลาอ่ะค่ะ  โดยเฉพาะปลาเนื้ออ่อน ปลาน้ำเงิน ปลากราย เพราะนั้นวันนี้เราก็เลยสั่งมาลองกันทุกปลาเลยนะคะ ^_^

angthong ayutthaya 75

เริ่มกันที่ห่อหมกปลาเนื้ออ่อน-ใบยอค่ะ  ขอบอกว่าอันนี้ตอนแรกไม่ได้ตั้งใจจะสั่ง แต่ทางร้านเค้านำเสนอว่าอร่อยจริง ๆ นะ ห่อนึงก็ 30 บาทเท่านั้น ก็เลยจัดมา 3 ห่อค่ะ  โดยรวมแล้วรสชาติดีงาม ถึงเครื่อง หอมพริกแกง  รสค่อนข้างเผ็ดแต่กลมกล่อม  ใบยอก็อ่อน  สรุปแล้วอร่อยค่ะ

angthong ayutthaya 16

หม้อต่อมาเป็นต้มยำปลานะคะ   พิมจำไม่ได้แล้วว่าเป็นเนื้อปลาอะไร (กินเสร็จก็ลืม T__T)   แต่ทั้งน้ำซุปต้มยำและเนื้อปลา ทำมาได้ดีมากเลยค่ะ  เห็นน้ำซุปต้มยำเป็นสีจืด ๆ แบบนี้  ขอบอกว่ารสชาติจัดจ้านมาก เผ็ด เปรี้ยว เค็ม มาครบรสเลยนะคะ   ส่วนเนื้อปลาก็หั่นมาชิ้นหนากำลังดี  แถมยังไม่คาวอย่างที่คิดอีกด้วยอ่ะค่ะ

angthong ayutthaya 76

ถัดมาก็จะเป็นฉู่ฉี่ปลาน้ำเงินนะคะ ...  ความรู้สึกส่วนตัวพิมรสชาติดีค่ะ ถึงเครื่องแกง ถึงกะทิ  ปลาน้ำเงินก็ทำมาดี ไม่คาว  เนื้อปลาก็นุ่ม  แต่ในความรู้สึกพิม ฉู่ฉี่เป็นแกงที่ควรมีน้ำแกงแบบขลุกขลิก พอคลุกตัวปลา   แต่อันนี้น้ำแกงมาเยอะแบบแกงเขียวหวานทั่วไปเลยนะคะ   แต่ถ้าไม่นับตรงนี้ก็รสชาติดีค่ะ

angthong ayutthaya 17

ส่วนจานนี้เป็นเชิงปลากรายทอดกระเทียมนะคะ  รสชาติดี กรอบทั้งชิ้น เค็ม ๆ หอมกลิ่นกระเทียม เหมาะทานคู่กับแกงเผ็ดทั้งหลาย เข้ากันดีเลยอ่ะค่ะ  ^_^

angthong ayutthaya 18

และที่ขาดไม่ได้ของร้านนี้  ก็คือ กุ้งเผา น  ซึ่งกุ้งเผาของที่นี่เค้าจะมีไซส์เดียว คือไซส์ 3 ตัวโล ๆ ละ 1500 บาทนะคะ   ... และด้วยความที่เป็นกุ้งสด  และเค้าย่างแบบทั้งตัว  ไม่ได้ผ่า  แถมยังย่างมาได้สุกกำลังดีมากๆ  เนื้อกุ้งก็เลยยังนุ่มเด้ง หวานอร่อย  ส่วนหัวกุ้ง มันกุ้งนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ  อร่อยที่สุดดดด  ทั้งรสชาติเข้มข้น หอม มัน  เหมือนกินซุปมันกุ้งเลยนะคะ  แถมยังมีปริมาณเยอะ ตักออกมา 3-4 ช้อนกินข้าวช้อนสั้นแล้วก็ยังมีเหลืออยู่ในหัวกุ้งอีกอ่ะค่ะ สรุปว่าอร่อยจนไม่รู้จะบรรยายยังไงเลย  นอกจากจะให้เพื่อน ๆ ได้ไปลองชิมกันดูนะคะ ^_^

angthong ayutthaya 20 

angthong ayutthaya 21

และหลังจากอิ่มท้องกันแล้ว  ก่อนจะไปเที่ยวที่ต่อไป หากใครอยากช๊อปปิ้งพวกปลาแดดเดียว ปลากรอบ ปลาเค็มทอด ขนมไทย ... แถวนั้นก็มีให้ซื้อหลายอย่างเลยนะคะ   แถมราคายังไม่แพงอีกต่างหากค่ะ ^_^

