header



เช้าวันนี้พิมแอบตื่นสายนิ๊ดดดนึงค่ะ  ใจจริงตั้งใจว่าจะตื่นสัก 6 โมงเช้า มานั่งรับแสงแดดแบบเบาๆ แต่เพราะเมื่อคืนฝนตกหนักมาก อากาศเย็นสบายสุดๆ  เช้านี้พิมก็เลยตื่นเอา 7 โมงกว่าเลยจ้า (อยู่กรุงเทพฯ ไม่เคยตื่นเวลานี้เล๊ยยยยยจริงๆ)  ^^"  

พอตื่นมาแล้ว พิมก็นึกได้ว่าเช้านี้พิมนัดกับคุณยายขายขนมเทียนแก้วคนนึงเอาไว้    ก็เลยรีบลุกไปล้างหน้าแปรงฟัน เปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วชวนคุณสามีขับรถไปหาคุณยายกันอ่ะค่ะ   (พิมเจอคุณยายเมื่อเย็นวาน ขณะกำลังนั่งเจียรใบตองสำหรับห่อขนม ระหว่างที่พิมเดินเล่นอยู่ริมน้ำค่ะ)

chantaburi1 2 26

chantaburi1 2 01

จากที่พัก ....  ประมาณสัก 10 นาที  พิมก็ขับรถไปถึงร้านขายขนมเทียนแก้วของคุณยายที่พิมเจอเมื่อวานแล้วนะคะ   ร้านอยู่บริเวณต้นชุมชนริมน้ำจันทบูร  จริง ๆ เดินไปก็ได้ สบาย ๆ เลย ประมาณ 650 เมตร    แต่พิมแพลนว่าจะไปหาอะไรอร่อยๆ กินแถวตลาดสดท่าใหม่ ก็เลยขับรถไปทีเดียวเลยเลยอ่ะค่ะ

พูดถึงขนมเทียนแก้ว  พิมเชื่อว่าหลายคนน่าจะไม่รู้จักนะคะ  ^^"  ...  ขนมเทียนแก้ว เป็นขนมที่ดูเผิน ๆ ภายนอกก็หน้าตาเหมือนขนมเทียนทั่วไปอ่ะค่ะ   เพียงแต่จะอันเล็กกว่า     ตัวแป้งจะใสๆ เพราะทำจากแป้งถั่วเขียว   ส่วนไส้ก็จะทำจากถั่วเขียวกวนรสหวานๆ เค็ม ๆ อร่อยดีนะคะ  โดยขนมของคุณยายเนี่ยเป็นสูตรโบราณมากๆ เพราะคุณยายบอกว่าทำขายมาหลายสิบปีแล้ว และไม่ได้ปรับสูตรเลยอ่ะค่ะ   แต่คงความอร่อยเหมือนเดิมนะคะ  ^_^ 

ปล.  ขนมอันนี้ซื้อมาตุนไว้ก่อน  แล้วไว้ดึก ๆ ค่อยแกะมากินค่า ^_^

chantaburi1 2 03

chantaburi1 2 04

chantaburi1 2 57

จากขนมเทียนแก้ว  พิมกับคุณสามีขับรถไปที่ตลาดท่าใหม่นิดนึงอ่ะค่ะ   (แบบว่าอยากไปตั้งแต่เมื่อวานแหละ)   ตลาดแห่งนี้เนี่ยเป็นตลาดแห่งความหลังของที่บ้านพิมเลยนะคะ   เพราะสมัยก่อนตอนน้องชายพิมเรียนอยู่ประถมเนี่ย เค้าเรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมยอแซฟใกล้ ๆ ตลาดท่าใหม่  แล้วทุกเช้าแม่ก็จะพาไปหาของกินอร่อย ๆ ที่ตลาดแห่งนี้เป็นประจำก่อนเข้าโรงเรียนเลยอ่ะค่ะ   หรือบางทีพอส่งน้องเสร็จ แม่ก็จะแวะไปซื้อของสดอย่างผัก หรือปลาทะเล กลับไปทำอาหารกินที่บ้านด้วยนะคะ 

ซึ่งของอร่อย ๆ ที่ตลาดนี้เนี่ย พิมบอกเลยค่ะว่ามีหลายอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นปลาทูต้มเค็มหวาน  หอยดอง   ข้าวมันไก่ ข้าวหมูแดง  เย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวทะเล  เต้าหู้ทอด ตือฮวน  กล้วยทอด เผือกทอด  และหอยปากเป็ดดองเค็มหวานนะคะ 

cm07

chantaburi1 2 05

chantaburi1 2 06

chantaburi1 2 07

chantaburi1 2 10

chantaburi1 2 12

chantaburi1 2 13

chantaburi1 2 15

แต่ที่พิมอยากแนะนำที่สุด  เพราะเป็นเมนูที่พิมว่ามันแปลก ไม่เคยเห็นที่ไหนทำแบบนี้ขายเลย  ก็คือ  #ปาท่องโก๋ที่ต้องกินคู่กับน้ำจิ้ม อ่ะค่ะ  ^__^

chantaburi1 2 17

คือปกติเวลาเรากินปาท่องโก๋ เราก็จะกินคู่กับชา กาแฟ โจ๊กอะไรประมาณนี้เน๊าะคะ แต่ที่นี้เนี่ย เค้ากินคู่กับน้ำจิ้มกันค่ะ   สมัยตอนพิมยังเด็กๆ จะมีทั้งน้ำจิ้มแบบน้ำจิ้มใสออกรสหวานเปรี้ยว และน้ำจิ้มดำๆ  ที่เหมือนน้ำจิ้มกุยช่ายด้วยนะคะ   แต่ว่าในสมัยนี้เนี่ย เหมือนจะเหลือแต่น้ำจิ้มใสเท่านั้นค่ะ  ^^

