จากเคปดารา จุดหมายต่อไปของเราก็คือสวนน้ำ Cartoon Network นะคะ ^_^
สวนน้ำ cartoon network เนี่ย ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ ใกล้กับชายหาดบางเสร่ ถ้าสมมติว่าขับรถมาจากตัวเมืองพัทยา ก็ใช้เวลาราว ๆ 20 นาทีเองค่ะ ไม่ไกลๆ
ภายในสวนน้ำก็มีจะมีหลากหลายโซนมาก ^_^
ไม่ว่าจะเป็นโซน Cantoonival ที่เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ที่อยากเล่นสไลเดอร์ แต่กลัวความสูงอย่างพิม - -" โซน Megawave ที่เป็นเหมือนทะเลเทียม มีความเค็มนิดๆ และมีคลื่นยักษ์ที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะทุก 20 นาที เด็กก็เล่นได้ (แต่ต้องมีคนดูแล) ผู้ใหญ่ก็เล่นได้ ซึ่งโซนนี้พิมขอบอกว่าสนุกมากค่ะ เล่นแล้วไม่อยากจะเลิกเลย คือแบบเราไม่ต้องทำอะไร นั่งบนห่วงยางเฉย ๆ เดี๋ยวคลื่นก็จะมาซัดเราไปมาเองค่ะ ฮ่ะๆ
แล้วก็จะมีโซน SurfArena เป็นโซนที่เหมาะสำหรับคนอยากลองเล่น SurfBoard แต่ยังไม่กล้าไปลงในทะเลจริง โซนนี้มีหัวหน้าทีมผู้สอนเป็นถึงแชมป์อันดับที่ 1 ของเอเชียเลยนะคะ แถมมีการ์ดคอยดูแลตลอดเวลาแบบใกล้ชิด แต่ดูท่าทางแล้วจะโหดเกินความสามารถพิม - -" โซนนี้พิมก็เลยขอผ่านค่ะ >_<
ต่อมาก็เป็นโซน Adventure กับ โซน Omniverse นะคะ 2 โซนนี้จะมีความเหมือนกันคือเป็นสไลด์เดอร์ แต่ความโหด ความเสียว แตกต่างกันคนละเรื่องเลยค่ะ โซน Omniverse จะโหดเสียวกว่าโซน Adventure เยอะ พิมเองเป็นคนที่กลัวความสูงมากๆ ก็เลยลองเล่นแค่ที่โซน Advanture ก็เพียงพอล่ะค่ะ - -"
พอเล่นเสร็จ ... สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือความหิว เราก็เลยย้ายไปที่โซน Foodvile กัน ที่โซนนี้ก็มีอาหาร เครื่องดื่มหลากหลายประเภทให้เพื่อนๆ ได้เลือกซื้อเลือกทานกันนะคะ ทั้งอาหารไทยอาหารฝรั่งอาหารญี่ปุ่น
และสำหรับเพื่อนๆ ที่มาคนเดียวหรือว่ามากันหลายคน แต่อยากลงเล่นน้ำทุกคน ไม่มีใครนั่งเฝ้าของมีค่าให้ ที่นี่เค้าก็มีล๊อคเกอร์ให้่เช่าด้วยอ่ะค่ะ 4 ชม. 180 บาท แถมยังมี Cabana ส่วนตัวไว้ให้เช่านอนเล่น เปลี่ยนเสื้อผ้า ทำโน่นทำนี่ด้วยนะคะ ยังไงถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.cartoonnetworkamazone.com/th/ เลยค่า
จากสวนน้ำ Cartoon Network เกือบๆ 6 โมงเย็น เราก็เดินทางไปที่หมู่บ้านศิลปะและวัฒนธรรม "ไทธานี" กันต่อ เพื่อไปทานข้าวเย็นแบบขันโตก พร้อมชมการแสดงศิลปะไทยสี่ภาคนะคะ ซึ่งสวนน้ำกับหมู่บ้านไทธานีเนี่ยอยู่ใกล้กันมากเลยค่ะ หากขับรถจะใช้เวลาราวๆ 10 นาทีก็ถึงแล้วนั่งรถประมาณ 10 นาทีก็ถึงแล้วค่าาา (เหมาะกับเวลาหิว ๆ อย่างนี้มาก)
ที่ไทธานีเนี่ย นอกจากการทานอาหารขันโตกพร้อมชมการแสดงแสง สี เสียงแล้ว เค้าก็ยังมีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอื่น ๆ ให้เราได้ชมได้ดูอีกมากมายอ่ะค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ่นกระบอก เชิดหนังตะลุง บรรเลงดนตรีไทย และขนมแห่วัฒนศิลป์
แต่เนื่องจากว่า ... กว่าที่พวกเราจะออกจากสวนน้ำก็เกือบ 6 โมงเย็น มาถึงไทธานีก็ 6 โมงเย็นกว่าๆ แล้ว >_< ทำให้ไม่ทันชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมอะไรสักอย่างเลยค่ะ T__T เพราะงั้นงานนี้ก็เลยมุ่งไปที่ขันโตกอย่างเดียวเลยค่า
พูดถึงขันโตกแล้ว จะว่าไปพิมเองก็ยังไม่เคยไปทานอาหารแบบขันโตกที่ไหนเลยอ่ะค่ะ แม้กระทั่งเชียงใหม่ที่มีร้านอาหารแบบขันโตกมากมาย และพิมไปบ่อยๆ แต่พิมก็ไม่เคยไปทานเลยสักครั้ง -*- เพราะงั้นพิมก็เลยไม่รู้ว่าขันโตกที่อื่นเค้าเป็นยังไง จัดอาหารให้ผู้ที่มาทานเป็นแบบไหนอ่ะนะคะ >_<
แต่ที่ไทธานีเนี่ย ก่อนขันโตกจะมาเสริฟ เราสามารถที่จะเดินตักของทานเล่นที่อยู่บริเวณรอบ ๆ เรือนไทยทานไปพลาง ๆ ได้เลยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นเห็ดครก ส้มตำไทย เมี่ยงสวนดอย (เมี่ยงผัก) สะเต๊ะเจ ข้าวจี่ ผัดไทสุโขทัย บัวลอย ข้าวหลาม น้ำแข็งใส ผลไม้สด ๆ ตามฤดูกาล และก็น้ำสมุนไพรอ่ะค่ะ
ซึ่งพิมขอบอกว่าทุกอย่างอร่อย ถูกปากพิมมาก ไม่มีอันไหนให้ติเลย โดยเฉพาะเห็ดครกอันนี้พิมชอบเป็นพิเศษเลยนะคะ ชอบขนาดเดินไปหยิบประมาณ 4-5 รอบเลยค่ะ ^__^
และหลังจากที่พิมกำลังทานของกินเล่นแบบเพลิน ๆ ประมาณ 6 โมงครึ่ง (18.30 น.) ขันโตกก็ถูกยกมาเสริฟนะคะ อาหารที่มาในชุดขันโตกก็จะมีต้มข่าไก่ ผัดเปรี้ยวหวานไก่ทอด หมูเส้นทอดงา น้ำพริกอ่อง หมกไก่ และก็น้ำพริกอะไรอีกสักอย่างที่พิมไม่ได้ชิม แต่โดยรวมแล้วรสชาติอร่อย รสชาติไม่จัดเกิน ทานได้ทุกคนทุกเพศทุกวัยทุกเชื้อชาติอ่ะค่ะ
ระหว่างที่พวกเราทานอาหารกันแบบอร่อยๆ ด้านหน้าก็จะมีการแสดงแสง สี เสียง ให้เราดูเพลินๆ นับสิบการแสดงด้วยนะคะ
ซึ่งการแสดงกับอาหารในชุดขันโตก และอาหารสำหรับทานเล่น จะถูกเปลี่ยนในทุก ๆ 6 เดือนอ่ะค่ะ ^_^
ด้วยความที่วันนี้เรามากันถึงค่อนข้างเย็นไปนิ๊ดดดด ทำให้ต้องพุ่งตรงไปที่อาหารขันโตกก่อน เนื่องจากเค้ามีกำหนดช่วงเวลาในการทานนะคะ (17.00-20.00) ... พอทานอาหารขันโตกเสร็จ เจ้าหน้าที่ของไทธานี (น้อยมายด์) ก็เลยพาเราเดินชมจุดต่างๆ ในไทธานี ซึ่ง ณ เวลาเกือบๆ 2 ทุ่ม ก็ปิดทำการไปหมดแล้วอ่ะค่ะ ^_^ ... โดยจุดแรกที่น้องมายด์พาไปชมก็คือวิหารจตุรมุข
ที่ขนาบข้างทั้งสองด้านด้วยศาลาบาตรนะคะ โดยวิหารจตุรมุขจะเป็นวิหารจำลองศิลปะทางภาคเหนือ มีหลังคาทรงสูงรแบบจตุรมุข ด้านในประดิษฐานพระพุทธรูป 4 องค์หันหลังชนกัน และหันหน้าออกไปทั้งสี่ทิศอ่ะค่ะ ^_^
จากวิหารจตุรมุข น้องมายด์ก็พาไปชมลานกิจกรรมงานวัดต่อนะคะ
ซึ่งที่นี่จะเป็นจุดสอนแกะสลัก ร้อยมาลัย ปั้นดิน เพ้นท์ร่มแบบภาคเหนือ ทำลูกประคบสมุนไพร และมีบรรเลงดนตรีไทยให้ฟังเพลินๆ ด้วยอ่ะค่ะ
จากลานกิจกรรมงานวัด น้องมายด์ก็พาพวกเราทุกคนไปเดินชมอีกหลาย ๆ ที่ในไทธานีนะคะ แต่ด้วยเวลาที่จำกัด และบางสถานที่เช่นโซนเรือนไทย บ้านชาวเขา กาดหมั้ว ค่อนข้างมึดมาก พิมก็เลยไม่ได้สามารถถ่ายรูปมาฝากเพื่อน ๆ ได้นะคะ ไว้มีโอกาสได้ไปใหม่ในช่วงกลางวัน จะไม่ลืมถ่ายรูปมาฝากเลยค่ะ
และจุดสุดท้ายที่น้อยมายด์พาไปชมก็คือ หอศิลป์นะคะ
ที่หอศิลป์จะเป็นจุดรวบรวมของสะสมที่เกี่ยวกับศิลปะไทยของไทธานี
ไม่ว่าจะเป็นงานแกะสลัก ภาพวาด เครื่องปั้นดินเผา ศิลาดล งานปักชุดหุ่นกระบอก และอื่นๆ อีกมากมายค่ะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ คนไหนสนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.thaiarts-culture.in.th/main_th.html นะคะ ^_^
และหลังจากเดินชมสถาปัตยกรรมต่างๆ ในไทธานีจนครบ ..... ประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ เจ้าหน้าที่ ททท ก็พาพวกเราไปส่งที่โรงแรม Tsix5 เพื่อให้ได้พักผ่อนกันอ่ะค่ะ
ทริปวันที่ 14 มีนา .. พิมก็ขอจบไว้ตรงนี้ก่อนนะคะ แล้วเดี๋ยวพิมจะมาต่อในส่วนของทริปวันที่ 15 มีนา ซึ่งมีตลาดนาเกลือ (ตลาดอาหารทะเลสดใหม่) ปราสาทสัจธรรม และก็ร้านอาหาร U-Mai ที่ J-Park อ่ะค่ะ ^_^
ขอบคุณ :: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย http://thai.tourismthailand.org/home สำหรับกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ และขอบคุณที่ให้โอกาสพิมไปเปิดหูเปิดตานะคะ
สุขสันต์ 365 วันที่พัทยา http://www.trip2pattaya.com/