angthong ayutthaya 22

angthong ayutthaya 27

angthong ayutthaya 29

angthong ayutthaya 28

angthong ayutthaya 23

angthong ayutthaya 24

angthong ayutthaya 25

angthong ayutthaya 26

จากร้านกุ้งเผาทองชุบ โปรแกรมต่อไป เราจะไปชมโบราณสถานกันที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาในส่วนที่อยู่ติดกับวิหารพระมงคลบพิตรนะคะ  ซึ่งห่างจากร้านทองชุบประมาณ 1 ชม. กว่า ๆ เท่านั้นเองค่ะ 

angthong ayutthaya 30

พูดถึงอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยาแล้ว จริง ๆ จะประกอบไปด้วยโบราณสถานนับเป็น 10 ที่เลยนะคะ  เช่นพระราชวังหลวง  วัดธรรมิการาช วัดญาณเสน และแต่ว่าวันนี้เนี่ย ส่วนที่พิมจะไปชมก็คือโบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์อ่ะค่ะ 

วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดสำคัญที่สุดของกรุงศรีอยุธยานะคะ  ถูกสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอู่ทองให้เป็นพระราชมณเทียร  และต่อมาสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถก็ทรงอุทิศพระราชมณเทียรแป่งนี้ ให้เป็นวัดในเขตพระราชวัง  ชื่อว่า วัดพระศรีสรรเพชญ์  ไว้สำหรับเป็นที่ประกอบพระราชพิธีที่สำคัญ และเป็นที่เสด็จออกบำเพ็ญพระราชกุศลอ่ะค่ะ 

ซึ่งในสมัยที่เริ่มสร้างเนี่ย จะมีการเจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่เรียงกันสามองค์นะคะ  แต่ต่อมาภายหลังก็มีการสร้างมณฑปแทรกระหว่างเจดีย์  แต่ปัจจุบันก็เหลือแต่เพียงซากฐานของมณฑปเท่านั้นค่ะ 

angthong ayutthaya 31

angthong ayutthaya 32

angthong ayutthaya 33

angthong ayutthaya 34

หลังจากเดินชมโบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์อยู่กว่าครึ่ง ชม.  ก็ได้เวลาเดินทางไปชมวัดเก่าอีกวัดนึงของอยุธยาแล้วนะคะ   แต่ก่อนจะไป ก็ขอแวะช๊อปปิ้งซื้อของกินโน่นนี่ที่อยู่บริเวณทางเข้าก่อน  ซึ่งก็มีให้เลือกซื้อหลายอย่างเลยค่ะ  ไม่ว่าจะเป็นถั่วทอดกลอยที่ทอดกันแบบสดใหม่  ปลาสลิดปลาช่อนแดดเดียวทอดพร้อมทาน  หนังปลา ก้างปลาทอดกรอบ (อันนี้แคลเซียมเยอะนะคะ)  เผือกฉาบ มันฉาบ กล้วยฉาบ  กาละแม ข้าวเหนียวแดง ผลไม้กวนต่างๆ  พุทราแผ่น พุทราแช่อิ่ม และอื่นๆ  อีกมากมายเลยอ่ะค่ะ   ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้นอกจากจะขายของราคาไม่แพงแล้ว ยังใจดีมาก ๆ อีกด้วยนะคะ .... ลองไปดูได้ค่า  

angthong ayutthaya 37

angthong ayutthaya 38

angthong ayutthaya 41

angthong ayutthaya 44

angthong ayutthaya 45

angthong ayutthaya 46

angthong ayutthaya 48

จุดหมายถัดไปของเราก็คือ วัดใหญ่ชัยมงคลนะคะ ^_^

วัดใหญ่ชัยมงคล เป็นวัดที่สร้างในสมัยอยุธยาตอนต้นค่ะ   คือสร้างในสมัยของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง พระมหากษัตริย์ผู้สถาปนากรุงศรีอยุธยานะคะ โดยตอนแรกที่สร้าง มีชื่อว่า วัดป่าแก้ว แต่ตอนมาในปี พ.ศ. 2135 ยุคของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช  ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็นน "วัดใหญ่ชัยมงคล" อ่ะค่ะ  ซึ่งวัดนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากที่สุดอีกวัดนึงนะคะ   ก็เลยเป็นธรรมดาที่จะเห็นนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมวัดนี้กันอย่างไม่ขาดสาย    โดยวันนี้จะมีจุดที่น่าสนใจก็คือสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น  มีเจดีย์ที่สูงที่สุดในอยุธยา แล้วก็ยังมีตำหนักพระนเรศวรมหาราช ให้ประชาชนนักท่องเที่ยวได้เข้ามากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลอีกด้วยค่ะ 

angthong ayutthaya 72

angthong ayutthaya 49

angthong ayutthaya 51

angthong ayutthaya 73

angthong ayutthaya 50  

angthong ayutthaya 52

จากวัดใหญ่ น้องหวานเจ้าถิ่นก็ได้พาพวกเราไปซื้อโรตีสายไหม ซึ่งเป็นหนึ่งในของฝากขึ้นชื่อของจังหวัดอยุธยานะคะ  .... โดยจุดที่น้องหวานพาไป เรียกกันว่าถนนสายโรตี ^_^   ซึ่งก็จะมีร้านขายโรตีสายไหมนับสิบยี่สิบร้านเลยค่ะ  แต่ร้านที่น้องหวานแนะนำก็คือร้านอาบีดีน  ประนอม แสงอรุณ    ซึ่งความอร่อยของโรตีสายไหมร้านนี้เนี่ย น้องหวานบอกว่าขจรขจายไปหลายจังหวัดเลยนะคะ    โดยจะมีทั้งแบบโรตีชุดเล็ก และโรตีชุดใหญ่   พิมจำราคาชุดเล็กไม่ได้ แต่ชุดใหญ่มีสองราคา คือแบบชุดละ 100 และชุดละ 200   ซึ่งแน่นอนว่าหน้าตาป๋าอย่างคุณสามีพิม ซื้อชุดละ 100 ... 3 ชุดอ่ะค่ะ ^^ 

angthong ayutthaya 54

angthong ayutthaya 57

และหลังจากที่ได้ชิมโรตีสายไหมของร้านนี้ บอกได้เลยค่ะว่าต่างจากที่อื่นจริง ๆ  ใครที่ชอบแป้งโรตีแบบบาง ๆ เส้นสายไหมบาง ๆ เบา ๆ  อาจจะไม่ชอบโรตีสายไหมของที่นี่นะคะ  เพราะทั้งตัวแผ่นแป้งและเส้นสายไหมของที่นี่ จะมีความใหญ่และหนากว่าร้านอื่นเป็นพิเศษนะคะ   แต่ถ้าใครชอบแผ่นแป้งแบบนุ่ม ๆ  ชอบสายไหมแบบหวานน้อย พิมแนะนำร้านนี้เลยค่ะ อร่อยจริง  ซื้อไปฝากใครเค้าไม่อายแน่นอนอ่ะค่ะ ^_^ 

angthong ayutthaya 56

จริง ๆ ตามโปรแกรมเดิมที่คุยกันไว้ตอนแรก จากร้านโรตีสายไหม พวกเราก็ไม่มีโปรแกรมเดินทางไปไหนต่อแล้ว  คือจะตรงกลับบ้านกันเลยนะคะ  แต่ว่าตอนขาออกจากกรุงเทพฯ รถค่อนข้างติด  น้องหวานก็เลยคิดว่าขากลับรถอาจจะติดด้วย  เราอาจจะต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการเดินทางกลับบ้าน  น้องหวานก็เลยชวนเราไปกินข้าวเย็นที่ร้านกู่โภชนา  ซึ่งเมื่อก่อนจะอยู่ที่สิงห์บุรี  แต่ตอนนี้เค้าย้ายมาอยู่ที่อยุธยาแล้วอ่ะค่ะ 

angthong ayutthaya 58

ร้านกู่โภชนาเป็นร้านอาหารที่เปิดมานานหลายสิบปี และมีเมนูอาหารไม่มากนะคะ แต่น้องหวานเค้ารับประกันเลยค่ะว่าอร่อยทุกอย่าง  โดยเฉพาะเป็ดพะโล้ บะเต็ง สลัดเนื้อสลัดหมูน้ำใส  และอาหารประเภทปลาแม่น้ำทั้งหลายอ่ะค่ะ   แต่ด้วยความที่มื้อกลางวันที่ผ่านมา เราจัดเมนูปลากันไปซะหลายเมนู เพราะงั้นมื้อค่ำนี้ก็เลยขอเป็นเมนูอื่นที่ไม่ใช่ปลาบ้างนะคะ 

angthong ayutthaya 59

angthong ayutthaya 60

เริ่มกันที่เมนูแรกกับเป็ดพะโล้  ..... อยากจะบอกว่าแว๊บแรกที่ได้เห็นคือ สับและเรียงเป็ดมาได้สวยมาก บ่งบอกถึงความพิถีพิถันของคนทำเลยอ่ะค่ะ ส่วนรสชาติก็ใช้ได้ ดีงาม  รสชาติของน้ำพะโล้ซึมเข้าไปอยู่ในทุกอณูของเนื้อเป็ด และเนื้อเป็ดก็ไม่มีกลิ่นสาบ แล้วก็ยังมีความนุ่มเหนียวกำลังดี  สรุปว่าถ้ามาทานที่นี่อีกก็ควรสั่งมาทานอีกนะคะ

angthong ayutthaya 61 

 ถัดมาเป็นฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กทอดกรอบค่ะ  ร้านนี้ทำได้ออกมารสชาติแบบไทย ๆ มากหอมเครื่องแกง หอมสมุนไพร  ปรุงรสมาแบบไม่หวาน  ส่วนปลาก็ทอดมาแบบกรอกกำลังดี  เข้ากันได้ดีกับน้ำแกงเลยนะคะ 

angthong ayutthaya 64

ส่วนจานนี้กับจานด้านล่าง  สลัดเนื้อน้ำใส และสลัดหมูน้ำใส  เรียกได้ว่าเป็นจานฮิตฮอตมากของที่นี่ค่ะ  ใครมาทานก็ต้องสั่ง   ในส่วนของเนื้อและหมู เค้าน่าจะทอดแบบไฟอ่อนมากๆ เพื่อให้เนื้อไม่กระด้าง แล้วเร่งไฟแรงเอาตอนสุดท้าย (พิมเดาเอาล้วนๆ)  เพราะทั้งเนื้อและหมูนุ่มมาก ไม่มีความแข็งหรือกระด้างเลยแม้แต่น้อย  ทานกับผักกาดหอม หอมใหญ่ มะเขือเทศ แล้วราดด้วยน้ำสลัดน้ำใสรสเปรี้ยวหวานสูตรทางร้านที่ทำมาหลายสิบปีแล้ว  เข้ากันดีงาม ให้อารมณ์แบบสลัดโบราณเลยอ่ะค่ะ 

angthong ayutthaya 63

angthong ayutthaya 62

ส่วนจานนี้เป็นผัดโป๊ยเซียนนะคะ   เป็นอาหารที่ไม่ว่าพิมจะไปร้านไหนหากมีเมนูนี้ พิมจะต้องสั่งมาทานทุกร้านไปค่ะ    บางร้านก็จะเป็นผัดแบบแห้ง ๆ บางร้านก็จะผัดมาแบบน้ำขลุกขลิก  บางร้านนอกจากของทะเลแล้วก็จะมีเครื่องในพวกตับ เซี่ยงจี้ กระเพาะหมูด้วย  (คือนับเฉพาะเนื้อสัตว์ให้ได้แปดอย่าง)     แต่ผัดโป๊ยเซียนของที่ร้านนี่จะเน้นจะใส่เฉพาะของทะเลอย่างหมึก กุ้ง  หอย ใส่ผักหลากหลาย  (น่าจะนับรวมเนื้อสัตว์ กับผักเป็นแปดอย่าง)  แล้วก็ผัดมาแบบแฉะ ๆ  ซึ่งก็อร่อยไปอีกแบบนะคะ  

angthong ayutthaya 65

และหลังจากทานอาหารที่ร้านนี้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว  เพื่อไม่ให้ถึงบ้านดึกเกิน พวกเราก็เดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อกลับบ้านกันค่ะ ...... ก็เป็นอันจนทริปน้องหวานพาชิมพาเที่ยวอ่างทอง สิงห์บุรี อยุธยา ภายในวันเดียวล่ะนะคะ  ^_^   .. ซึ่งบอกได้เลยว่าวันนี้พิมอิ่มทั้งกายและอิ่มทั้งใจมากๆ ค่ะ  ได้ทานของอร่อย ๆ ของกินโบราณหายากอายุกว่า 50 ปี   ได้ไปไหว้พระพุทธรูปองค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก   ได้ไปกินกุ้งแม่น้ำตัวใหญ่มาก...ก.ก.ก  ได้ไปชมทุ่งทานตะวัน ทุ่งดอกดาวเรืองที่มีพื้นที่กว่า 100 ไร่   ได้ไปชมโบราณสถานอายุเกือบ 700 ปี   ได้ไปช๊อปปิ้งของกินพื้นบ้านโน่นนี่มากมาย   เรียกว่าเที่ยวครบทุกอรรถรสภายในันเดียวเลยนะคะ  ...... งานนี้ก็ต้องขอบคุณน้องน้ำหวานเจ้าถิ่นมากๆ   ที่ทั้งพาพวกเราไปชิม ไปเที่ยว และดูแลพวกเราตลอดทาง ขอบคุณมากๆ เลยค่ะ  

angthong ayutthaya 66

แล้วพบกับพิมในทริปถัดไปนะคะ ........ รับรองสนุกและอร่อยไม่แพ้ทริปนี้แน่นอน สวัสดีค่า ^_^

000



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก