เมื่อเราไปไหว้พระที่วัดที่ 2 กันเสร็จก็ใกล้ถึงเวลาเที่ยงแล้วค่ะ เพราะงั้นจุดแวะพักต่อไปของเราก็คือร้านที่เราจะไปกินข้าวเที่ยงกันนะคะ ^_^
........ หลังจากเดินทางกันมาตั้งครึ่งวัน (ตอนนี้ 11.48 น. แล้ว) เพื่อนๆ หิวข้าวกันหรือยังค่ะ ถ้าหิวแล้วตามคุณสามีพิมมาเลยโลดดดดดดดเลยค่ะ เดี๋ยวคุณสามีพิมจะนำทางไปเองจ้า
สำหรับร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านที่ตั้งอยู่ที่ จ. ชัยภูมิค่ะ ส่วนอำเภออะไรนี่พิมไม่รู้ ^^" เพราะตอนรู้ว่าจะจอดที่ร้านนี้ก็ตื่นนอนพอดีเลยค่า ฮ่ะๆ ........ แต่ร้านนี้เค้าชื่อห้องอาหารสุดารัตน์นะคะ ซึ่งมีบริเวณจอดรถกว้างขวางมากค่ะ
เดินมาถึงหน้าร้านแล้ว ก็เข้าไปหาที่นั่งกันภายในร้านเลยค่ะ ซึ่งร้านนี้เค้ามีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบแอร์และแบบโอเพ่นแอร์ ก็เลือกเอาตามชอบเลยนะคะ (ส่วนใหญ่คนจะนั่งแบบไม่แอร์ เพราะว่าสะดวกดี)
เมื่อเลือกที่นั่ง (ในห้องแอร์) ได้แล้ว ก็เดินไปซื้ออาหารที่ด้านนอกกันค่ะ ซึ่งอาหารที่นี่เค้าก็มีทั้งข้าวราดแกง ก๋วยเตี๋ยว และอาหารตามสั่งพอสมควร
แต่ว่าราคาอาหารของที่นี่แอบแพงไปนิดค่ะ ปริมาณอาหารพอ ๆ กับร้านแรกที่ไปกินมาเมื่อเช้า แต่ราคานี่แพงกว่าพอควร อย่างถ้าเป็นร้านเมื่อเช้าจานนี้จะประมาณ 25-30 แต่ที่ร้านนี้ 40 หรือ 45 อ่ะค่ะ
แล้วนะคะเจ้าของร้านนี้พูดจากับลูกค้าไม่ดีเลยค่ะ .... เพราะอย่าตอนที่พิมกำลังเตรียมจะจ่ายเงินค่าข้าว ก็มีลูกค้าคนนึงเป็นคุณลุงท่าทางก็นิ่งๆ เหมือนแกคงไม่รู้จะสั่งอะไรดี แกเลยชี้ไปที่ผัดเผ็ดเนื้อสัตว์สับๆ อย่างนึงที่อยู่ในถาดด้านบนกับแกงปลาดุกอีกอย่างนึง แม่ค้าซึ่งเป็นเจ้าของร้านก็พูดขึ้นด้วยเสียงดังทันทีว่า "นี่มันผัดเก้งนะ ถ้าจะเอาผัดนี่ จานละ 55 เนื้อเก้งมันไม่ใช่โลละร้อยสองร้อยเหมือนหมู แต่นี่โลละ 600 เลยนะ" ....... หรืออย่างตอนที่มีคุณป้าคนนึงมาถามแกด้วยน้ำเสียงที่สุภาพเรียบๆ มากว่าพะโล้ใส่อะไรบ้าง แกก็พูดเสียงดังว่า "พะโล้มันจะใส่อะไรได้บ้างล่ะ มันก็มีแค่หมู ไข่ เต้าหู้เท่านั้นแหละ ใส่อย่างอื่นนอกจากนี้ก็ไม่เคยทำ" .... อะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ คือแบบว่าพิมก็ไม่เข้าใจนะว่าแกจะต้องพูดทำไม มีไม่มี ใส่ไม่ใส่ จานละเท่าไหร่ อะไรยังก็น่าจะบอกไปตรง ๆ เลยทำนองนี้มากกว่าอ่ะค่ะ ........ แต่นะ ก็ต้องกินร้านแกอยู่ดีล่ะค่ะ >_<"
ว่าแล้วก็......... มากินข้าวกลางวันด้วยกันเลยดีกว่าค่ะ เพราะเราต้องเดินทางกันอีกยาวไกล กินข้าวเพิ่มพลังเอาไว้ก่อน เดินทางไกลจะได้มีแรงนะคะ ^^
และด้วยความที่วันนี้เหนื่อยมาก ไม่ได้เหนื่อยที่นั่งรถ แต่เหนื่อยเพราะอดนอนก็เลยขอเสริมพลังด้วยน้ำดำสักหน่อยค่ะ (จากที่ไม่ได้กินมานานมากๆ) .......... ฮ่าาาาาาาาาาาา เย็นซ่าชื่นใจจริง ๆ ^^
กินเสร็จ .... ก็ไปเดิน ๆ ดูรอบร้านค่ะว่ามีอะไรพอให้ซื้อเป็นของฝากแม่ฝากน้องได้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็มีแต่ของหมักดองอ่ะนะคะ ซึ่งช่วงนี้บ้านพิมงดของพวกนี้ค่ะ ถ้าไม่จำเป็นไม่อยากกิน ส่่วนพวกของแห้งต่าง ๆ ก็ไม่มีวันผลิตไม่มีวันหมดอายุ เพราะงั้นเลยขอผ่านดีกว่าค่ะ
ก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถ คุณสามีพิมเค้าแอบเห็นร้านกาแฟ Cafe Amazon อยู่ zone ด้านข้างๆ ร้าน เค้าก็เลยชวนพิมเดินไปหากาแฟขม ๆ เพื่อฟื้นพลังซะหน่อยค่ะ ........ ซึ่งร้านกาแฟร้านนี้เนี่ย บอกตามตรงว่าพิมเห็นบ่อยเวลาไปต่างจังหวัด แต่ไม่เคยแวะสักครั้งเลยค่ะ ไม่รู้ว่าอร่อยไหม แต่ก็จะขอลองล่ะ
ซึ่งพอคุณสามีพิมเค้าเดินเข้าไปในร้าน เค้าก็แอบบงงกับเมนูของร้านเพราะมีบางอย่างที่ชื่อแปลก ๆ แบบว่าเป็นสูตรของทางร้านเองน่ะค่ะ ด้วยความไม่มั่นใจ ก็เลยขอสั่งกาแฟแบบพื้น ๆ เป็นเอสเพรสโซ่ดีกว่าอ่ะค่ะ ^^
สั่งเสร็จแล้วก็ไปนั่งร้องเพลงรอ .......... เพราะว่าคิวยาว ^^ แบบว่าเห็น ๆ ม่มีคนอย่างในภาพด้านล่างนี้ แต่จริง ๆ แล้วมีคนอื่นๆ มาสั่งไว้ก่อนหน้าเราเป็นสิบแก้วค่ะ ^^"
ระหว่างรอ ก็ดูวิวในร้านนอกร้านไปพลาง ๆ อ่ะค่ะ
ซึ่งที่ร้านนี้เนี่ย การตกแต่งร้านของเค้าออกแนวขิลด์ ๆ มากเลยค่ะ ให้ความรู้สึกสบาย ๆ เหมือนนั่งเล่นอยู่ที่ชานนอกบ้าน แถมนั่งข้างในร้านก็เย็นดี (เย็นแอร์) ข้างนอกร้านก็อากาศดีค่ะ (แต่ลมแรงมาก ขอบอก)
นั่งไปสักพัก คุณสามีเริ่มหิวมาก ...... แอบหยิบเจ้าขนมตาลมา (ทำท่าจะ) กินค่ะ ฮ่ะๆ
และจนคุณสามีกินเจ้าขนมตาลหมดไปครึ่งตัว (ล้อเล่น ๆ) กาแฟก็ยังไม่ได้เลยจ้า >_<" แบบว่าเนิ่นนานจริงๆ (นี่ถ้ารู้ว่าต้องรอนานขนาดนี้ ไม่สั่งแล้วอ่า)
จนกระทั่งเวลาผ่านไปอีกประมาณ 5 นาที น้องพนักงานถึงได้เอากาแฟที่สั่งไปมาส่งให้อ่ะค่ะ
พอได้กาแฟแล้ว พวกเราก็รีบเดินกลับไปขึ้นรถกันค่ะ .... และด้วยความที่ไปเสียเวลารอกาแฟนาน พิมกับคุณสามีก็เลยมาเป็นคนเกือบสุดท้ายของรถ แอบอายอยู่เหมือนกัน T__T
จากนั้นก็ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องเดินทางต่อกันแล้วค่ะ โดยจุดหมายที่เราจะไปต่อก็คือ วัดเขาประตูชุมพล ซึ่งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จ. ชัยภูมิ ค่ะ
ซึ่งจากจุดที่เราแวะพักทานข้าวกลางวันไปยังวัดเขาประตูชุมพลก็ไม่ไกล ....... และใช้เวลาแค่ประมาณ 40 กว่านาทีก็ถึงแล้วค่ะ
สำหรับวัดเขาประตูชุมพลเนี่ยอย่างที่พิมบอกตอนแรกว่าเป็นวัดที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติป่าหินงามอ่ะค่ะ ซึ่งตรงหน้าแยกหน้าที่ทำการอุทยาน จะมีทางเลี้ยวอยู่ 2 ทาง คือทางซ้ายกับทางขวา ซึ่งหากขึ้นไปทางขวาก็จะไปยังทุ่งดอกกระเจียว แต่ถ้าลงไปทางซ้ายก็จะไปยังวัดเขาประตูชุมพลอ่ะค่ะ โดยระหว่างทางเข้าไปยังวัดเขาประตูชุมพลเนี่ย จะยังเป็นทางลูกรังค่ะระยะทางประมาณ 1.5 กม. จากทางแยก หากหน้าฝน ฝนตกหนักๆ จะค่อนข้างเอารถลงไปลำบากนิดนึง แต่ถ้าแล้งเนี่ย เอารถลงไปสบาย ๆ เลยค่ะ
บรรยากาศภายในวัดแห่งนี้จะค่อนข้างเงียบและสงบมาก เพราะจะว่าไปวัดนี้ก็ตั้งอยู่กลางป่าเลยอ่ะค่ะ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย ในทุก ๆ ปี จึงมักจะมีผู้ที่ต้องการความสงบมาค้างคืน นั่งสมาธิที่วัดนี้กันเป็นประจำอ่ะค่ะ ..... โดยสัญลักษณ์ของวัดเขาประตูชุมพลนี้ก็คือเจดีย์รูปเก๋ง หอระฆังที่สูงใหญ่ และประตูชุมพลอันศักดิ์สิทธิ์อ่ะค่ะ
และเมื่อถึงวัดแล้ว ทางพี่ จนท. ขสมก. ก็บอกว่าให้พวกเรารีบเข้าไปไหว้พระ ถวายสังฆทานกันก่อนดีกว่า เพราะว่าอากาศเริ่มแปรปรวน ฝนเริ่มมีตกปรอย ๆ แล้วอ่ะค่ะ .... พิมกับคุณสามีที่แต่แรกคิดกันว่าจะไปเดินชมความงามภายในวัดและถ่ายรูปกันก่อนก็เลยต้องเปลี่ยนไป ทำตามคำแนะนำของพี่ จนท. แทนอ่ะค่ะ
ซึ่งหลังจากที่พวกเราทำการถวายสังฆทานเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ท่านเจ้าอาวาสวัดก็ได้บรรยายธรรมะให้พวกเราได้ฟังกันอยู่ประมาณสัก 15-20 นาที โดยเน้นเรื่องที่ว่าเวลาเราทำอะไรให้มีสติ มีสมาธิอยู่เสมออ่ะค่ะ
และหลังจากฟังหลวงพ่อท่านบรรยายธรรมะเสร็จเป็นที่เรียบร้อย ก็ยังเหลือเวลาอีกประมาณ 15 นาทีก่อนที่ทาง ขสมก. เค้าจะพาเราไปชมทุ่งดอกกระเจียวน่ะค่ะ ระหว่างนี้พิมก็เลยเดินชมบรรยากาศรอบวัด
ซึ่งขอบอกว่าบรรยากาศรอบ ๆ วัดนี่ร่มรื่นและเย็นสบายมากค่ะ เพราะมีแต่ต้นไม้ใหญ่อยู่รายรอบทั้งนั้น แถมอากาศเย็นสดชื่นมากๆ ท่านเจ้าอาวาสบอกว่าอุณหภูมิที่นี่ตลอดทั้งปีไม่เคยเกิน 25 องศา ส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 22-23-24-25 ตลอดเลยอ่ะค่ะ ^__^ เรียกว่าอากาศเย็นสบายมากจริงๆ
และหลังจากเดินชมบรรยากาศรอบวัดสักพัก พิมกับคุณสามีก็คิดว่าได้เวลาที่เราควรจะกลับไปขึ้นรถกันต่อแล้วอ่ะค่ะ เพราะมันเหลืออีกแค่ 10 กว่านาทีเอง (ตามกำหนดที่สมควรอ่ะนะคะ) แต่ก่อนกลับไปก็ขอแวะถ่ายรูปที่ลานหินตรงทางไปเขาประตูชุมพลสักหน่อย ซึ่งพิมก็มีคุณสามีเป็นนายแบบเช่นเคยค่ะ ^^
แล้วเราก็กลับไปถึงลานจอดรถตอนประมาณอีก 10 นาทีจะบ่ยสองโมงอ่ะค่ะ
ซึ่งหลังจากที่พิมกับคุณสามีไปนั่งรอเพื่อน ๆร่วมทัวร์ท่านอื่นอยู่บนรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อหันกลับมาด้านหลังก็พบว่าเพื่อน ๆ รวมขณะทัวร์ก็กำลังเดินกลับมาขึ้นรถเช่นกันอ่ะค่ะ
ระหว่างรอ ....... ก็เลยขอถ่ายรูปแอ๊บแบ๊วของคุณสามีกับพิมซะหน่อยค่ะ ^^" มีหลายภาพนิดนึง หากใครไม่ชอบหน้าพิม ก็มองผ่าน ๆ ไปเลยนะคะ ^^
และแล้วเมื่อถึงเวลาบ่ายสองโมงเป๊ะๆ ..... ก็ได้เวลาที่พวกเราจะเดินทางต่อเพื่อไปยังทุ่งดอกกระเจียวในบริเวณ อช.ป่าหินงามกันแล้วค่า ......... ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็ติดตามชมได้ในตอนหน้าเลยนะคะ ส่วนตอนนี้ขอบาย ๆ ไปก่อนจ้า