chantaburi1 2 16

chantaburi1 2 18

จะว่าไป ลำพังน้ำจิ้มใสก็ไม่ได้อร่อยโดดเด่นอะไรเลยนะคะ  รสอออกจะแปร่ง ๆ ปร่าๆ  ซะด้วยซ้ำ  คือมันจะเปรี้ยวก็ไม่เปรี้ยว จะหวานก็ไม่หวาน     แต่พอกินคู่กับปาท่องโก๋สูตรหนานุ่มแบบจันทบุรีแล้ว กลับเข้ากันได้ดี และอร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลยอ่ะค่ะ    เรียกว่าถ้าได้กินปาท่องโก๋จิ้มน้ำจิ้มของที่นี่  เราจะลืมปาท่องโก๋จิ้มชา กาแฟ ไปชั่วขณะเลยอ่ะค่า ^_^ 

ที่สำคัญปาท่องโก๋ที่นี่ถูกมากก.ก.ก.กก.. เห็นในภาพตัวใหญ่ ๆ อย่างนั้น ตัวละ 2 บาทเองนะคะ ที่สำคัญ 2 บาทนี่แถมน้ำจิ้มด้วยจ้า  (กินปาท่องโก๋ 10 บาทก็อิ่มแหละ >_<) 

chantaburi1 2 19

หลังจากรองท้องด้วยปาท่องโก๋กันไปเรียบร้อยแล้ว   พิมก็อยากจะชวนเพื่อน ๆ ไปหาอะไรกินเป็นอาหารเช้าแบบจริงจังกันสักหน่อยนะคะ  กับ เย็นตาโฟอร่อย ๆ ที่ร้าน  "มังกร ท่าเรือ เย็นตาโฟ" ค่า

cm08

chantaburi1 2 25

จริงๆ  ร้านเย็นตาโฟทะเลแถวนั้นมีมากมายนับสิบร้านเลยนะคะ   แถมแต่ละร้านก็มีส่วนประกอบคล้าย ๆ กัน  คือ หมึกสด กุ้งสด กั้งด และกุ้งทอด  จนทำให้พิมตัดสินใจไม่ถูกเลยว่าจะไปกินร้านไหนดี - -"  จนได้คนในพื้นที่นี่แหละค่ะมาช่วยแนะนำให้ค่ะ

chantaburi1 2 23

ร้านมังกรเย็นตาโฟ เป็นร้านเย็นตาโฟที่เปิดมานานแล้วนะคะ  แต่เมื่อก่อนเค้าเปิดขายที่อื่น เพิ่งมาเปิดที่แถวท่าใหม่นี่ก็เมื่อสัก 6 เดือนก่อนอ่ะค่ะ  ก๋วยเตี๋ยวของที่นี่จะว่าไปก็ไม่ได้มีแต่เย็นตาโฟนะคะ  ก๋วยเตี๋ยวหมู ก๋วยเตี๋ยวทะเล แบบน้ำใส ต้มยำทั่วไปก็มีค่ะ  แต่ที่เด็ดสุดก็ต้องยกให้เป็นเย็นตาโฟนี่แหละค่า

chantaburi1 2 24

chantaburi1 2 22

เพราะงั้นชามแรกที่พิมต้องสั่ง ก็คือ เกาเหลาเย็นตาโฟทะเลแบบจัดเต็มนะคะ  ซึ่งในชามก็จะมีทั้งกุ้งสด กั้งสด หมึกสด และก็กุ้งชุบแป้งทอด ... หลังจากได้ชิมไปแล้ว  รสชาติไม่ต้องพูดถึง อร่อยจริง และจัดเต็มมาจริง ๆ ค่ะ  ในชามมีกุ้งสดเนื้อหวานที่ลวกมาสุกกำลังดี 2 ตัว   กั้งแกะเนื้อ  5 ตัว  มีหมึกสดที่เนื้อหวานเด้งมาก มีกุ้งชุบแป้งทอด มีเก๊ียวกรอบ และเนื้อปู ...  รวมแล้วดีงาม สมราคาเลยนะคะ 

chantaburi1 2 27

ส่วนชามสองเป็นของคุณสามีพิม  ทุกอย่างจัดเต็มเหมือนพิม เพียงแต่เป็นเส้นเล็กและน้ำใส (ต้มยำ)  ไม่ใส่ซอสเย็นตาโฟ  แต่รสชาติก็ดีงามไม่แพ้กันเลยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 26

สนนราคา 2 ชามนี้ 200 บาท หลายคนอาจจะคิดว่าราคาสูง แต่คุณภาพของวัตถุดิบดีประมาณนี้  สดอย่างนี้  แถมจัดเต็มมาขนาดนี้ พิมว่าไม่แพงเลย ยังไงถ้าเพื่อน ๆ ผ่านมา ลองแวะมาทานกันนะคะ ^_^ 

chantaburi1 2 28

chantaburi1 2 20

 จากเย็นตาโฟร้านมังกร   พิมกับคุณสามีขับรถกลับมายังที่พักอีกครั้ง เพื่อมาอาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า และเช็คเอ้าท์นะคะ    ซึ่งหลังจากเช็คเอ้าท์เรียบร้อยแล้ว   ระหว่างเดินกลับไปที่รถ พิมก็ขอแวะชมความงามของโบสถ์พระแม่มารีอาสักหน่อยอ่ะค่ะ ^_^ 

cm09

chantaburi1 2 29

chantaburi1 2 31

โบสถ์พระแม่มารีอา หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล  เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิก ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2254  บนริมน้ำฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจันทบุรี (คนละที่กับปัจจุบัน) โดยชาวคาทอลิกจำนวน 120-130 คนที่อพยพหนีมาจากที่อื่นนะคะ    ซึ่งสมัยนั้นโบสถ์ที่สร้างจะเป็นโบสถ์ขนาดเล็กกระทัดรัดค่ะ   จนมาถึงในสมัยกรุงศรีอยุธยา ช่วงนึงเกิดความวุ่นวาย ทำให้ชาวคาทอลิกที่อยู่แถวนั้นต้องอพยพแยกย้ายแตกตัวกันไปนะคะ   แล้วพอปี พ.ศ. 2295  ชาวคาทอลิกได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง ก็เลยมีการสร้างโบสถ์แห่งใหม่แทนโบสถ์หลังเดิม ขึ้นที่ริมแม่น้ำฝั่งตะวันออก (ที่ปัจจุบัน)  ในปี 2377 อ่ะค่ะ แล้วต่อมาเมื่อคริสตศาสนิกชนจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ปี 2446  ก็เลยมีการสร้างโบสถ์หลังใหม่ที่ใหญ่กว่าหลังเดิมขึ้นนะคะ  ^_^

โบสถ์พระแม่มารีอา ได้ชื่อว่าเป็นโบสถ์คริสต์ที่สวยที่สุดใดนประเทศไทยค่ะ  ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับจะมาเดินดูโบสถ์ (ภายนอก) ก็จะเป็นเวลาช่วงบ่ายนะคะ  เพราะจะไม่ย้อนแสง  แต่ถ้าต้องการเดินชมภายในโบสถ์  เวลาไหนก็มาได้ เพราะสวยงามทุกเวลาอ่ะค่ะ  ^_^ 

เวลาเข้าชม ::  วันจันทร์-เสาร์ เช้า 8.30 – 12.00 น. และ บ่าย 13.00 – 16.30 น. วันอาทิตย์ ตั้งแต่ 10.00 – 16.30 น. แต่งกายสุภาพและสำรวมเวลาเข้าเยี่ยมชม ไม่มีค่าเข้าชม

chantaburi1 2 34

chantaburi1 2 33

chantaburi1 2 32

chantaburi1 2 35

chantaburi1 2 36

ถัดจากโบสถ์พระแม่มารีอามาประมาณ 1 กิโลเมตร ก็จะเป็น #วัดไผ่ล้อม พระรามหลวง ซึ้่งเป็นวัดเก่าแก่ของจันทบุรี ที่มีอายุมากกว่า 200 ปีแล้วนะคะ ^_^   โดยภายในวัดจะมี่สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ จากในสมัยโบราณที่ยังหลงเหลืออยู่มากมาย  เช่น กุฏิพระ  ศาลาการเปรียญ  ซึ่งล้วนแล้วแต่อายุร้อยกว่าปีทั้งนั้นเลยอ่ะค่ะ

วัดไผ่ล้อมแต่เดิมมีโบสถ์หลังเก่าเป็นอาคารก่ออิฐถือปูนทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านะคะ  สร้างขุึ้นในสมัยรัชการที่ 3  มีกำแพงล้อมรอบ 4 ด้าน และก็มีช่องเข้าหรือที่เราเรียกว่าประตู ทั้ง 4 ด้านเลยค่ะ    ส่วนภายในโบสถ์ก็จะมีภาพจิตรกรรมฝาหนังแบบเต็มผนังตลอดทั้ง 4 ด้าน  และด้านหน้าพระประธานก็จะมีภาพเขียนพุทธประวัติด้วยนะคะ  ซึ่งจากหลักฐานประวัติของวัดไผ่ล้อม  ไม่มีใครระบุอย่างแน่ชัดว่าโบสถ์นี้สร้างตั้งแต่ พ.ศ อะไร  แต่คร่าว ๆ คือ ตั้งแต่รัชการที่ 3  เพราะงั้นสิริรวมเวลาแล้วก็น่าจะมากกว่า 220  ปี  ถือได้ว่าเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่มาก และควรค่าแก่การเข้าไปชม  เข้าไปศึกษา และควรค่าต่อการอนุรักษ์มากๆ เลยค่ะ 

(ในภาพด้านล่างเป็นโบสถ์ใหม่ที่เพิ่งสร้างขึ้นนะคะ) 

chantaburi1 2 37

chantaburi1 2 38

chantaburi1 2 39

chantaburi1 2 40

หลังจากเดินชมความงามของโบสถ์และแวะไหว้พระที่วัดไผ่ล้อมเป็นเวลาประมาณ 1 ชม. กว่าๆ  อันดับต่อไป เราก็จะไปชิมของร่อย ๆ ของเมืองจัน กันต่อนะคะ  (บอกแล้วววววว ทริปนี้มาชิมเป็นหลักค่า) 

cm10

จากวัดไผ่ล้อม  ขับรถมาประมาณ 10 กว่านาที  เราก็จะมาเจอกับร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงร้านดังของจังหวัดจันทบุรี กับ ร้านพระยาตรัง นะคะ 

#ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียง เป็นอาหารขึ้นชื่อ อาหารพื้นถิ่นอีกอย่างนึงของจันทบุรีค่ะ   ประมาณว่าใคร ๆ มาจันทบุรีก็ต้องมาหาชิมก๋วยเตี๋ยวอันนี้นะคะ  แต่พิมเชื่อว่าหลายคนอาจจะสงสัย #ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงคืออะไร   ทำไมต้องเลียง  ทำไมก๋วยเตี๋ยวหมูเฉย ๆ ไม่ได้อ่ะค่ะ ^_^

คุณใหญ่ เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงพระยาตรัง เล่าให้พวกเราฟังว่า “เลียง” เป็นภาษาคนจันฯ  หมายถึงกิริยาของการโขลกส่วนผสมในการทำอาหารอะไรสักอย่างหรือหลายอย่างด้วยครก  ไม่ได้หมายถึง #เลียงผา อย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจนะคะ  ดังนั้นคำว่าก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงจึงหมายถึงก๋วยเตี๋ยวที่มีส่วนผสมของอะไรสักอย่างที่โขลกกับครก แล้วเอามาทำน้ำซุป  ซึ่งในทีนี้ก็คือสมุนไพร ที่ชาวจันทบุรีเรียกว่า “เร่ว”   ที่มีลักษณะเป็นแง่งคล้ายข่า และมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์อ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 41

chantaburi1 2 42

ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงร้านพระยาตรัง จะมีเนื้อส้ตว์  2 ด้วยกัน คือ หมู กับเนื้อนะคะ  แน่นอนว่าสาวกคนชอบกินเนื้ออย่างพิมก็ต้องสั่ง เส้นเล็กเนื้ออ่ะค่ะ   ... ซึ่งหลังจากได้ชิมแล้วอยากบอกว่าน้ำซุปเค้าหอมมากจริง ๆ นะคะ ได้กลิ่นดอกผักชี ได้กลิ่นเร่ว ได้กลิ่นตะไคร้ เครื่องเทศจีนหลายๆ อย่าง  และเหมือนว่าจะใส่สับปะรดด้วย เพราะมีกลิ่นสับปะรดอ่อน ๆ อยู่  พอรวมกันแล้ว น้ำซุปของที่นี่หอมเป็นเอกลัษณ์เฉพาะตัวมากเลยค่ะ  (ชามละ 40 บาท)

chantaburi1 2 46

 ส่วนคุณสามี ผู้ที่ไม่ทานค่อยชอบทานเนื้อสักเท่าไหร่  ก็เลยสั่งก๋วยเตี๋ยวหมูมาทานนะคะ   .. คุณเธอบอกว่าถูกใจมาก น้ำซุปรสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นสมุนไพรอ่อนๆ  มีความหวานแฝงมาในน้ำซุป  หมูก็นุ่ม อร่อยถูกใจอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 44

และด้วยความที่อยากลองว่านอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว อย่างอื่นจะอร่อยด้วยไหม ^_^    คุณสามีพิมก็เลยสั่งลวกจิ้มมาเพิ่มอีกจานนึงนะคะ  (สั่งประหนึ่งว่าเมื่อเช้ายังไม่ได้กินอะไรมา - -")  ....  หลังจากชิมไปแล้วคุณสามีบอกว่าหมูนุ่ม ตับนุ่มดี  แต่สำหรับพิมที่ไม่ค่อยชอบกินตับนิ่ม ๆ เลยรู้สึกว่าถ้าลวกตับนานกว่านี้อีกนิด น่าจะโอเคกว่า  แต่โดยรวมก็อร่อยดีค่ะ 

chantaburi1 2 47

และอีกชามปิดท้าย ของคุณสามีพิม จะเป็นมาม่าแห้งหมูนะคะ  ซึ่งจะเสริฟมาพร้อมกับมะปี๊ด หรือที่เรา ๆ เรียกกันว่าส้มจี๊ด 1 ซีกค่ะ  รสชาติโดยรวมอร่อยไม่แตกต่างจากชามบน ๆ  แต่พิมว่ามาที่นี่ กินแบบน้ำจะเข้าถึงรสชาติมากกว่าอ่ะค่า ^_^

chantaburi1 2 48

จากร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงพระยาตรัง  พิมได้ข่าวมาว่ามีร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงอีกร้านนึง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลยนะคะ แถมยังขายมายาวนานกว่า 40 ปี ก็คือ ก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงป้าติ๊ด ที่อยู่แถวๆ ท่าใหม่ ด้วยความอยากรู้ว่าทั้งสองร้านนี้แตกต่างกันยังไง  พิมก็เลยขอชวนคุณสามีขับรถไปชิมต่ออ่ะค่ะ  ^^  

ร้านป้าติ๊ดเป็นมีลักษณะเป็นบ้านไม้เก่า ทรงโบราณ อยู่ในอำเภอท่าใหม่ ห่างจากร้านพระยาตรังไปไม่ถึง 10 นาทีนะคะ  

chantaburi1 2 49

chantaburi1 2 50

แต่ที่ร้านป้าติ๊ดเนี่ย  มีเมนูไม่หลากหลายเท่าร้านพระยาตรัง  จะมีแค่ก๋วยเตี๋ยวหมู หรือก๋วยเตี๋ยวเนื้อเท่านั้นเองอ่ะค่ะ   แต่ในความที่ไม่มีอะไรให้เลือกเยอะนี่แหละ ก็เลยทำให้พิมตัดสินใจได้ง่าย ว่ามื้อนี้จะทานอะไรดีนะคะ  ^^

chantaburi1 2 51

chantaburi1 2 52

และเท่าที่พิมได้สั่งมาลอง กับก๋วยเตี๋ยวเนื้อและก๋วยเตี๋ยวหมูอย่างละชาม  สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลย คือ ถ้าเป็นเตี๋ยวเนื้อของป้าติ๊ดจะไม่มีพวกขอบกระด้ง ไม่มีลูกชิ้น ไม่มีเนื้อสด  (หรือว่าหมด ?)  แล้วเนื้อเปื่อยก็จะเป็นเนื้อเปื่อยที่ตุ๋นชิ้นใหญ่แล้วค่อยเอามาหั่นให้เป็นชิ้นพอคำอ่ะค่ะ  อีกทั้งในเตี๋ยวเนื้อป้าติ๊ด จะใช้กะหล่ำปลีลวกพอสุกแทนถั่วงอกนะคะ ซึ่งเมื่อความหวานของกะหล่ำปลี กับความเข้มข้นของน้ำซุป และความหอมของสมุนไพรต่าง ๆ มาเจอกัน  พิมว่ามันเข้ากันได้ดีมากๆ เลยอ่ะค่ะ  นี่ถ้าไม่ติดว่าเมื่อกี้กินของพระยาตรังมาแล้ว จะสั่งเพิ่มอีกชามเลยค่า  (ชามละ 40 บาท) 

chantaburi1 2 53

chantaburi1 2 55

ส่วนเตี๋ยวหมูเลียงของป้าติ๊ด ความอร่อยก็แทบจะไม่แตกต่างจากเตี๋ยวเนื้อเลียงเลยนะคะ  รสชาติน้ำซุปนี่หอมเหมือนๆ กัน  เส้นก็ลวกมานุ่มพอ ๆ กัน  เพียงแต่หมูที่ป้าติ๊ดใช้จะเป็นหมูสดหั่นชิ้นพอดีคำแล้วนำมาลวกพอสุก  ไม่ใช่หมูตุ๋น   แล้วก็มีลูกชิ้นให้ด้วยอ่ะค่ะ    ^^ .. สรุปโดยรวมแล้ว เตี๋ยวของป้าติ๊ดจะมีรสน้ำซุปที่เข้มข้นกว่า กลิ่นสมุนไพรในน้ำซุปจะมากกว่า จะไม่ค่อยมีพวกเครื่องในใส่มา ผักรองก็จะเป็นกะหล่ำปลีซะส่วนใหญ่ ซึ่งจะออกรสหวาน    แต่ถ้าเป็นของพระยาตรัง รสและกลิ่นน้ำซุปจะเบา ๆ กว่า เหมาะกับคนที่ชอบซด  และจะมีพวกเครื่องในมาด้วย  ..... ยังไงเพื่อนๆ ก็ลองเลือกดูตามความชอบได้เลยนะคะ   ^_^

chantaburi1 2 54

chantaburi1 2 56

เลยจากร้านป้าติ๊ดมาหน่อย เป็นร้านขายเต้าหู้ทอด หรือที่คนจันทบุรี เรียกว่า "เต้ากั๋ว" หรือ "ตะกั๋ว"  นะคะ  จริงๆ แถวนี้เนี่ยมีร้านขายเต้าหู้ทอดอยู่หลายร้านมากๆ เลยอ่ะค่ะ  ทั้งร้านที่ได้รับรางวัลพระราชทาน ร้านที่ขายมาเก๋าแก่หลายสิบปี  แต่ร้านที่พิมจะพาเพื่อน ๆ มากินในวันนี้ เป็นร้านที่พิมกินมานานแสนนาน หลายปีแล้วนะคะ ตั้งแต่สมัยน้องชายพิมยังเรียนอยู่ประถม จนตอนนี้น้องชายพิม 24 แล้วแหละค่ะ ^^

เต้าหู้ทอดร้านนี้ ชื่อว่า เต้าหู้ทอดท่าใหม่นะคะ  แต่ก็ไม่ได้มีขายแต่เต้าหู้ทอดอย่างเดียว  จะมีขายพวกเผือกทอด  และปอเปี๊ยะทอดด้วยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 59

โดยปกติเต้าหู้ทอดของที่อื่น  เค้าจะทอดไว้รอลูกค้าเน๊าะคะ  แต่เต้าหู้ทอดของที่นี่ เค้าจะทอดแค่พอเหลืองนิด ๆ แล้วพอลูกค้ามาสั่ง เค้าก็จะค่อยเอาไปทอดต่อ เพราะงั้นแล้วลูกค้าที่มาทานเต้าหู้ทอดที่ร้านนี้ ไม่ว่าจะมากินเวลาไหนก็จะได้กินเต้าหู้ทอดสดใหม่ร้อน ๆ เหมือนกันทุกคนเลยอ่ะค่ะ  ^_^ 

chantaburi1 2 60

ที่สำคัญ .... นอกจากเต้าหู้จะอร่อย ปอเปี๊ยะจะอร่อยแล้ว  อยากให้ได้มาชิมน้ำจิ้มของที่นี่มากๆ เลยนะคะ น้ำจิ้มของที่นี่แม้จะมีวิธีการทำเหมือน ๆ กับที่อื่น แต่รสชาติแต่ความกลมกล่อมนี่โดดเด่นกว่าที่อื่นมากๆ เลยค่ะ เพราะน้ำจิ้มของเค้าจะมีรสเปรี้ยวที่หอม รสหวานที่กลมกล่อม เผ็ดไม่มาก แล้วก็ใส่ถั่วลิสงเยอะ (แต่ถ้าใครชอบน้อย ก็บอกเค้าได้)    แถมยังราคาแค่จานละ 30 บาทเท่านั้น  สรุปทั้งอร่อยและราคาไม่แพง  ถ้าผ่านมา อย่าลืมมาลองชิมกันดูนะคะ 

chantaburi1 2 61

ส่วนภายในร้านเดียวกันกับร้านขายตะกั๋ว ก็จะมีร้านขายขนมทองม้วนอยู่ด้วยอ่ะค่ะ    (ไม่แน่ใจว่าเป็นพี่น้องหรือญาติกันไหมน๊าาา) 

chantaburi1 2 63

ทองม้วนที่ร้านนี้เนี่ยจะมีอยู่ 3 แบบ คือ ทองม้วนนิ่ม ทองม้วนกรอบ และทองม้วนทูโทนนะคะ  ลำพังทองม้วนกรอบ (ถุงละ20)  ทองม้วนนิ่ม (ถุงละ 10) ก็อร่อยอยู่แล้ว    แต่ที่พิมอยากแนะนำคือทองม้วนทูโทนค่ะ เป็นการเอาทองม้วนนิ่มมาห่อทองม้วนกรอบ    เวลากัดไปแต่ละคำก็จะได้รสสัมผัส 2 แบบ  คือนุ่มแล้วก็กรอบ  เป็นรสสัมผัสที่แปลกใหม่  แต่ก็อร่อยมากๆ เลยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 62

chantaburi1 2 64

ที่สำคัญ ไม่ว่าจะทองม้วนนิ่ม หรือทองม้วนกรอบ ที่นี่เค้าจะทำขายกันวันต่อวันเลยนะคะ  ถ้าไม่หมด ไม่มีการเอามาขายต่อวันรุ่งขึ้นอ่ะค่ะ  เพราะงั้นมาซื้อทองม้วนที่นี่ นอกจากจะอร่อย ราคามิตรภาพแล้ว ยังสดใหม่ปิ๊ง ๆ อีกด้วยค่า ^_^ 

chantaburi1 2 65

หลังจากกินอิ่มกันแบบอิ่มแล้วอิ่มอีก  ก็ได้เวลาที่เราจะไปหาที่พักคืนนี้แล้วนะคะ  และหลังจาก search  หาข้อมูลใน google อยู่พักนึง (แบบว่าพิมไม่ได้จองโรงแรมมา ^_^)  ก็พบว่ามีโรงแรมนึงเพิ่งเปิดใหม่ไม่นาน  ชื่อโรงแรม HOP INN  ซึ่งมีอยู่หลายสาขาหลายจังหวัดในประเทศไทย   และสาขาในจังหวัดจันทบุรี ก็อยู่ใกล้กับสถานที่ ๆ พิมจะไปเที่ยวต่อในวันนี้และวันพรุ่งนี้ พิมกับคุณสามีก็เลยตัดสินใจเลือกเอาที่นีอ่ะค่ะ

cm12

chantaburi1 2 66

HOP INN  เป็นโรงแรมอารมณ์เดียวกับ B2 นะคะ คือเป็นโรงแรมราคาประหยัด (คืนละ 650 บาท)  ที่ใครๆ ก็สามารถมาพักได้อ่ะค่ะ   ภายในห้องก็จะมีเฟอร์นิเจอร์หลัก ๆ ที่จำเป็น อย่าง เตียง ตู้เย็น  ทีวี  โต๊ะหนังสือ เก้าอี้ และโต๊ะวางของอย่างครบครัน   แถมยังมีระเบียงเล็กๆ  สำหรับออกไปนั่งระบายความเครียดคนเดียวได้ด้วยนะคะ   ^_^  (ระบายความเครียด = สูบบุหรี่) 

chantaburi1 2 67

chantaburi1 2 69

 ส่วนห้องน้ำก็มีการแยกส่วนแห้งส่วนเปียกไว้อย่างชัดเจน    น้ำฝักบัว สายชำระ และอ่างล่างหน้าก็ไหลแรงดี  ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำขัง  สรุปว่าในราคา 650 บาท กับทำเลแบบนี้ ห้องพักแบบนี้ ถือว่าดีสำหรับพิมเลยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 68

หลังจากเช็คอินที่พัก และนั่งพักหายใจกันแป๊บนึงแล้ว  เห็นว่าฟ้ากำลังสวย แดดกำลังดี   พิมก็เลยชวนคุณสามีไปไหว้ศาลหลักเมืองจันทบุรีเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยกันสักหน่อยนะคะ   ^_^ 

cm13

ศาลหลักเมืองจันทบุรี ตั้งอยู่ในตัวเมืองจันทบุรี บนถนนท่าหลวง ใกล้ ๆ กับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเลยค่ะ   เดิมตัวศาลเนี่ยสร้างด้วยศิลาแลงในช่วงประมาณปี 2310  นะคะ  แต่พอวันเวลาผ่านไป ตัวศาลก็ชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลา (เป็นเรื่องปกติเน๊าะ)   เลยมีการสร้างศาลหลังใหม่ขึ้นมาเป็นอาคารไม้รูปทรงธรรมดาอ่ะค่ะ    แต่ต่อมาศาลใหม่แห่งนี้ก็ชำรุดทรุดโทรมอีก  พอปี 2524 เลยมีสร้างศาลหลักเมืองใหม่เป็นอาคารปูน  พร้อม ๆ กับการฝังเสาหลักเมืองและหล่อองค์เจ้าพ่อหลักเมืองขึ้นมาใหม่ด้วยนะคะ   แล้วก็ยังมีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรอบ มีการสร้างศาลหลักเมืองขนาดเล็กในแบบสถาปัตยกรรมจีนขึ้นมาอีก  จนในที่สุดก็กลายมาเป็นศาลหลักเมืองอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้อ่ะค่ะ  เพราะงั้นแล้วถ้าเพื่อน ๆ ได้มาจันทบุรี  อย่าลืมแวะมาสักการะสิ่งศักดิสิทธิ์ประจำเมืองจันท์ ณ ศาลหลักเมืองแห่งนี้ด้วยนะคะ  รับรองจะได้แต่ความสบายใจกลับไปค่า ^_^

chantaburi1 2 70

chantaburi1 2 71

chantaburi1 2 72

chantaburi1 2 73

จากศาลหลักเมือง เราเดินต่อไปอีกนิดก็จะเป็นศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแล้วอ่ะค่ะ 

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ก็เป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งนึงของเมืองจันทบุรีนะคะ   ถึงกับมีคำพูดที่ว่า ถ้ามาเมืองจันท์ แต่ยังไม่ได้มาสักการะศาลพระเจ้าตาก ถือได้ว่ายังมาไม่ถึงเมืองจันท์อ่ะค่ะ ^^ ..... ภายในศาลพระเจ้าตาก ก็จะมีประดิษฐานพระบรมรูปของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชเอาไว้นะคะ   เพื่อให้คนจันท์ และนักท่องเที่ยวได้เข้ามากราบไว้สักการะบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลอ่ะค่ะ 

ศาลพระเจ้าตากแต่เดิมจะเป็นศาลไม้เล็ก ๆ สร้างไว้คู่กับศาลหลักเมือง แต่ต่อมาก็มีการขยับขยายไปสร้างไว้ที่ฝั่งตรงข้ามเป็นศาลคอนกรีตแทน  และต่อมาในปี 2534 ก็มีการขยับกลับมาสร้างไว้ข้าง ๆ ศาลหลักเมืองเหมือนเดิมนะคะ  

โดยทุกวันที่ 28 ธันวาคม ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเสด็จขึ้นครองราชย์ของพระองค์  ทางจังหวัดจันทบุรีเค้าก็จะจัดให้มีการทำบุญตักบาตรและถวายเครื่องราชสักการะขึ้นมา  เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงกอบกู้เอกราชให้แผ่นดินไทยอ่ะค่ะ  ยังไงเพื่อนๆ คนไหนที่สนใจ สามารถเข้าไปสักการะได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแม้แต่บาทเดียวเลยค่า

chantaburi1 2 74

chantaburi1 2 76

หลังจากเดินชมความงามโดยรอบศาลหลักเมืองและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ  ก็ได้เวลาอาหารเย็นของพิมกับคุณสามีแล้วล่ะค่า (บอกแล้วว่าทริปนี้เน้นกินเป็นหลัก เรื่องเที่ยวเป็นรอง ฮ่ะๆ)   ซึ่งมื้อเย็นนี้เนี่ย พิมขอฝากท้องไว้ที่ร้านครัวลุงเชย ซึ่งเป็นร้านอาหารในตัวเมืองจันฯ ที่เปิดมากว่า 15 ปีแล้วอ่ะค่ะ

chantaburi1 2 77

 ร้านครัวลุงเชย เป็นร้านที่ขายอาหารแนวอาหารพื้นบ้านของจันทบุรีนะคะ  โดยเมนูเด็ดเนี่ยก็จะมีหลายอย่างเลย  ไม่ว่าจะเป็นหมูชะมวง น้ำพริกไข่ปู หลนปู ไก่ต้มกระวาน ไข่เจียวหอยนางรม แกงป่าปลาเห็ดโคน อ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 79

chantaburi1 2 80

ใจจริงพิมก็อยากสั่งมาลองทุกอย่างเลยนะคะ ว่าจะอร่อยเด็ดสมกับคำร่ำลือไหม  แต่เนื่องจากว่าพิมไปกับแค่  2 คนกับคุณสามี   แถมวันนี้ยังกินมาทั้งวันแล้ว ก็เลยสั่งมาเบา ๆ แค่ 5 อย่าง ก็พออ่ะค่ะ ^^"

อย่างแรก #พล่าปลา (100 บ.)  เป็นอาหารพื้นบ้านของจันทบุรีที่พิมเคยได้ยินชื่อมานานแล้ว   แต่เพิ่งมาได้กินจริง ๆ ก็วันนี้นะคะ

#พล่าปลา  จะเป็นการเอาเนื้อปลา (บางทีก็ปลาอินทรี บางทีก็ปลาสาก แล้วแต่ร้าน) มาสับเป็นชิ้นละเอียดๆ หน่อย   จากนั้นบีบน้ำมะนาวลงไปคลุกเคล้า พอเนื้อปลาเปลี่ยนสีเป็นสีขาวขุ่น ก็บีบเอาน้ำมะนาวออก  แล้วก็เอามาคลุกเคล้ากับผักต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกะหล่ำปลี ผักกาด ใบสะระแหน่ หอมแดง  แครอทซอย และตะไคร้ซอยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 82

ตัวพล่าปลาเนี่ย จะไม่มีรสอะไรเลย ดังนั้นแล้วเวลาทานจะต้องทานคู่กับน้ำจิ้มถั่วที่ออกรสหวานเปรี้ยวและเผ็ดนิดๆ  นะคะ  (แต่ที่นี่น้ำจิ้มค่อนข้างเผ็ดมาก)  ... ซึ่งตอนแรกบอกเลยว่าพิมก็ไม่ค่อยกล้ากินค่ะ  เพราะมันเป็นปลาดิบ !!!  (ปกติพิมไม่กินปลาดิบ)  แต่พอได้ชิมไปคำเดียว ที่เหลือกว่าครึ่งจาน พิมเหมาเกือบหมดเลยค่า  

ความอร่อยของอาหารจานนี้อยู่ที่เนื้อปลาซึ่งสดมาก และทางร้านก็ทำออกมาได้ไม่คาว  บวกกับน้ำจิ้มถั่วที่รสชาติกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวเกิน ไม่หวานเกิน พอกินคู่กันแล้วช่วยเสริมความอร่อยมากๆ เลย ใครมาต้องลองสั่งจานนี้มาทานดูนะคะ 

chantaburi1 2 83

ส่วนอาหารจานที่สอง เป็นอีกจาน (หรือจะเรียกว่าอีกชามดีหว่า)  ที่มาร้านลุงเชย หรือมาเมืองจันทบุรี ต้องสั่งมาลองทานดูนะคะ กับไก่บ้านต้มกระวาน หรือจะเป็นปลาต้มกระวานก็ได้อ่ะค่ะ 

ไก่ต้มกระวาน (100 บาท) ของที่นี่ พิมบอกเลยว่าเค้าไม่ปรุงเยอะ แต่รสชาติเข้มข้นมาก  ทุกคำที่ซดน้ำเข้าไป มีกระวานเต็มปากไปหมดเลยนะคะ  อร่อยจริง ๆ  ค่ะ

chantaburi1 2 84

 จานที่ 3 เป็น #ไข่เจียวหอยนางรม (100 บาท)  แม้จะไม่ใช่อาหารพื้นบ้าน แต่คุณสามีพิมก็อยากสั่งมาลองนะคะ  ซึ่งเค้าก็ถูกใจมากๆ บอกว่าเป็นไข่เจียวหอยนางรมที่เหมือนมีน้ำซุปอยู่ในไข่ในทุกๆ คำที่กินเข้าไปเลยอ่ะค่ะ

chantaburi1 2 85

 ส่วนอาหารจานที่ 4 เป็นชุดน้ำพริกไข่ปูนะคะ  (150 บาท)  จากที่เคยลองกินของที่อื่นมา บอกได้เลยว่าของที่ครัวลุงเชยเข้มข้นมากค่ะ เข้มข้นทั้งไข่ปู และเข้มข้นทั้งรสชาตินะคะ  ถือได้ว่าเป็นอีกจานนึงที่ต้องลองสั่งมาทาน ถ้ามาที่ร้านครัวลุงเชยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 86

และจานสุดท้ายเป็นจานที่พิมขาดไม่ได้เวลาไปร้านไหน ๆ ถ้าเค้ามีให้สั่ง พิมก็ต้องลองสั่งมาทาน นั่นก็คือ ผัดโป๊ยเซียนนะคะ   ซึ่งผัดโป๊ยเซียนของที่นี่อารมณ์จะคล้ายผัดวุ้นเส้นแบบแห้งๆ   แต่ด้วยเทคนิคการผัด ด้วยความสดของเนื้อสัตว์ (กุ้ง หมึก) แม้จะจานละ 100 บาท  พิมก็ว่ามันโอเคมากๆ เลยอ่ะค่ะ 

chantaburi1 2 87

 และนี่ก็คือหน้าตาอาหารมื้อนี้ของพิมนะคะ  ตอนแรกแอบคิดว่าจะทานกันไม่หมด เพราะเยอะเหลือเกิน  แต่สุดท้ายแล้ว ทานกันไม่เหลือแม้แต่ผักเลยอ่ะค่ะ -*-   (ควรดีใจ หรือควรเสียใจดีนะเนี่ยยย)  ที่สำคัญพอเช็คบิลมาแล้ว ราคาอยู่ที่  500 กว่าบาทเองจ้า ทั้งอร่อยทั้งราคาไม่แพงอย่างนี้ น่ามาชิมบ่อย ๆ นะคะ 

chantaburi1 2 88

chantaburi1 2 89

และหลังจากทานอาหารกันอิ่มเรียบร้อยแล้ว ก่อนออกจากร้าน  คุณสามีพิมก็ขออุดหนุนหมูชะมวงลุงเชยไปสักกระป๋องนึงค่ะ   ซึ่งขอบอกว่าเสียดายมากที่ซื้อมากระป๋องเดียว เพราะรสชาติเข้มข้นคล้ายพิมทำกินเองเลยจ้า  ยังไงถ้ามาเมืองจันท์แล้วนึกไม่ออกว่าจะไปกินอาหารพื้นบ้านของเมืองจันท์ที่ร้านไหนดี พิมก็ขอแนะนำร้านนี้เลยนะคะ รับรองไม่ผิดหวังค่า

ส่วนตอนนี้พิมขอตัวกลับที่พัก ไปอาบน้ำอาบท่าก่อน เพราะได้ข่าวว่าวันพรุ่งนี้ทั้งเที่ยวยาวและกินยาวเลยอ่ะค่ะ  ^__^    แล้วยังไงเจอกันอีกทีพรุ่งนี้ สวัสดีค่าาาา

chantaburi1 2 90

chantaburi1 2 92



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก