14-15 มีนาที่ผ่านมา พิมมีโอกาสได้ร่วมทริปไปพัทยากับ ททท. ในโครงการ Thailand Splash & Spice 2015 สนุกและมีความสุขมาก แถมได้รู้จักสถานที่เที่ยวใหม่ ๆ มากมาย ก็เลยอยากจะเก็บข้อมูลพวกนี้มาฝากเพื่อนๆ ชาวครัวบ้านพิมกันซะหน่อยค่า
โครงการ Thailand Splash & Spice 2015 เป็นโครงการที่ทาง ททท. เค้าจัดขึ้นเพื่อแนะนำสินค้าทางการท่องเที่ยวประเภท Dining ให้กับนักท่องเที่ยวที่สนใจอ่ะค่ะ โดยทางโครงการได้เชิญชวนผู้ประกอบการทางด้านอาหารในโรงแรมระดับ 4-5 ดาวในพื้นที่ท่องเที่ยว 6 โซน/จังหวัดหลัก ๆ ของเมืองไทย ก็คือ กรุงเทพ พัทยา หัวหิน เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย มามอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้านักท่องเที่ยวได้ทานอาหารที่เป็น Signature Dish ของแต่ละโรงแรมในราคาพิเศษอ่ะนะคะ .... โดยโครงการนี้เนี่ยจะจัดขึ้นทุกปีในช่วงหน้าร้อนของเมืองไทย เพื่อเป็นการกระตุ้นรายได้ทางด้านการท่องเที่ยวและบริการให้เรื่องของอาหารให้มีมากขึ้นค่ะ ^_^ ซึ่งระยะเวลาของโครงการในปีนี้ ก็เริ่มตั้งแต่ 1 มีนาคม ไปจนถึง 31 พฤษภาคม 2558 นะคะ เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบชิมชอบการทานอาหารที่เป็น signature Dish ของแต่ละโรงแรม โดยเฉพาะโซนพัทยา และอยากรู้ว่านอกจากอาหารอร่อย ๆ แล้ว พัทยายังมีอะไรให้ให้เราสามารถไปเที่ยวชมเที่ยวชิมได้อีกบ้าง ....... ก็ตามพิมมาเลยค่า
ทริปนี้ของพิมเริ่มต้นที่สำนักงานใหญ่ ททท. ซึ่งตั้งอยู่แถว ๆ แยกอโศกเพชรบุรี ซึ่งทริปนี้เราจะมีสมาชิกด้วยกันทั้งหมด 8 คนนะคะ ^_^
ตอนที่พิมไปถึงเนี่ย สมาชิกที่จะร่วมไปในทริปครั้งนี้ยังมาไม่ครบ พิมกับคุณสามีก็เลยมีเวลาเดินถ่ายรูปโน่นนี่ มีเวลาได้หาอะไรกินรองท้อง เพราะตั้งแต่ตื่นมา แม้แต่น้ำยังไม่ตกถึงท้องเลยค่ะ - -"
และแล้วพอถึงเวลา 08.30 น. ก็ได้เวลาเคลื่อนพลออกจาก ททท. ล่ะค่ะ .... ซึ่งตอนแรกน้องเจ้าหน้าที่บอกว่าเดี๋ยวเราจะมีแวะพักที่ จุดแวะพักบน motor way เผื่อว่าใครหิว อยากจะหาอะไรทานเพิ่ม หรืออยากจะกินกาแฟแก้ง่วง ก็จัดได้เลยที่นี่ แต่ปรากฎว่า....พอไปถึงหน้าทาเข้าจุดแวะพักแล้วแอบตกใจค่ะ แบบว่ารถติดยาวววว ออกมาจนถึงถนนด้านนอกเลย - -" ถ้าสมมติว่าจอดแวะพัก+หาอะไรกิน สงสัยว่าเที่ยงหรือบ่าย 2 ก็น่าจะยังไม่ถึงพัทยาแน่นอนเลยค่ะ เพราะงั้นทนหิวกาแฟไปก่อน แล้วค่อยไปว่ากันอีกทีเมื่อถึงพัทยาล่ะกันเน๊าะคะ และพอคิดได้อย่างนี้พวกเราก็เลยเคลื่อนพลกันต่อ ซึ่งบางคนก็ดูวิวข้างทาง บางคนก็จิ้มๆ โทรศัพท์ ส่วนพิมก็ตีตั๋วหลับยาวจนถึงพัทยาเลยอ่ะค่ะ ^_^
จริง ๆ แล้วจุดแรกที่เราจะต้องไป check-in ก็คือ โรงแรม TSix5 ที่อยู่ในโซนพัทยาเหนือ แต่เนื่องจากระหว่างทางไม่ได้แวะตรงมอเตอร์เวย์ ทางน้อง ททท. ก็เลยชวนพวกเราทุกคนแวะที่ร้าน La Baguette ซึ่งเป็นร้านขนมหวานชื่อดังของพัทยาก่อนจะไป check-in ที่โรงแรมกันอ่ะค่ะ
จุดที่ตั้งร้าน La Bauguette ก็จะอยู่ด้านหน้าโรงแรม woodland นะคะ หากเพื่อนๆ จะไปทานขนมร้านนี้ก็จอดรถตรงที่จอดรถของโรงแรม woodland ได้เลยอ่ะค่ะ ซึ่งขนมหวานของร้านนี้เนี่ยนอกจากจะมีหลายสิบชนิดให้เราได้เลือกชมเลือกกินแล้ว ก็ยังมีหน้าตาที่สวยงามมาก ๆ อ่ะค่ะ ^_^
ราคาขนมโดยส่วนใหญ่ก็จะประมาณชิ้นละร้อยกว่าบาทไปจนถึง 140 อ่ะนะคะ
ถ้าใครอยากไปลิ้มลอง พิมแนะนำว่าให้ไปช่วงสักไม่เกิน 11 โมงเพราะยังพอมีพื้นที่ให้นั่ง ไม่ต้องไปรอคิว แต่ถ้าไปช่วงเย็นหรือค่ำนี่ ... อาจจะต้องรอคิวยาวเลยอ่ะค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากอยากนั่งในห้องแอร์ ไม่อยากเผชิญแดดร้อนๆ แนะนำว่าควรไปสัก 8-9 โมงเช้านะคะ เพราะไม่งั้นจะได้นั่ง zone ด้านนอกเหมือนกับพิมและคณะ เนื่องจากโต๊ะด้านในเต็มเอี๊ยดดดเลยค่า >_<
หลังจากที่เราแวะเติมพลังงานด้วยของหวานกันเสร็จเรียบร้อย จุดหมายต่อไปของเราก็คือ โรงแรม TSix5 (http://www.tsix5hotel.com) ซึ่งเป็นโรงแรมในเครื่อ The Sign นะคะ ซึ่งที่โรงแรมนี้นอกจากจะเป็นที่นอนหลับพักผ่อนของพิมและชาวคณะในคืนนี้แล้ว ทางโรมแรมก็ได้จัดกิจกรรม Cooking Class ไว้ให้เราได้ร่วมทำอีกด้วยค่ะ ซึ่งกิจกรรมตรงส่วนนี้เนี่ยก็จะมีสื่อมวลชนจากประเทศรัสเซียเข้ามาร่วมด้วยเพื่อบันทึกเทปเป็นสื่อวีดีโอนำกลับไปเผยแพร่ที่ประเทศเค้าด้วยอ่ะค่ะ ^_^
โดยเมนูอาหารคาวที่ทางเชฟได้จัดเตรียมไว้ให้เราได้ลองทำกันก็คือ แกงเผ็ดหมูย่าง
โดยเชฟก็จะสาธิตให้ดูตั้งแต่ขั้นตอนการหมักหมู ย่างหมู
ลงมือแกง จนกระทั่งเสร็จออกมาเป็นแกงหน้าตาน่าทานแบบในภาพด้านล่างนี้นะคะ
ส่วนของหวาน เชฟก็จะให้เราทำกล้วยไข่เชื่อมกันค่ะ
โดยทางผู้ช่วยเชฟก็ได้จัดเตรียมวัตถุดิบมาให้เราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะกล้วย น้ำเชื่อม
ใช้เวลาลงมือทำไม่ถึง 10 นาที พิมก็ได้กล้วยไข่เชื่อมที่หน้าตาน่าทานอย่างนี้ออกมาแล้วอ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นก็ถึงเวลาทานอาหาร (มื้อกลางวันพอดี) ... ทางโรงแรมก็ได้จัดชุดอาหารไทยหลากหลายไว้ให้เราทุกคนได้ชิมกัน ไม่ว่าจะเป็นสะเต๊กไก่ ยำหมึก เขียวหวานทะเลผัดแห้ง แกงเผ็ดหมูย่าง ส้มตำไทย และก็ปีกไก่ผัดกระเทียมพริกไทย
ซึ่งก็อร่อยทุกอย่าง โดยเฉพาะปีกไก่ผัดกระเทียมพริกไทย อันนี้อร่อยมากเป็นพิเศษ เลยอ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นทาง ททท ก็ให้เราได้แวะขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องพักประมาณ 1 ชม. นะคะ แล้วพอบ่าย 2 ทุกคนก็มารวมตัวกันเพื่อเดินทางต่อไปยัง CAPE DARA (http://www.capedarapattaya.com/en) เพื่อไปดูเชฟสาธิตเมนูที่เป็น Signature Dish ของทางโรมแรมอ่ะค่ะ
ระหว่างรอเชฟพร้อม อุปกรณ์พร้อม พวกเราก็เดินชื่นชมบรรยากาศของเคปดาราตรง zone ห้องอาหารไปพลาง ๆ ซึ่งขอบอกว่าวิวที่นี่สวยมากเลยค่ะ
โดยเฉพาะตรงมุมนี้ ถ้าอากาศไม่ร้อน แดดไม่แรง และมีคุณสามีอยู่ด้วย พิมคิดว่าพิมน่าจะนั่งได้ตั้งแต่เช้ายันเย็นเลยนะคะ ^_^
และหลังจากเราเดินชมวิวทิวทัศน์ไปสักแป๊บ เชฟก็พร้อมที่จะสาธิตเมนู signature dish ให้เราได้ชมกันแล้วอ่ะค่ะ
โดยเมนูนี้มีชื่อว่า Rack of Lamb เป็นเนื้อสันนอกแกะติดกระดูกอบกับสมุนไพรต่างๆ เยอะแยะมากมาย
ส่วนผสมทั้งหมดก็จะมีตามนี้นะคะ
ขั้นตอนการทำก็คือ เชฟจะนำสมุนไพรสับหยาบ พวกรากผักชี ตะไคร้ กระเทียม มาผัดให้หอมก่อนอ่ะค่ะ ผัดเสร็จก็พักไว้ก่อน
จากนั้นนำเนื้อแกะหมักด้วยเกลือ พริกไทย และไวน์แดงประมาณสัก 5-10 นาทีค่ะ หมักเสร็จก็เอาไปทอดแบบจี่ในกระทะให้ด้านนอกเป็นสีน้ำตาลนิดนึง จากนั้นโปะด้วยสมุนไพรที่คั่วไว้เมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะนำไปอบเป็นเวลาประมาณ 6 นาที
อบเสร็จ ก็หันมาทำซอส ด้วยการผัดไวน์แดง บราวน์ซอส กับกระเทียมสับ และสมุนไพรอื่นๆ จนหอม ก็ปิดไฟเตานะคะ
หยิบแกะที่อบไว้วางลงในจาน ตบแต่งด้วยผักสด ผักดอง และซอสที่ทำไว้ เสริฟคู่กับมันฝรั่งผัดเนย และซอสมิ้นท์
เท่านี้ก็จะได้ เนื้อสันนอกแกะติดกระดูกอบสมุนไพร เป็นที่เรียบร้อยแล้วล่ะค่า
ขอบอกว่างานนี้แกะไม่เหม็นสาบเลยนะคะ แถมหอมอร่อยมาก ปกติพิมไม่ชอบกินแกะสักเท่าไหร่ แต่งานนี้พิมกินได้เกือบหมดชิ้นเลยอ่ะค่ะ เพราะงั้นถ้าหากใครอยากมาลองลิ้มชิมรสกับเมนูนี้ ก็ตามพิมมาได้ที่เคปดารานะคะ ราคา 749++ ค่ะ ^_^
ทริปวันนี้ .. พิมก็ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวพิมจะมาต่อในส่วนของสวนน้ำ Cartoon Network, ตลาดบ้านโพธิ์นาเกลือ, หมู่บ้านศิลปะและขันโตกที่ไทธานี , รวมไปถึงอาหารญี่ปุ่นอร่อยๆ ที่ J-Park กันอีกทีอ่ะค่ะ ^_^
ขอบคุณ :: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://thai.tourismthailand.org/home สำหรับกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ และขอบคุณที่ให้โอกาสพิมไปเปิดหูเปิดตานะคะ
สุขสันต์ 365 วันที่พัทยา http://www.trip2pattaya.com/