คงเพราะเมื่อคืน เตียงนอนที่นี่ดีเกินไป เช้าวันนี้พิมก็เลยตื่นสายค่า ตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอน 6 โมง แต่เอาจริงตื่นมาซะ 8 โมงกว่าเลยจ้า
พอตื่นมาก็รีบล้างหน้าแปรงฟัน แต่งตัว แล้วออกมานั่งกินข้าวเช้าที่ทางบ้านชานสมุทรเค้าจัดไว้ให้นะคะ
ซึ่งข้าวเช้าของที่นี่เนี่ย ก็จะเป็นเซตข้าวมต้มทะเลนะคะ คือปกติเวลาเราไปกินข้าวต้มทะเลตามร้านหรือตามรีสอร์ท โรงแรมต่างๆ เค้าก็จะจัดทุกอย่างใส่มาในชามเดียว แต่ทีนี่เค้าจะแยกมาเป็นอย่าง ๆ อ่ะค่ะ ทำให้เราสามารถเลือกทานได้ตามชอบ จะกินกุ้ง ไม่กินหมึก จะกินปลาไม่ใส่ผักชี หรือชอบใส่ขิงเยอะๆ กระเทียมเจียวไม่เอา ก็ทำได้ตามที่ชอบเลยอ่ะค่า แถมถ้าข้าวต้มหมด จะขอข้าวต้มเพิ่มอีกก็ยังได้นะคะ (แต่ขอหมึกกุ้งเพิ่มไม่ได้แล้วน๊าา ^_^)
และด้วยความที่พิมตื่นมาแบบมึน ๆ งง ๆ หลังตื่นก็ลืมไปเลยว่าจุดหมายของวันนี้พิมจะไปทำอะไรที่ไหนยังไงบ้างอ่ะค่ะ >_< จนกระทั่งกินข้าวต้มเสร็จประมาณ 9 โมงกว่าๆ ถึงได้นึกออกว่าวันนี้พิมมีแพลนจะไปดำน้ำที่เกาะมันนอก และเกาะทะลุนะคะ แล้วตามแพลน เรือที่จะพาพิมไปเนี่ยเค้าก็ออกจากท่าตอนประมาณ 10 โมงด้วยค่ะ (มีวันละ 1 รอบ) แถมจากบ้านชานสมุทรไปท่าเรือเนี่ย ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงเลยนะคะ ตอนนั้นนี่คิดแบบติ๊กต๊อก ๆๆๆ มาก จะเอายังไงดี จะทำยังไงดี จะไปทันไหม จะยกเลิกแผนการณ์ดีไหม สุดท้ายเลยบอกคุณสามีว่า ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แหละ เรารีบเก็บกระเป๋า เช็คเอ้าท์ และขับรถไปที่ท่าเรือดีกว่า ส่วนว่าจะทันหรือไม่ทันก็ไม่เป็นไร ถ้าทันก็ได้ไปดำน้ำ แต่ถ้าไม่ทันก็ค่อยเปลีย่นแผนเท่านั้นเองอ่ะค่ะ >_<
จากบ้านชายสมุทร .... google บอกพิมเอาไว้ว่า เราจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาทีกับระยะทาง 26 กิโลเมตรนะคะ ซึ่งตอนที่พิมออกจากบ้านชายสมุทรเนี่ย ปาเข้าไปเกือบ ๆ จะ 9 โมงครึ่งแล้วค่า ลุ้นมากว่าจะทันไหม คือไม่ชอบให้ใครต้องรอ และถ้าเค้าตั้งใจรอ พิมก็เกรงใจเค้ามากๆ อ่ะค่ะ ก็เลยกะว่าจะขับรถแบบทำเวลาหน่อย แต่เอาจริงทำเวลาอะไรไม่ได้เลยค่า เพราะถนนเป็นแบบเลนสวน เลยต้องขับแบบเรื่อย ๆ ตามที่ google บอก กว่าจะไปถึงปาเข้าไปอีก 5 นาทีจะ 10 โมงเลยจ้า
แล้วก่อนจะไปขึ้นเรือ พิมจะต้องแวะไปซื้อตั๋วที่เดอะทอยทัวร์กันก่อนนะคะ (เห็นว่ามีหลายทัวร์ แต่เจ้าของบ้านชานสมุทรแนะนำที่นี่มา) ซึ่งตั๋วอันนี้เป็นตัวแบบแพคเกจ one day trip เที่ยว 1 เกาะ ดำน้ำ 2 เกาะ พร้อมอาหารกลางวัน เครื่องดื่ม น้ำแข็ง ของขบเคี้ยว อยูที่ 790 บาท บวกค่าเข้าอุทยานอีกคนละ 40 ก็จะเป็นคนลละ 830 บาทอ่ะค่า ^_^
และหลังจากซื้อตั๋วเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถไปจอดที่แถว ๆ ท่าเรือได้เลยจ้า ซึ่งทางทัวร์เค้าจะมีรถมอเตอร์ไซด์นำไป แต่ถ้าใครไม่สะดวก จะจอดรถไว้ที่ทัวร์ แล้วนั่งรถของทัวร์ไปที่ท่าเรือก็ได้อ่ะค่ะ
เรือที่เราใช้โดยสารกันในวันนี้ เป็นเรือลำใหญ่ 2 ชั้นที่เรียกกันว่าเรือสำราญนะคะ จุคนได้ประมาณ 150-160 แบบสบายๆ ตอนแรกก็แอบกังวลว่าจะโคลงเคลงไหม แต่พอได้นั่งจริง เรือนิ่งมากค่า
เรือใช้เวลาแล่นประมาณ 15 นาที ก็ถึงจะจุดหมายแรกของเราในวันนี้แล้วนะคะ คือ เกาะมันใน ค่า
ที่เกาะมันในเนี่ย จะว่าไปแล้วไม่ได้เป็นเกาะที่ครึกครื้นแบบเกาะท่องเที่ยวทั่วไปนะคะ เพราะที่นี่เป็นที่ตั้งของศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเลอ่ะค่ะ แต่ด้วยความที่เป็นศูนย์อนุรักษ์นี่แหละ ก็เลยทำให้น้ำทะเลแถวนี้ใสมาก อากาศก็สะอาดมาก ต้นไม้บนเกาะก็เยอะมาก แม้แดดจะแรงหน่อย แต่ก็ยังรู้สึกว่าสดชื่นอ่ะค่ะ
จากท่าเรือ เราเดินมาไม่ไกลนักก็จะถึงศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เตาทะเลบนเกาะมันในแล้วนะคะ ซึ่งที่นี่เนี่ยนอกจากจะมีพิพิธภัณฑ์เต่าทะเล ที่แสดงเรื่องราวของเต่าทะเลมากมายหลายประเภทแล้ว ก็ยังมีการจำลองการวางไข่ของเต่าทะเลให้เราได้ชมกันอีกด้วยค่ะ
ส่วนในเรื่องของเต่าทะเล ที่นี่ก็เป็นศูนย์ศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการผสมพันธุ์ของเตาทะเล การเพาะ ฟัก การวางไข่ การอนุบาล การเลี้ยง ศึกษาพฤติกรรม ดูแลรักษาและ ป้องกันโรคของเต่าทะเลนะคะ แล้วนอกนั้นก็ยังมีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับปะการังชนิดต่างๆ ที่อยู่ในแถบนี้ การแพร่กระจาย การเติบโตของแนวปะการัง การอนุรักษ์ และฟื้นฟูปะการังอีกด้วยอ่ะค่ะ
ซึ่งเต่าทะเลของที่นี่เนี่ย ก็จะมีทั้งเตาทะเลโตเต็มวัย เต่าทะเลรุ่นคุณปู่คุณย่า เต่าทะเลที่บาดเจ็บ และเต่าทะเลที่ยังเป็นลูกเต่าอยู่นะคะ ซึ่งเต่าทะเล 2 ชนิดหลังเนี่ย ถ้าหายจากอาการบาดเจ็บ และแข็งแรง หรือโตเต็มวัยแล้ว ทางศูนย์ก็จะปล่อยกลับคืนสู่ท้องทะเลอ่ะค่า ^_^
จากเกาะมันใน จุดหมายถัดไปของเราจะอยู่ที่เกาะมันกลางนะคะ ซึ่งเกาะนี้เนี่ยเป็นเกาะที่เราจะไปดำน้ำดูปะการังกัน (ดำแบบน้ำตื้น) เพราะนั้นแล้วระหว่างที่เรือแล่นไปในทะเล ทางทัวร์เค้าก็จะมีการสอนวิธีใช้เสื้อชูชีพ สอนใช้หน้ากากดำน้ำ สอนวิธีการหายใจใต้น้ำ และวิธีการดำน้ำที่ถูกต้องอ่ะค่ะ ซึ่งพิมขอบอกเลยว่าไม่ยากนะคะ ครั้งแรกในชีวิตพิมก็กลัวเหมือนกัน แต่เอาจริงแทบไม่ต่างจากหายใจบนบกเลยค่ะ ^_^
จุดหมายแรกในการดำน้ำของเราวันนี้ อยู่ที่เกาะมันกลางนะคะ ซึ่งเมื่อเรือจอดเรียบร้อยดีแล้ว คนของทัวร์เค้าก็จะว่ายน้ำลากเชือกที่มัดติดกับทุ่นไปผูกกับหินใต้น้ำ ไว้ให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นหรือขี้เกียจว่าย ^__^ ได้เกาะเชือกไปเรื่อย ๆ จากเรือจนถึงใกล้แนวปะการังอ่ะค่ะ
ซึ่งหลายคนที่เคยมาดำน้ำครั้งแรกก็แอบกล้า ๆ กลัว ๆ กันเน๊าะคะ พิมก็เคยเป็นอ่ะ เพราะงั้นคนของทัวร์เค้าก็เลยจะต้องลงไปตรวจสอบความเรียบร้อย และว่ายรออยู่ในทะเลก่อน เพื่อให้ลูกทัวร์ได้อุ่นใจว่ายังไงถ้าลงไป แล้วก็ไหลไปตามคลื่น ก็มีคนชวยแน่ ๆ อ่ะค่ะ ^_^ (แต่จริง ๆ มันไม่ไหลหรอกจ้า)
แล้วระหว่างเวลาที่เราดำน้ำเนี่ย ก็จะมีเจ้าหน้าที่ทัวร์ (leader) เค้าคอยพาเราไปดูตลอดเลยนะคะ ว่าตรงไหนบ้างที่มีปะการังน่าสนใจอ่ะค่ะ ซึ่งใครใคร่จะว่ายน้ำตาม leader ไป ก็ตามสบายเลย ส่วนคนที่ขี้เกียจว่าย (อย่างพิม) จะนอนนิ่ง ๆ ให้สายน้ำมันพัดพาไปก็ได้นะคะ ฮ่าๆ ^^
และหลังจากเราว่ายน้้ำ ดำน้ำดูปะการังที่จุดนี้ไปประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ได้เวลาเดินทางต่อไปเกาะที่ 3 แล้วอ่ะค่ะ
ระหว่างทางจากเกาะมันนอก ไปเกาะทะลุที่เป็นเกาะที่ 3 เนี่ย ใช้เวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 1 ชม. กว่าๆ ได้ เพราะนั้นระหว่างนั่งอยู่บนเรือกันเฉย ๆ เจ้าหน้าที่เค้าก็เลยแจกข้าวกลางวันให้เรากินไปพลาง ๆ นะคะ ซึ่งก็จะมีเนื้อสัตว์ทั้งแบบหมู ทะเล ไก่ ใครชอบแบบไหนก็หยิบไปได้ตามชอบเลยค่า
และหลังจากกินข้าวเสร็จ นอนชมวิวทะเลไปแล้ว ประมาณบ่ายโมงครึ่งกว่าๆ เราก็มาถึงเกาะทะลุกันแล้วนะคะ
ตอนแรกที่มาถึงเกาะทะลุเนี่ยบอกเลยค่ะว่า รู้สึกเอิ่มม...มม... เกาะสวยดีนะ มีหาดทรายขาวๆ ด้วยนะ แต่มีอะไรมากกว่าเกาะมันนอกไหมนะ เพราะที่เกาะมันนอกเนี่ย น้ำใสจริง ปะการังสวยจริง แต่ถ้าปะการังที่เกาะทะลุมีเหมือนกับปะการังที่เกาะมันนอก เราจะมาที่เกาะทะลุทำไม แบบว่าเสียเวลานั่งเรือไปกลับตั้งหลายชั่วโมง อะไรประมาณนี้อ่ะค่ะ
ปรากฎว่าหลังจากที่ได้ลงไปในทะเล ได้ว่ายไปตรงนั้นตรงนี้ อยากบอกว่าปะการังที่นี่สวยมากกกกค่า สวยและสมบูรณ์กว่าที่เกาะมันนอกเยอะเลยนะคะ
ที่สำคัญคือ ที่นี่นอกจากปะการังสวยๆ แล้ว ก็ยังมีปลาทะเลตัวเป็น ๆ อีกด้วยค่า บางจุดก็มีเยอะ บางจุดก็มีน้อย บางจุดก็ไม่มี แต่รวม ๆ แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางเงือกที่กำลังว่ายอยู่ในตู้ปลาเลยอ่ะค่า ^_^
และเหมือนว่าเจ้าปลาจะคุ้นชินกับนักท่องเที่ยวมาก ๆ นะคะ (อาจจะเคยมีใครเอาอาหารมาให้ - -") เพราะปลามันไม่รู้จักคำว่ากลัวคนเลยค่ะ แถมบางครั้งก็ยังมีว่ายมาชนอีกต่างหากนะคะ
หลังจากว่ายน้ำเล่นกับปลา และดูปะการังอยู่พักใหญ่ (ราวๆ 1 ชม.) ก็ได้เวลาเดินทางกลับกันแล้วจ้า ซึ่งถ้าขึ้นเรือใหญ่แบบนี้ หากใครเหนอะหนะตัว ก็สามารถอาบน้ำจืดที่เค้าเตรียมไว้ให้ และเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยค่า
ด้วยความที่วันนี้ใช้แรง (ว่ายน้ำ) กันครึ่งค่อนวัน ตอนนั่งเรือกลับพิมก็เลยงีบหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะคะ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเจ้าหน้าที่ทัวร์เค้าประกาศว่า ตอนนี้เรือของเรามาถึงฝั่งแล้วจ้า .. พิมก็เลยถึงได้ตื่นอ่ะค่ะ ^^
จากท่าเรือ ใครที่นั่งรถของบริษัททัวร์มา ก็จะมีรถของบริษัททัวร์มาจอดรับตรงท่าเรือเลยนะคะ แต่ถ้าใครขับรถมาเองอย่างกับคุณสามีก็สามารถเดินออกมาตรงจุดจอดรถได้เลยอ่ะค่ะ ซึ่งตอนขามาเนี่ยขอบอกว่าแดดร้อนมาก เดินมานี่เหงื่อหยดติ๋ง ๆ เลยนะคะ แต่ขากลับเป็นช่วงเวลาแดดร่มลมตก เดินสบาย ๆ เลยค่า
แต่ว่ามาถึงตรงนี้แล้ว ทริปชวนคุณสามีมาฮันนีมูนที่ระยอง พร้อมกินอาหารพื้นบ้าน ก็ยังไม่จบลงนะคะ ยังขาดอีกอย่างนึงที่สำคัญมากๆ ก็คือ พิมยังไม่ได้กินขนมนิ่มนวลเลยค่า >_<
เพราะงั้นแล้วระหว่างทางที่จะขับรถกลับบ้าน พิมก็เลยชวนคุณสามีแวะเข้าไปในตัวเมืองนิดหน่อย เพื่อไปหาซื้อเจ้าขนมนิ่มนวลนี่แหละค่ะ
ขนมนิ่มนวล เป็นขนมพื้นบ้านของจังหวัดระยองนะคะ ถือได้ว่าเป็นขนมที่หาทานได้ยากมากกกก เพราะกรรมวิธีในการทำที่ค่อนข้างยุ่งยากซับซ้อนอ่ะค่ะ
โดยวิธีทำขนมนิ่มนวล จะเริ่มตั้งแต่เอาข้าวเหนียวไปคั่วจนเหลืองหอม แล้วนำไปบด ร่อนจนได้ผงที่ละเอียดเหมือนผงแป้ง ก็นำไปนวดรวมกับน้ำเชื่อมที่เคี่ยวไว้จนเหนียวนะคะ จากนั้นปั้นแป้งที่เราทำได้ให้เป็นก้อนกลมขนาดพอเหมาะ รีดให้เป็นแผ่นบางๆ ใส่ไส้ที่มีส่วนผสมของมะพร้าวและน้ำตาลลงไปอ่ะค่ะ แล้วก็จับแผ่นแป้งสองด้านประกบกันให้ติด เคล้าผงแป้งบาง ๆ ที่ทำจากข้าวคั่วอีกครั้งเพื่อไม่ให้ขนมแต่ละชิ้นติดกัน ก็เป็นอันว่าเราจะได้กินขนมนิ่มนวลแล้วล่ะค่ะ ^_^ (อ่านเหมือนทำไม่ยาก แต่ของจริงยากมากค่าา)
แล้วจากการสอบถามคนในพื้นที่ ต่างก็บอกกันเป็นเสียงเดียวว่า ขนมนิ่มนวลเจ้าที่อร่อยที่สุด คือขนมนิ่มนวลของครูแมว ซึ่งจะมาตั้งขายอยู่ที่หน้าเซเว่นใกล้ตลาดใหม่วัดลุ่มหลังบ่ายสองของทุกวันไปนะคะ ซึ่งแน่นอนว่างานนี้พิมต้องมาหาไปชิมแน่นอนค่า
แต่อยากจะเม้ามอยตัวเองนิดนึงค่ะว่า ก่อนหน้านี้พิมไม่เคยรู้จักขนมนิ่มนวลมาก่อนเลยนะคะ จนกระทั่งมา search ใน google ว่า อาหารถิ่นอาหารพื้นบ้านที่น่าสนใจของระยองมีอะไรบ้างนี่แหละค่ะ พิมถึงได้รู้จักกับขนมนิ่มนวล
จะว่าไปทีระยองมีคนทำขนมนิ่มนวลขายอยู่หลายเจ้านะคะ แต่ว่าพอไปถามวินมอเตอร์ไซด์ ถามคนที่โรงแรม ถามร้านขนมไทยหลายเจ้า ก็ต่างบอกพิมเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าจะกินขนมนิ่มนวลต้องร้านครูแมวเท่านั้นอ่ะค่ะ ซึ่สนนราคากล่องนึงที่ตอนแรกพิมแอบคิดว่าน่าจะแพง เพราะวิธีการทำมันยุ่งยากหลายขั้นตอน แต่ครูแมวกลับขายแค่กล่องละ 30 บาทเท่านั้นเองนะคะ ซึ่งพิมรู้สึกว่าถูกมากเลยอ่ะ
และขอบอกว่าตอนได้ชิมนี่พีคมากเลยจ้า (ชิมบนรถนะ ระหว่างเดินทางกลับ) คือพิมซื้อมา 3 กล่องนะคะ กะว่าฝากแม่กล่องนึง ฝากน้องกล่องนึง กินเองอีกกล่องนึง ปรากฎว่าพอได้กินคำแรก รู้สึกตัวอีกทีหมดไป 2 กล่องแล้วอ่ะค่ะ -*-
ขนมอันนี้เนี่ย (และของเจ้านี้เนี่ย) เป็นขนมไทยหนึ่งในไม่กี่อย่างไม่กี่เจ้านะคะ ที่พิมกินแล้วรู้สึกชอบมาก เมื่อเปิดกล่องขนมออกมา สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยคือกลิ่นหอมของมะลิค่ะ แล้วพอหยิบขนมใส่ปาก คำแรกที่สัมผัสได้คือความนิ่มนวลสมชื่อขนมเลยนะคะ ตัวขนมเค้าจะมีความเหนียวนิดๆ นุ่ม หอมกลิ่นข้าวคั่ว (เพราะว่าแป้งที่ใช้ทำเป็นแป้งจากข้าวคั่ว กลิ่นคล้ายๆ ข้าวตู) ทานคู่กับไส้ที่ทำจากมะพร้าวทึนทึกแล้ว รสชาติหวานกำลังดีเลยอ่ะค่ะ แล้วด้วยความที่ขนมเค้านุ่มนิ่มนะคะ ก็เลยกินเพลิน ๆ แบบไม่รู้ตัว หมดกล่องไปเมื่อไหร่ไม่รู้เลยค่ะ .... น่าเสียดายมากๆ นี่ถ้ายังไม่พ้นตัวเมืองระยอง จะให้คุณสามีวกรถกลับไปซื้ออีกเลยจ้า
สรุป ... ทริปฮันนีมูนรอบสองของพิมพร้อมพาคุณสามีไปชิมอาหารถิ่นเมืองระยอง ก็เป็นอันว่าจบอย่าง Happy Ending แล้วนะคะ ทริปนี้ถือเป็นอีกทริปที่พิมมีความสุขมาก ได้มาเที่ยวกับคนที่พิมรัก ได้กินอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ ได้เที่ยวในที่ ๆ ไม่เคยไป ได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ ทุกอย่างล้วนดีงามมากๆ เลยอ่ะค่ะ เพราะงั้นแล้วเพื่อน ๆ คนไหนที่สนใจอยากจะมาเที่ยวระยอง แล้วยังไม่รู้จะไปที่ไหน จะกินอะไร ตามรอยพิมมาได้เลยนะคะ และถ้าสงสัยตรงไหน อยากให้พิมพูดเกี่ยวกับเรื่องอะไรเพิ่ม ก็ส่งข้อความมาคุยกันได้เลยจ้า แล้วพบกับใหม่ในทริปหน้านคะะ ..... สวัสดีค่ะ ^_^