header



หลาย ๆ คนที่ติดตามครัวบ้านพิมมา  อาจจะรู้ว่าบ้านพิมมีสวนผลไม้พวกเงาะ มังคุด ลองกอง ทุเรียนอยู่ที่จันทบุรี   ซึ่งพิมก็เคยพาเพื่อน ๆ ไปดูกันหลายครั้งแล้วเน๊าะคะ  ^_^ 

มาวันนี้พิมจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวจันทบุรีกันอีกสักรอบค่ะ  แต่จะพาไปเที่ยวที่อื่นแทนนะคะ   ไม่ว่าจะสวนผลไม้ น้ำตก ทะเล ชุมชนริมน้ำ ตลาดสด ตลาดแห้ง  สถานที่แสดงสัตว์น้ำ (ที่ไม่เสียตังค์เข้าสักบาท แต่ปลาเยอะมากกกก) พิมจะพาไปให้ทั่วเลยค่า  และที่ขาดไม่ได้ พิมจะพาไปกินอาหารอร่อย ๆ อาหารที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอาหารประจำถิ่นอย่าง #ข้าวคลุกพริกเกลือ #ต้มกระวาน #มัสมั่นทุเรียน #หมูชะมวง #แกงป่าแสนตุ้ง #ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง  กันอย่างแน่นอนค่ะ ...... พร้อมแล้วก็เก็บกระเป๋า ตามพิมมาเลยจ้า

ทริปนี้ของพิมกับคุณสามี เราออกเดินทางกันแต่เช้าเลยค่ะ  แบบว่าเช้ามากกก  8 โมงกว่า ๆ  ฮาาา  - -"  (คือตื่นสายนะคะ ไม่มีอะไรมากเลย >_<)  หลังจากขับรถออกมาจากบ้านนิดนึง พิมก็แวะกินข้าวที่ร้านประจำกันก่อน  แล้วก็ตรงดิ่งไปจันทบุรีเลยค่ะ  ซึ่งระหว่างทาง ถนนนี่โล่งมาก และท้องฟ้าก็สดใสมาก เหมือนเป็นใจให้ทริปนี้ของพิมเลยนะคะ 

chantaburi1 3 49

cm01

chantaburi1 1 01

chantaburi1 1 02

 จากบ้าน พิมใช้เวลาเกือบ ๆ  4 ชม. ก็ขับรถมาถึงที่หมายแรกของพิมในวันนี้ ก็คือ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและป่าชายเลนคุ้งกระเบน ค่ะ 

chantaburi1 1 03

เพื่อน ๆ หลายคนอาจจะสงสัยว่าพิมมาทำไมที่ศูนย์ศึกษาฯ อ่าวคุ้งกระเบน  คือถ้าเรามองเผิน ๆ เนี่ย ศูนย์อ่าวคุ้งกระเบน ก็เหมือนไม่มีอะไรเลยนะคะ   แต่ในความไม่มีอะไรนั่นแหละค่ะ มันมีอะไรเยอะมาก

chantaburi1 1 04

พิมเป็นคนชอบพื้นที่ ๆ มีสีเขียวของต้นไม้นะคะ    สังเกตุได้จากที่บ้านพิมนี่ต้นไม้รกจนแทบจะเหมือนป่าเลย  >_<"   พอมาต่างจังหวัดพิม ถ้าเป็นไปได้ สถานที่ ๆ พิมจะต้องไปที่แรกๆ  เลยคือคือที่ ๆ มีป่ามีต้นไม้เยอะๆ อ่ะค่ะ   เพราะดูแล้วรู้สึกสบายตาสบายใจดี  สมกับคำว่ามาเที่ยวและพักผ่อนเน๊าะคะ 

chantaburi1 1 05

และที่ศูนย์ฯ อ่าวคุ้งกระเบนนี่นอกจากจะเป็นป่าชายเลนที่มีขนาดใหญ่กว่า 200 ไร่แล้ว  ก็ยังมีสะพานไม้ทอดยาวเข้าไปในป่าเกือบๆ 2  กม. ให้เราได้เดินเข้าไปดูต้นไม้ใหญ่ ๆ อย่าง แสม ลำพู (ที่หิ่งห้อยชอบ)  โกงกาง  เสม็ด  ไปดูสัตว์น้ำตัวเล็กตัวน้อยอย่าง ปู ปลา แมงดาทะเล   ที่มักจะอยู่ตามโคนต้นไม้ที่น้ำแฉะๆ อีกด้วยนะคะ  เรียกว่าทั้งสบายตาสบายใจ ได้ความรู้ และได้ความเพลิดเพลินมากๆ เลยอ่ะค่ะ ^_^ 

chantaburi1 1 06

chantaburi1 1 07

ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของป่าชายเลนอ่าวคุ้งกระเบนนี่  ทำให้ครั้งนึงเมื่อนานมาแล้วเคยมีพะยูนมาอาศัยอยู่ในบริเวณอ่าวนี้ด้วยนะคะ ^_^   แต่อาจจะเพราะสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไป สภาพท้องทะเลเปลี่ยนไป (ในทางแย่ลง)  ช่วงระยะสิบกว่าปีที่ผ่านมาพะยูนก็เลยอพยพย้ายกันไปอยู่ที่อื่น จนต้องมีการสร้างรูปปั้นพะยูนไว้แทนค่ะ  - -"   จนเมื่อมีการพัฒนาปรับปรุงดูแลอ่าวคุ้งกระเบนและป่าชายเลนบริเวณมากขึ้น จนทะเลและป่ากลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง   ก็เลยได้ข่าวแว่ว ๆ มาจากเจ้าหน้าที่ที่อ่าวคุ้งฯ ว่า ตอนนี้เริ่มมีพะยูนว่ายกลับเข้ามาแทะเล็มหญ้าทะเลในบริเวณนี้อีกครั้งแล้วอ่ะค่า  แบบว่าแค่ได้ฟัง ยังไม่ทันได้เห็นตัว พิมก็ดีใจแล้วนะคะ  เพราะอย่างน้อยก็ถือว่าเป็นนิมิตรหมายอันดีอ่ะค่ะ   ^_^ 

chantaburi1 1 08

chantaburi1 1 09

chantaburi1 1 10

 และสำหรับคนที่ชอบดูนก ชอบดูวิวมุมสูง  ที่ศูนย์ฯ อ่าวคุ้งกระเบน ก็ยังมีหอสูงที่เรียกว่า หอดูเรือนยอดไม้ ไว้ให้เราเดินขึ้นไปดูนกชมวิวอีกด้วยนะคะ   

chantaburi1 1 11

 พอนี้เนี่ยทำจากไม้ล้วน ๆ  สูงประมาณ 15 เมตรค่ะ  และก็มีบันไดแบบบันไดเวียน มีจุดให้นั่งพักเป็นระยะ ๆ  และพอถึงด้านบนสุด ก็จะเป็นระเบียงทรงห้าเหลี่ยม พร้อมที่นั่งไว้ให้ชมวิวละชมนก ซึ่งมีมากกว่า 150 ชนิดเลยนะคะ แบบว่านกเยอะมากค่าา

chantaburi1 1 14

แต่น่าเสียดายตอนที่พิมไปเป็นช่วงเที่ยง น้ำก็เลยยังไม่ขึ้น  ก็เลยจะเห็นทะเลเป็นทรายขาว ๆ เน๊าะคะ  สำหรับเพื่อน  ๆ คนไหนที่อยากไปดูวิวทะเลมุมสูง แบบน้ำทะเลเต็ม ๆ แนะนำให้ไปช่วยบ่ายแก่ๆ  ถึงช่วงเย็นแทนค่า

chantaburi1 1 13

chantaburi1 1 12

ถัดจากศูนย์ฯ อ่าวคุ้งกระเบนมาไม่ไกล ประมาณสัก  300 เมตร  (เดินเอาก็ถึงเน๊อะ  แต่นั่งรถมาดีกว่าค่ะ เพราะร้อน - -")  ก็จะมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำประจำจังหวัดจันทบุรี ที่เรียกกันว่าสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ ๖ รอบ พระชนมพรรษาอยู่นะคะ 

 cm02

chantaburi1 1 16

ซึ่งที่นี่เนี่ย ก็จะเป็นสถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ในทะเลท้องถิ่นและทะเลใกล้เคียงกับอ่าวคุ้งกระเบนนะคะ   (เกือบทั้งหมดจะเป็นปลา)  มีทั้งปลาทะเลแบบสวยงาม อย่างปลาการ์ตูน  ปลาสินสมุทร  ปลาสิงโต  และปลาทะเลที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ (หรือแปลง่าย ๆ ว่าปลาที่นิยมจับมากิน)  อย่าง ปลากะพงขาว ปลากะพงแดง  ปลากระเบน  และปลาเก๋าอ่ะค่ะ ^^ 

chantaburi1 1 21

chantaburi1 1 19

chantaburi1 1 20

สถานที่แสดงพันธุ์สัตว์น้ำแห่งนี้เนี่ย จากที่พิมเคยไปมาเกือบ 10 ครั้งแล้วในรอบหลายปีที่ผ่านมา และจากการเทียบกับสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำอื่นๆ  ในเมืองไทย พิมบอกเลยค่ะว่าที่นี่ไม่ใหญ่  แต่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ  ที่นี่มีปลาให้ดูไม่เยอะมาก ประมาณสักเกือบๆ  40 ตู้   แต่ทุกตู้มีปลาหมดเลยอ่ะค่ะ  แล้วก็มีคำอธิบายสั้น ๆ ให้พอเข้าใจเกี่ยวกับปลาชนิดนั้น ๆ แปะอยู่บนเหนือตู้แต่ละตู้ด้วย  เรียกว่าให้ดูเพื่อความเพลิดเพลิน แล้วยังได้ความรู้เพิ่มด้วยนะคะ  ที่สำคัญ ..... ที่นี่ไม่เสียค่าเข้าดูเลยสักบาทค่ะ  แต่ถ้าเพื่อน ๆ ดูเสร็จแล้ว อยากช่วยค่าน้ำค่าไฟ ค่าดูแลรักษาตู้ รักษาปลา คนละสักสิบยี่สิบบาท เพื่อน ๆ ก็สามารถหยอดใส่กล่องที่อยู่ใกล้ ๆ ประตูทางออกก็ได้ค่า ^_^ 

วันอังคาร – วันศุกร์ เปิดปิด  08.30 – 16.30น.   วันเสาร์ – อาทิตย์ เปิดปิด  08.30 – 17.30น. และจะปิดทุกวันจันทร์  แต่ถ้าจันทร์ไหนเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ ก็จะเปิดให้บริการ และค่อยปิดให้บริการในวันถัดไปจ้า

chantaburi1 1 18

chantaburi1 1 22

chantaburi1 1 24

chantaburi1 1 25

และนอกจากปลาเป็นๆ แล้ว  ก่อนจะถึงประตูทางออกก็ยังมีพิพิธภัณฑ์เปลือกหอยขนาดเล็กๆ  ไว้ให้เพื่อน ๆ ได้ชมความงามของเปลือกหอยหลากหลายชนิดอีกด้วยนะคะ  ซึ่งส่วนใหญ่ขอบอกเลยว่า   พิมและเพื่อนๆ  ไม่เคยเห็นกันมาก่อนแน่นอนค่ะ   บางชนิดทรงเดียวกันเป๊ะ ๆ แต่ลายต่างกันสุด ๆ ก็มี   บางชนิดเปลือกหอยสีคล้าย ๆ กัน ทรงเปลือกก็คล้ายๆ  กัน แต่เป็นหอยต่างพันธุ์กันก็มี .......   หากใครที่ชอบรูปทรงชอบความสวยงามของเปลือกหอย  ลองไปดูกันได้เลนยะคะ ไม่เสียค่าเข้าชมเช่นกันจ้า  ^_^ 

chantaburi1 1 26

chantaburi1 1 27

chantaburi1 1 28

หลังจากเดินชมความงามในป่าโกงกาง เดินชมความสวยงามของปลาในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำกันมากว่า 2 ชม. พิมกับคุณสามีก็เริ่มหิวแล้วค่ะ - -"   เพราะนั้นได้เวลาเดินทางไปหาของอร่อย ๆ ทานล่ะจ้า

สำหรับมื้อแรกที่จันทบุรี ... พิมก็ขอฝากท้องไว้ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวบ้านนอกสูตรโบราณนะคะ ซึ่งร้านนี้เนี่ยจะอยู่ในเขตอำเภอเมืองจังหวัดจันทบุรี  และอยู่ในละแวกที่เราจะต้องขับรถผ่านไปยังที่พักของเราในคืนนี้ด้วยอ่ะค่ะ ^_^  

cm03

chantaburi1 3 46

ก๋วยเตี๋ยวที่ร้านนี้เนี่ย หลัก ๆ จะเป็นก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวทะเล ที่รสชาติแบบบ้าน ๆ โบราณ ๆ นิดนึงนะคะ  ตอนแรกพิมเองก็ไม่ได้สนใจจะมาที่นี่เลยค่ะ   ตั้งใจว่าจะมากินอาหารทะเล ๆ และอาหารพื้นบ้านของจันทบุรีแต่เพียงอย่างเดียว แต่คิดไปคิดมา มาจันทบุรีตั้ง 3 วัน 8-9 มื้อ  ลองหาอาหารแนวอื่นกินบ้างก็น่าจะดีนะคะ  จะได้ไม่เบื่อของทะเลไปซะก่อนอ่ะค่ะ  ^^" 

และหลังจากพิมสอบถามเพื่อนในเฟส สอบถามเจ้าถิ่น ค้นหาข้อมุลจากใน google บ้าง ก็พบว่า ร้านนี้แหละค่ะ เป็นอีกร้านอาหารร้านนึงในจันทบุรีที่น่าสนใจมาก เพราะว่าอร่อยและราคาไม่แพง ที่สำคัญ มีอาหารพื้นถิ่นของจันทบุรี ก็คือ  ข้าวคลุกพริกเกลืออยุ่ด้วยค่า ^_^ 

ชามแรกที่พิมสั่งมา เป็นก๋วยเตี๋ยวหมูแบบดั้งเดิมของทางร้านเลยนะคะ จะใส่หมูแดง หมูสับ กุ้งแห้ง และก็บะหมี่ทอดกรอบ  (เดาเอาว่าน่าจะแทนแผ่นเกี๊ยวกรอบ)   รสชาติน้ำซุปนุ่มนวลกลมกล่อม  กินเพลิน ๆ แป๊บเดียวหมดชามเลยค่ะ

chantaburi1 3 47

ส่วนชามที่สองของคุณสามีพิม  เป็นก๋วยเตี๋ยวทะเลต้มยำทะเลนะคะ   ซึ่งพอได้ชิมแล้วอยากบอกว่าชามนี้ทะเล๊ทะเลจริง ๆ เลยค่ะ  รสชาติน้ำซุปนัว ๆ  หมึก กุ้ง กั้งก็สดมาก แถมลวกมาแบบสุกกำลังดี ไม่แข็งไป ไม่นิ่มไป  รวม ๆ แล้วอร่อยไม่แพ้ชามแรกเลยค่า

chantaburi1 3 48

และก็ถึงทีเด็ดของร้านนี้ก็คือข้าวคลุกพริกเกลือ ที่มาพร้อมกับน้ำพริกเกลือและน้ำซุปกระดูกหมูนะคะ   ข้าวที่นี่เค้าจะใช้เป็นข้าวหอม แต่ไม่นิ่มมาก เอาข้าวสวยไปคลุกกับน้ำพริกเกลือก่อนเพื่อให้ข้าวมีรสชาติ แล้วค่อยตักใส่จาน โปะด้วยของทะเล อย่างหมึก กุ้ง กั้ง และไข่ต้ม  เวลาทานก็ทานแบบนี้เลยก็ได้  หรือถ้าใครชอบแซ่บมากหน่อยอย่างพิม ก็เทน้ำพริกเกลือที่เค้าเตรียมมาให้ราดลงไปในข้าวได้อีกเลยค่า รับรองอร่อย ^^

chantaburi1 3 49

chantaburi1 3 50

กินกับพอหอมปากหอมคอไป 3 จาน (เหรออออ..อ.อ) เช็คบิลไปเรียบร้อย 200 กว่าบาท  ก็ได้เวลาไปเช็คอินที่พักแล้วล่ะค่า ซึ่งวันนี้ช่วงหัวค่ำพิมมีโปรแกรมจะไปดูสวีทกับคุณสามีแถวริมน้ำจันทบูร (แต่คุณสามีจะอยากสวีทด้วยไหมนี่อีกเรื่องนะคะ - -") ก็เลยจองที่พักไว้แถมริมน้ำ ใกล้ ๆ กับโบส์พระแม่มารีอา ที่เวลาใครๆ ไปจันทบุรี ก็มักจะแวะไปชื่นชมความงามของโบสถ์อ่ะค่ะ

 cm04

แต่ด้วยความที่ที่พัก เค้าไม่มีที่จอดรถนะคะ  พิมก็เลยต้องมาจอดที่ใกล้ ๆ โบสถ์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของที่พัก  ตอนแรกก็หวั่นใจอยู่ในเรื่องความปลอดภัย  แต่เจ้าของที่พักก็บอกว่าจอดแถวนี้ปลอดภัย  ยังไม่มีปัญหาเรื่องขโมยขโจร ก็เลยโอเคค่ะ  ^_^ (ปกติถ้าพิมขับรถเที่ยว พิมจะไม่ค่อยจองที่พัก ที่ไม่มีที่จอดรถนะคะ เพราะกลัวรถหาย รถถูกงัดแงะบ้าง แต่ที่นี่เค้ารับประกันค่ะ) 

chantaburi1 1 29

chantaburi1 1 30

chantaburi1 1 31

จากจุดจอดรถที่โบสถ์ เราเดินข้ามสะพานมานิ๊ดดดนึง แล้วก็เลี้ยวขวา ก็จะเจอที่พักของเราในคืนนี้แล้วนะคะ  #แอทริมน้ำจันท์โฮสเทล  ค่า

chantaburi1 1 32

พูดถึงที่พักในละแวกริมน้ำจันทบูรแล้วเนี่ย พิมอยากจะบอกว่ามีหลายที่มากเลยนะคะ  ตั้งแต่โรงแรมเกษมศานติ์  บ้านหลวงราชไมตรี  โรงแรมท่ามาจัน   บ้านจันเก้าโฮมสเตย์   และโรงแรมเคพีแกรนด์ค่ะ   ซึ่งแต่ละที่ก็จะมีทั้งแบบที่สร้างมานาน  แบบที่เพิ่งสร้างใหม่ดูชิค ๆ  กิ๊บเก๋ เหมาะกับการถ่ายรูปโชว์ลงเฟสลงอินสตราแกรม   แบบหน้าตาทันสมัย   แล้วก็ยังมีแบบบ้านตึก และแบบบ้านไม้อีกด้วยนะคะ     แต่ว่าสาเหตุที่พิมเลือกที่นี่ หลัก ๆ เลยคือใกล้โบสถ์  มีความชิค มีความเก๋ และมีที่ใกล้ ๆ ให้จอดรถได้ค่ะ     ^_^

แต่เอาจริงไม่ได้ถ่ายรูปตัวเองกับที่นี่เลยสักกะรูป ฮ่ะๆ

chantaburi1 1 33

chantaburi1 1 34

แต่ข้อเสียสองอย่างของที่นี่ ด้วยความที่เค้าเป็นบ้านเก่าแก่ที่เป็นบ้านไม้มาก่อน  ฝาผนังก็เลยมีร่องเยอะอย่างที่เห็นในภาพนะคะ  พอเปิดแอร์ แอร์ก็เลยไหลออก  พอปิดประตูปิดหน้าต่างห้องก็เลยร้อนไปนิดนึง  (พิมเป็นคนขี้ร้อน)  จนต้องขอพัดลมมาช่วย  ซึ่งเจ้าของที่พักเค้าก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กุลีกุจอไปหาพัดลมตัวใหญ่มาให้ และพอได้พัดลมมา ทุกอย่างก็โอเคค่ะ ^_^   

ส่วนอีกเรื่องนึงคือเรื่องเสียงดังนะคะ  ด้วยความที่โฮลเทลนี่อยู่ในชุมชน+ติดถนน  และเป็นโฮลเทลที่ห้องไม่ได้เก็บเสียง ไม่ได้กั้นเสียงเข้า  ตลอดเวลาที่นอนเล่นตั้งแต่เย็นจนถึง 3-4 ทุ่ม ก็เลยจะได้ยินเสียงคนคุยกัน  เสียงมอเตอร์ไซด์ เสียงอะไรต่อมิอะไรแบบชัดเจนเลยอ่ะค่ะ   เพราะงั้นใครที่ชอบความเงียบ พิมแนะนำให้ไปหาที่พักแบบโรงแรมอย่างโรงแรมเกษมศานติ์  หรือโรงแรมเคพีแกรนด์จะดีกว่านะคะ  แต่ถ้าต้องการอารมณ์แบบโฮลเทล  แบบเป็นชุมชน  เดินไปไหนมาไหนสะดวก มีร้านขายของกินจุบจิบหลายทางมากมาย  พิมก็แนะนำเป็นโฮลเทล หรือโรงแรมที่พักอย่างท่ามาจัน  บ้านหลวงราชไมตรีเลยค่ะ ^^

ปล. มุ้งเป็นพร๊อบนะคะ เอาจริง ไม่มียุงเลยจ้า

chantaburi1 1 35

chantaburi1 1 36

chantaburi1 1 37

หลังจากเราเก็บของเข้าที่พักกันเรียบร้อยแล้ว  ก็ได้เวลาไปเดินเล่นชมวิวยามเย็นภายในชุมชนริมน้ำจันทบูรแล้วค่ะ   (เป็นเวลาที่รอคอยมากๆ ฮ่าๆ)  

ชุมชนริมน้ำจันทบูร  เป็นชุมชนริมแม่น้ำจันทบุรีที่มีอายุเก่าแก่กว่า 300 ปีเลยนะคะ O_O   ชุมชนนี้เป็นชุมชนที่ชาวจีนและชาวญวน อพยพเข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชอ่ะค่ะ   ซึ่งในสมัยก่อนเนี่ยจุดนี้ถือได้ว่าเป็นทำเลทองของการค้าในเมืองจันทบุรีเลยนะคะ  โดยเฉพาะในช่วงรัชกาลที่ 3 จนถึงรัชกาลที่ 5 ถือได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองสุดๆ ของเมืองจันทบุรีเลยก็ว่าได้อ่ะค่ะ  เพราะในสมัยนั้น แต่ละวันจะมีพ่อค้าชาวจีนเดินทางหลั่งไหลมารับสมุนไพร เช่น กระวาน พริกไทย เครื่องเทศต่างๆ ไปขาย ขณะเดียวกันพ่อค้าเหล่านี้ก็นำผ้าไหมและสิ่งของจากจีนเข้ามาขายคนไทยด้วยนะคะ    ต่อมาเมื่อเดินทางทางบกมีการพัฒนามาขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น  ประกอบกับมีการขยายเมือง  ท่าเทียบเรือบริเวณชุมชนริมน้ำจันทบูรก็เลยถูกลดบทบาทลง เหลือเป็นแค่เพียงเมืองท่าที่รุ่งเรืองในอดีตเท่านั้นเองอ่ะค่ะ 

chantaburi1 1 57

chantaburi1 1 47

เล่าถึงเมืองจันทบูรกันไปแล้ว  พิมก็อยากจะเล่าถึงผู้คนที่อยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูรบ้างนะคะ ^^    ผู้คนที่อยู่ในชุมชนริมน้ำจันทบูรเนี่ยจะว่าไปมีทั้งไทย จีน และญวนเลยค่ะ  แต่ว่าแม้จะหลากหลายเชื้อชาติ  แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้วิถีชีวิตของคนในชุมชนนี้เค้าแตกต่างกันเลยนะคะ   ตรงกันข้าม คนในชุมชนนี้กลับใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย มีอะไรก็พึ่งพาอาศัยกัน  ไปไหนมาไหนก็ทักทายกันเหมือนคนในครอบครัวเดียวกันตลอดเลยอ่ะค่ะ

ชุมชนแห่งนี้เนี่ย  จะว่าไปเค้าแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกันนะคะ ก็คือ ย่านท่าหลวง ย่านตลาดกลาง และย่านตลาดล่างค่ะ  ซึ่งแต่ละย่านก็มีความน่าสนใจต่างกันเน๊าะคะ

อย่างย่านท่าหลวง (ฝั่งที่อยู่ติดกับถนนท่าหลวง)  ... ในอดีตจะเป็นท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ค่ะ เป็นที่ตั้งของศูนย์ราชการในสมยนั้น  ก็เลยมีรูปแบบอาคารคล้ายๆ  กัน  และอาคารเหล่านั้นก็แปรเปลี่ยนมาเป็นบ้านเรือนที่พักอาศัย  จนในปัจจุบันบางหลังเปลี่ยนมาเป็นร้านอาหารสำหรับให้นักท่องเที่ยวเข้ามานั่งทานอาหาร และซึมซับความเป็นบ้านโบราณในสมัยเก่าไปด้วยอ่ะค่ะ 

ส่วนย่านถัดมาจากย่านท่าหลวง  ก็จะเป็นย่านตลาดกลาง .... ในอดีตย่านนี้ จะเป็นย่านที่มีตึกและอาคารพาณิชย์สูงใหญ่  เพราะสมัยก่อนย่านนี้คือศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสินค้าระหว่างคนไทยกับคนจีนเลยนะคะ มีท่าเรือเล็กสำหรับขนของขึ้นลงหลายท่า  แต่เมื่อสักประมาณปี 2533 เกิดเหตุไฟไหม้ ปัจจุบันก็เลยมีการสร้างตึกใหม่ทดแทนเข้าไป แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ไว้ให้คล้ายๆ  แบบเดิมอ่ะค่ะ 

ส่วนย่านสุดท้ายของชุมชนริมน้ำจันทบูร ก็คือย่านตลาดล่างนะคะ ...... ในสมัยก่อนเนี่ย บริเวณนี้จะเป็นที่อยู่อาศัยมากกว่าจุดขายของค่ะ   แต่ละบ้านก็เลยมีการปลูกสร้างตามฐานะของผู้อยู่  เช่น บ้านคหบดี ร้านขายยาจีนร้านแรกของเมืองจันทบุรีนะคะ ^_^  

chantaburi1 1 46

chantaburi1 1 45

chantaburi1 1 44

เล่าถึงชุมชนริมน้ำจันทบูรไปก็เยอะแล้ว  ต่อไปพิมจะมาชวนเพื่อน ๆ ไปหาของอร่อย หาของกินพื้นถิ่นของจันทบุรีที่มีขายอยู่ในชุมชนนี้กันบ้างดีกว่าอ่ะค่ะ 

เริ่มแรกกันที่ขนมไข่ป้าไต๋ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักพิมไม่ถึง 30 ก้าวเดินนะคะ   ขนมไข่ป้าไต๋เป็นขนมไข่ที่มีอายุมากกว่า 60 แล้วค่ะ ขนมไข่ของป้าจะทำกันแบบสดใหม่ทุกวัน    ใครที่ชอบขนมไข่แบบกรอบนอกนุ่มใน ลองมาชิมขนมไข่ป้าไต๋ รับรองติดใจอย่างแน่นอนเลยนะคะ  ที่สำคัญป้าไต๋ขายไม่แพง ถุงละ 20 บาทเองค่า ^_^ 

chantaburi1 1 42

chantaburi1 1 43

จากร้านป้าไต๋  เดินมาทางขวาประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอกับร้านขนมไทยร้านแม่กิมเชียนะคะ   ขนมไทยที่ร้านนี้จะเป็นขนมไทยแบบแห้ง ๆ ที่เก็บได้หลายวัน อย่างขนมทองเอก ขนมจ่ามงกุฎ กล้วยหักมุกฉาบเค็ม กล้วยหักมุกฉาบหวาน ขนมเสน่หจันทร์  และขนมโก๋ประมาณนี้อ่ะค่ะ

สำหรับขนมที่พิมอยากแนะนำมาก ๆ ก็คือ ขนมโก๋นะคะ   เพราะเป็นขนมที่พิมชอบมาก ๆ   ครั้งแรกที่พิมมาเดินเที่ยวที่นี่  และเห็นขนมโก๋ของร้านนี้ก็ซื้อไปแบบไม่คิดอะไร 4 ห่ออ่ะค่ะ    ปรากฎว่าพอได้ชิมไปคำแรกคำเดียวเท่านั้น ......  4 วันที่อยู่จันทบุรี พิมกินคนเดียวหมดทุกห่อเลยค่ะ  >_<  พอวันจะกลับก็เลยกะจะแวะมาซื้ออีกที ปรากฎหมดจ้า   และจากที่ได้กินมาประมาณ 4-5 ครั้ง  รสชาติหนมโก๋ของแม่กิมเชียเป๊ะๆ  เหมือนเดิมทุกครั้ง อร่อยทุกครั้ง  เพราะนั้นใครที่มาเดินเล่นที่นี่ อย่าลืมแวะซื้อหนมโก๋แม่กิมเชียนะคะ อร่อยจริง ๆ อ่ะ  ที่สำคัญคือราคาไม่แพง  ห่อนึงมี 4 ชิ้น แต่ขายแค่ 20 บาทเท่านั้นเอง ลองไปชิมกันดูนะคะ   ^_^ 

chantaburi1 1 49

chantaburi1 1 48

chantaburi1 1 50

จากขนมโก๋แม่กิมเชีย  เดินไปอีกประมาณ 300 เมตร  ก็จะของกินอีกอย่างที่อร่อยมาก ๆ และโบราณมากๆ อีกอย่างนึงนั่นก็คือ ไอติมตราจรวดค่ะ ^_^  ไอติมตราจรวดเนี่ยเป็นไอติมที่ทำในจังหวัดจันทบุรี  และทำมาหลายสิบปีแล้วนะคะ   เรียกได้ว่าเป็นไอติมคู่บ้านคู่เมืองจันทบุรีเลยอ่ะค่ะ    ไอติมของที่นี่จะมีอยู่หลากรสชาติมาก แต่รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์สุดๆ  ของไอติมยี่ห้อนี้ ก็คือ รสกะทิเคลือบชาเย็นอ่ะค่ะ   ซึ่งไม่ใช่แค่เอาไอติมกะทิมาอัดเป็นแท่งเฉย ๆ แต่ยังเคลือบด้านนอกด้วยชาเย็น  ถ้านึกไม่ออก ก็เหมือนไอติมแท่งที่ขายตามเซเว่นที่เคลือบช๊อคโกแลตกรอบ ๆ แต่นี่เป็นชาเย็นกรอบ ๆ แทนอ่ะค่ะ  ซึ่งขอบอกเลยว่าอร่อยมากกก และที่สำคัญแท่งละ 10 บาทเท่านั้นเองจ้า

chantaburi1 1 51

chantaburi1 1 53

แต่น่าเสียดายมากๆ วันที่พิมไป ไอติมกะทิชาเย็นหมด  T__T   พิมก็เลยอดซื้อมาถ่ายรูปให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ยังไงไว้โอกาสหน้าเน๊าะคะ   แต่นอกจากไอติมกะทิชาเย็นแล้ว ไอติมรสอื่น ๆ ของเค้าก็อร่อยไม่แพ้กันเลยค่ะ   โดยเฉพาะรสทุเรียนและรสเผือก   ดีงามมากกกก  เพราะนั้นใครผ่านไปผ่านมาแถวนี้ ลองไปหาชิมกันดูนะคะ ^_^

chantaburi1 1 54

จากร้านไอติม เหลือบดูนาฬิกาปาเข้าไป 4 โมงเย็นกว่าๆ  แล้วอ่ะค่ะ  ซึ่งเป็นเวลาที่พิมกับคุณสามีนัดกันเอาไว้ว่าจะไปหาร้านอาหารพื้นถิ่นอร่อย ๆ  ดินเนอร์กันแบบสองต่อสองซะหน่อยนะคะ    เพราะงั้นก็ได้เวลาเดินกลับล่ะค่า  แต่ระหว่างทางก็ไปเจอกับร้านนึงขายน้ำสำรองแช่เย็น  ซึ่งพิมไม่ได้กินมานานแล้ว (ตั้งแต่ยุคที่เค้าฮิตกัน)  ก็เลยจัดมาเบา ๆ 2 ขวด ๆ ละ 20 บาทอ่ะค่ะ 

chantaburi1 1 55

จากร้านขายน้ำสำรอง ถัดมาอีกนิ๊ดดดดดด ก็จะป็นร้านขายขนมก้านบัวกับขนมไข่เต่าแบบกรอบ ๆ นะคะ     ตอนแรกพิมลองซื้อขนมก้านบัวมาชิมเฉย ๆ ถุงนึงแบบไม่คิดอะไร  (เหมือนขนมโก๋)  แต่พอได้กินจริง ๆ อร่อยเลยค่ะ  แป้งขนมคล้ายแป้งปาท๋องโก๋ตัวเล็กแบบกรอบ ๆ คลุกเคล้ากับน้ำตาล ฉาบพอให้มีรสหวาน  (คล้ายมันฉาบเผือกฉาบ)   เหมือนจะไม่มีอะไรนะคะ  แต่รุ้ตัวอีกทีกินหมดไป 1 ใน 4 ถุง    ถือได้ว่าเป็นอีกขนมที่อันตรายมากกก เอ๊ยย น่าสนใจมากๆ  ของชุมชนริมน้ำจันทบูรเลยจ้า

chantaburi1 1 56

เดินเรื่อย ๆ เอื่อย ๆ สักประมาณ 6-7 นาที จากร้านขายขนมก้านบัว พิมก็กลับมาถึงโฮลเทลแล้วล่ะค่ะ

chantaburi1 1 45

ระหว่างรอคุณสามีขึ้นไปทำธุระส่วนตัวบนห้อง  พิมก็แอบไปนั่งตากลมเย็น ๆ ด้านหลังโฮลเทลสักหน่อยนะคะ  ตรงมุมนี้เนี่ยนอกจากจะได้วิวริมน้ำจันทบูรแล้ว  ก็ยังเป็นวิวที่สามารถมองเห็นโบสถ์พระแม่มารีอาได้อย่างชัดเจนอีกด้วยอ่ะค่ะ  ^_^  ซึ่งขอบอกว่าถ้าได้นั่งมุมนี้ในช่วงยามเย็นและยามเช้า .. รับรองฟินสุด ๆ ไปเลยค่า

chantaburi1 1 58

chantaburi1 1 59

chantaburi1 1 60

จากที่พักของพิม  ขับรถมาประมาณ 10 นาที ก็จะถึงร้านอาหารที่พิมตั้งใจไว้ว่าจะมาทานในคืนนี้แล้วนะคะ นั่นก็คือร้านจันทรโภชนา สาขาถนนมหาราชค่ะ  ^_^  (คือร้านนี้เค้ามี 2 สาขานะคะ  สาขาแรกอยู่ใกล้ที่พักเรา  ส่วนสาขา 2 ก็อยู่ไกลออกมาหน่อยค่ะ) 

cm05

chantaburi1 1 72

chantaburi1 1 69

ร้านจันทรโภชนาเนี่ย จะว่าไปแล้วเป็นร้านที่มีประวัติยาวนานมากว่า 50 ปีเลยนะคะ  แต่เดิมจะเป็นร้านเล็กๆ อยู่ในตลาดตัวเมืองจันทบุรี  แต่ด้วยรสชาติที่อร่อย   ก็เลยกลายเป็นร้านอาหารร้านแรกในจังหวัดจันทบุรีที่ได้ป้ายเชลล์ชวนชิม เมื่อปี 2516 อ่ะค่ะ  (ตั้งแต่พิมยังไม่เกิดเลยนะ)  ซึ่งอาหารที่เด่น ๆ ของร้านนี้เนี่ย  ส่วนใหญ่ก็จะเป็นอาหารพื้นบ้าน อย่างปลาต้มระกำใส่กระวาน  ถั่วฝักยาวผัดกุ้งแห้งใส่กะปิ  แสร้งว่ากุ้ง  กระวานผัดฉ่าไก่ หมูชะมวง และสละลอยแก้วนะคะ    แต่ว่าถ้ามาในช่วงที่เป็นหน้าผลไม้ ก็จะมีอาหารที่ทำจากผลไม้เพิ่มขึ้นมาด้วย  ไม่ว่าจะเป็นมัสมั่นไก่ใส่ทุเรียน  ยำมังคุด  และก็ส้มตำทุเรียนอ่ะค่ะ

chantaburi1 1 63

chantaburi1 1 64

chantaburi1 1 65

chantaburi1 1 66

chantaburi1 1 67

 อาหารที่นี่โดยส่วนใหญ่รสชาติจะกลาง ๆ กลมกล่อม แต่ไม่โดดไปในทางใดทางนึงนะคะ  ดังนั้นแล้วไม่ว่าจะเป็นคุ่รัก หรือครอบครัวที่มีเด็กเล็ก มีผู้สูงอายุ มาที่นี่ก็สามารถทานได้ทุกคนอ่ะค่ะ  ^_^

chantaburi1 1 68

chantaburi1 1 70

chantaburi1 1 71

และเมื่อกินข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับไปพักผ่อนที่โฮลเทลแล้วนะคะ  แต่ก่อนจะกลับเข้าที่พัก  พิมก็ขอแวะไปตลาดน้ำพุ ซึ่งเป็นตลาดเย็นสักนิดอ่ะค่ะ  เพราะพิมได้ข่าวมาว่าที่นี่มีของกินอร่อย ๆ เยอะมากเลยค่า     (วันอาทิตย์มีของขายเยอะสุด) 

cm06

chantaburi1 1 73

chantaburi1 1 75

และหลังจากพิมเดินตลาดอยู่เป็นเวลานับชั่วโมง ชิมไปทั้งหมดประมาณ 10 กว่าร้าน  (ไม่รุ้กินเข้าไปได้ยังไงนะคะ แต่ก็กินไปแล้วอ่ะ -*-)   ... ร้านแรกเลยที่พิมขอแนะนำว่าน่าตามไปชิมมากๆ   ก็คือร้านขายปลาหวานย่างนะคะ ซึ่งหาไม่ยาก  มีร้านเดียวทั้งตลาด อยู่ติดๆ กับวงเวียนน้ำพุเลยอ่ะค่ะ 

ร้านนี้เค้าจะเอาปลาหวานแบบตัว ๆ  มาคลุกกับน้ำซอสหวาน ๆ   แล้วเอาไปย่างบนเตาถ่านด้วยไฟอ่อน ๆ จนกระทั่งปลาเริ่มแห้งและกรอบ  ก็จะโรยด้วยงาขาวคั่วทั้งสองด้าน ก่อนจะหยิบขึ้นพักไว้ให้เย็น และเอาใส่ถุงขายให้ลูกค้านะคะ    สนนราคาก็ไม่แพงเลยถุงนึง 20/50 บาทเท่านั้นอ่ะค่ะ   แต่ความอร่อยนี่รับรองกินเพลินไป 3 วัน 3 คืนแบบไม่รู้ตัวเลยค่า

chantaburi1 1 76

chantaburi1 1 77

ถัดจากปลาหวาน ก็จะเป็น #เส้นจันทร์ผัดปู เจ้านี้นะคะ     ไม่มีแบบนั่งกินที่ร้าน  มีแต่แบบซื้อเส้นที่ผัดแล้วเป็นกิโล  ราคากิโลละ 120 บาทอ่ะค่ะ    แต่ไม่จำเป็นว่าต้องซื้อถึงหนึ่งกิโลนะคะ  จะซื้อแค่ 2.5 ขีด หรือจะซื้อแค่ครึ่งโล แม่ค้าเค้าก็ขายอ่ะค่ะ   แต่ว่าเส้นจันทร์ผัดปูแบบนี้ แม่ค้าเค้าจะขายเฉพาะเส้น  (แถมผัก)  แต่ไม่มีปูนะคะ   ถ้าเพื่อน ๆ ต้องการปูต้องการกุ้ง ก็สามารถซื้อมาผัดเพิ่มเองได้เลยค่า

chantaburi1 1 78

chantaburi1 1 79

chantaburi1 1 80

chantaburi1 1 81

และอย่างที่สาม อย่างสุดท้ายของอร่อยตลาดนี้ ... ก็จะเป็นข้าวคลุกพริกเกลือของร้านนี้นะคะ  เครื่องพวกกุ้ง หมึก กั้งอาจจะไม่เยอะมาก  แต่น้ำจิ้มนี่เด็ดสุดเลยค่ะ  เผ็ด เปรี้ยว แซ่บ กลมกล่อมมาก

เพราะงั้นแล้วถ้าช่วงเย็น ๆ เพื่อนๆ มาจันทบุรีแล้วไม่รุ้จะไปกินข้าวเย็นที่ไหน ก็ลองมาดูที่ตลาดนี้นะคะ  รับรองอร่อยทุกร้านที่พิมแนะนำเลยค่ะ ^_^

chantaburi1 1 83

หลังจากกินข้าวกินปลา และเดินช๊อปปิ้งหลังมื้ออาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาเดินทางกลับไปที่พักแล้วอ่ะค่ะ   ซึ่งที่ชุมชนริมน้ำจันทบูรเนี่ย แม้ว่าช่วงหัวค่ำจะมีรถมอเตอร์ไซด์วิ่งไปวิ่งมาตลอด แต่ในความจริงแล้วก็สงบอยู่มากเหมือนกันนะคะ  ... ยังไงคืนนี้พิมกับคุณสามีขอไปอาบน้ำอาบท่า นอนหลับพักผ่อนก่อน แล้วพรุ่งนี้เราเจอกันอีกที สวัสดีค่า ^_^ 

chantaburi1 1 84

chantaburi1 1 85

chantaburi1 1 86



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก