จากกุ้งจ่อมที่บุรีรัมย์ พิมขอพาทุกคนมาเที่ยวกันต่อที่สุรินทร์เน๊าะคะ  เพราะว่าสุรินทร์กับบุรีรัมย์เนี่ยอยู่ใกล้กันมาก ขับรถจากตัวเมืองบุรีรัมย์แค่ 40 กว่านาที ก็มาถึงสุรินทร์แบบชิลด์ ๆ แล้วล่ะค่ะ 

ที่สุรินทร์เนี่ย จะว่าไปก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายที่อยู่นะคะ  แต่ที่พิมจะชวนทุกคนไปเที่ยวกันในวันนี้ จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่นอกจากวิวสวย อากาศดีแล้ว  เมื่อเราไปเยี่ยมชม เราก็จะได้รับความรู้ทางด้านการเกษตรกลับมาอีกด้วยค่ะ 

พร้อมหรือยังงงงง ถ้าใครพร้อมแล้ว ก็เกาะท้ายรถพิมแน่น ๆ เลยจ้า ... ^_^

"ซแรย์ อทิตยา"  หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อว่า "นาของพระองค์ติ๊ด"  คำว่า "ซแรย์"  เป็นภาษาเขมร แปลว่าที่นา  ที่นี่เนี่ยเป็นศูนย์เรียนรู้ทางการเกษตรในพระดำริของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ  ที่ดูแลโดยโครงการเกษตรอทิตยาทรนะคะ  ตั้งอยู่ในอำเภอระไซร์ ใกล้ ๆ กับอ่างเก็บน้ำอำปึล ในเขตอำเภอเมืองสุรินทร์นี่เองค่ะ   เรียกว่าถ้ามาเมืองสุรินทร์แล้ว ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง ก็สามารถมาเที่ยวชม "ซแรย์ อทิตยา" ได้เลยนะคะ 

แต่ก่อนที่จะไปดูว่าภายในซแรย์ อทิตยา มีอะไรบ้าง พิมก็อยากเล่าถึงประวัติเล็ก ๆ น้อย ๆ ของที่นี่ให้เพื่อนๆ  ได้ฟังกันสักนิดก่อนค่ะ ^_^ 

"ซแรย์ อทิตยา"  เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมทางการเกษตร ที่น้อมนำเอาแนวพระราชดำริเกี่ยวกับเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวทางในการดำเนินงานและจัดการนะคะ   โดยที่นี่จะเน้นเรื่องของการพัฒนาเกษตรกรรุ่นเก่า และผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่เป็นให้ Smart Farmer ค่ะ

** Smart Farmer  หมายถึง เกษตรกรยุคใหม่ที่มีความรู้ทางด้านการเกษตร การผลิต การตลาด และเทคโนโลยี ในระดับที่นำไปใช้จนประสบความสำเร็จในอาชีพเกษตรได้

ในส่วนของพื้นที่ของที่นี่ 376 ไร่ เท่าที่พิมได้มีโอกาสเดินดู และนั่งรถชมบรรยากาศรอบ ๆ  ก็พบว่าเค้าแบ่งออกเป็นหลายส่วนด้วยกันนะคะ  บางส่วนก็จะใช้เป็นพื้นที่ในการจัดการเพื่อการเรียนรู้ และถ่ายทอดความรู้ทางด้านการเกษตร  ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนที่ทุกคนสามารถเข้ามาเดินชมได้แบบสบาย ๆ เลยค่ะ  และถ้าหากต้องการลงมือปฏิบัติจริงก็สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่แบบล่วงหน้าได้นะคะ    บางส่วนเค้าก็ทำเป็นที่พัก สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาพักค้างคืน มานอนเล่นแบบชิลด์ ๆ ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวๆ  และดูดาวบนท้องฟ้าในยามค่ำคืนค่ะ    บางส่วนก็กำลังจัดเตรียมทำเป็นกรีนเฮ้าส์ เพื่อปลูกดอกไม้เมืองหนาว  บางส่วนก็กำลังก่อสร้างเป็นร้านกาแฟและร้านอาหารอยู่นะคะ

และบางส่วนก็แบ่งให้กับเกษตรกรแถว ๆ นี้ ได้เข้ามาทำกิน ปลูกพืชผักสวนครัวขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว  ให้หน่วยงานต่างๆ  ในจังหวัดสุรินทร์ ได้เข้ามาทำการเกษตร ปลูกไม้ผล เลี้ยงปลา  อีกทั้งบางส่วนก็ทำเป็นโรงสี สำหรับสีข้าวของทางโครงการ และรับสีให้กับชาวบ้านในละแวกนั้นโดยที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายด้วยค่ะ 

อ่ะ ... เกริ่นกันมาเยอะแล้ว  เรามาดูรายละเอียดในแต่ละส่วน (เฉพาะที่เปิดให้เข้าชม) กันดีกว่า ว่าตอนนี้ที่นี้เค้ามีอะไรน่าสนใจบ้างนะคะ  ^_^ 

เริ่มกันที่ส่วนแรกที่พิมมีโอกาสเข้าไปเดินดู ก็คือ โซนที่เป็นฐานการเรียนรู้ทางด้านการเกษตรโดยเน้นที่เรื่องของข้าวเป็นหลักค่ะ   ในโซนนี้ก็จะมีอยู่ 5 ฐานด้วยกัน เริ่มจาก 

ฐานที่ 1 การเรียนรู้เรื่องขาว ประเพณีเกี่ยวกับข้าว  การเริ่มต้นเพาะปลูกข้าว ยาวไปจนถึงการเก็บเกี่ยว  และการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวเพื่อเอาไปเพาะปลูกต่อไปนะคะ 

ฐานที่ 2  ก็จะเป็นการเรียนรู้เรื่องของดิน ว่าดินแต่ละพื้นที่ในสุรินทร์เป็นยังไง การปรับสภาพดิน การใช้ปุ๋ยกับดินประเภทต่างๆ  และถ้าหากดินมีปัญหาเราจะทำยังไงได้บ้าง รวมถึงมีตัวอย่างของชุดวิเคราะห์ดินให้ได้ดูกันด้วยค่ะ

ฐานที่ 3 จะเป็นฐานที่ให้ความรู้เรื่องของแมลงชนิดต่างๆ  ที่อยู่ในนาข้าว  โรคพืชที่เกิดในนาข้าว รวมไปถึงเรื่องของการกำจัดศัตรูข้าวโดยใช้สมุนไพรที่หาได้ในท้องถิ่นนะคะ 

 

ฐานที่ 4 ฐานนี้เป็นฐานเกี่ยวกับการผลิตพวกปุ๋ยอินทรีย์ค่ะ   ในฐานก็จะมีข้อมูลเรื่องของการทำโรงเรือนเพื่อผลิตปุ๋ย การเลือกวัตถุดิบต่างๆ  สำหรับเอามาทำปุ๋ย รวมถึงวิธีการใช้ปุ๋ยด้วยนะคะ

ฐานที่ 5 ซึ่งเป็นฐานสุดท้าย ก็จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปข้าวเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ  เช่น  ถ้าเป็นข้าวสาร ข้าวสวย  ข้าวซ้อมมือ หรือปลายข้าวเราจะเอาไปทำอะไรได้บ้างค่ะ 

ซึ่งในส่วนนี้อย่างที่พิมบอกไปตั้งแต่ต้น  นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาชม และมาเก็บเกี่ยวความรู้กันได้ตามอัธยาศัยเลยนะคะ ^_^ 

ต่อมาในส่วนที่ 2 เป็นโซนโรงสีขาว  ลานตากข้าว แล้วก็ที่ทำปุ๋ยหมักค่ะ  ซึ่งที่ซแรย์ อทิตยาเค้าจะมีการทำปุ๋ยหมักเอง โดยใช้ขี้ไก่ที่ได้จากการเลี้ยงไก่ระบบปิดภายในโครงการ  รวมกับขี้ไก่ และแกลบที่ได้รับการบริจาคมาจากโรงสี จากโรงเลี้ยงไก่ต่าง ๆ แล้วก็เอามาหมักทำปุ๋ยนะคะ   ส่วนโรงสีข้าวตอนนี้ยังเป็นเครื่องสีแบบโบราณอยู่ (กำลังสร้างโรงสีใหม่และเครื่องสีใหม่ น่าจะเสร็จปี 2020) ที่นอกจากจะสีข้าวที่ได้จากแปลงนาซแรย์ อทิตยาเองแล้ว ทางโครงการก็ยังรับสีข้าว (เพื่อบริโภคในครัวเรือน)  ให้กับชาวบ้านโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายอีกด้วยค่ะ  ดีงามมมมมม 

ในส่วนที่ 3  ที่พิมมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมชม ก็คือ ส่วนของรีสอร์ท/ที่พัก   เป็นส่วนที่ทางโครงการเค้าจัดทำขึ้นเพื่อหารายได้มาใช้ในการบำรุงดูแลโครงการนะคะ 

โดยที่นี่เค้าจะมีห้องพักทั้งหมด 9 ห้อง  แต่ละห้องก็จะแยกกันไปเป็นหลัง ๆ ค่ะ  ความพีคของที่นี่ก็คือ  แต่ละห้องพักจะรายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว ๆ  วิวนาข้าวที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา และดวงดาวอร่ามเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนนะคะ     ค่าห้องจะอยู่ที่คืนละ 2800 บาท  พร้อมเซตอาหารเช้า ที่มีข้าวต้มกุ้ง/หมู/ปลา  กาแฟ/ชา สลัดโรลผักตามฤดูกาล และน้ำผลไม้ค่ะ  (ขอบอกว่าน้ำจิ้มสลัดโรล อร่อยมากจ้า)  ^_^

เป็นไงบ้างคะกับ "ซแรย์ อทิตยา"  ดีงามเลยใช่ไหมคะ  พิมได้ไปเป็นครั้งแรก ก็ยังแอบติดใจอยากกลับไปอีกหลาย ๆ ครั้งเลยค่ะ    สำหรับเพื่อนๆ  คนไหนที่สนใจอยากจะไปเที่ยวที่ "ซแรย์ อทิตยา" ก็สามารถเดินทางไปได้ทุกวันเลยนะคะ ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 6 โมงเย็น ไม่มีวันหยุดค่ะ  ส่วนใครที่อยากจะจองห้องพัก  อยากสอบถามเรื่องการทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือสอบถามข้อมูลอย่างอื่นเพิ่มเติม ก็โทรติดต่อได้ที่ 062-391-5906 หรือ 088-272-5771  เลยค่ะ  

แล้วพบกันใหม่ในรีวิวบ้านพิมพาชิมพาเที่ยวในครั้งหน้านะคะ สวัสดีค่ะ ^_^