หลังจากที่เรากินข้าวเที่ยงที่ร้านกุ้งภูเขาไฟกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว โปรแกรมอันดับต่อไปของเราก็คือการไปทัวร์สุขภาพ กับโรงพยาบาลหลวงพ่อเปิ่นที่ อ.นครชัยศรี จ.นครปฐมกันค่ะ ^_^
จากร้านกุ้งภูเขาไฟที่อยู่ในอำเภอเมืองนครปฐม เราก็ขับรถกันมาที่วัดหลวงพ่อเปิ่น ซึ่งอยู่ในอำเภอนครชัยศรีนะคะ
ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรงพยาบาลวัดหลวงพ่อเปิ่น >> คลิ๊กที่นี่ <<
เมื่อมาถึงวัดแล้ว อันดับแรกก็ขอไหว้พระเอาฤกษ์เอาชัยกันซะหน่อยค่ะ ^_^
จากนั้นเราก็เดินตรงไปที่บริเวณท่าน้ำนะคะ เพราะวันนี้จุดประสงค์ที่เรามาวัดหลวงพ่อเปิ่น ก็คือเราจะมาล่องแพทัวร์สุขภาพกันอ่ะค่ะ
พูดถึงทัวร์สุขภาพแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยเน๊าะคะว่าคืออะไร เพราะตอนแรกพิมก็สงสัยเหมือนกันค่ะ ^_^ ...... ทัวร์สุขภาพของวัดหลวงพ่อเปิ่นก็คือ การล่องแพใหญ่ชมธรรมชาติและชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านสองฝากฝั่งแม่น้ำนครชัยศรี ในขณะที่บนแพก็จะมีการเช็คสุขภาพเบื้องต้น เช่น การวัดความดัน ตรวจระดับน้ำตาล ตรวจไขมันในเลือด ตรวจการทำงานของตับไต มีบริการนวดตัว นวดศรีษะ นวดเท้า มีกิจกรรมต่างๆ ให้ได้ทำ มีบริการอาหารว่าง เครื่องดื่ม ขนม รวมไปถึงอาหารมื้อหลักด้วยอ่ะค่ะ ซึ่งทัวร์ล่องแพนี่จะมีทั้งแบบ 1 วัน และ 2 วัน เพื่อนๆ ที่สนใจก็สามารถเลือกได้ตามสะดวกเน๊าะคะ แต่พิมแนะนำว่าควรโทรไปจองก่อนอ่ะค่ะ เพราะเค้าไม่ได้จัดทุกวัน และการจัดครั้งนึงก็รับแค่ 20-30 คนเท่านั้น หรือถ้าเพื่อนๆ อยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติม (เผื่อเค้ามี update เน๊าะคะ) ก็โทรไปสอบถามได้ที่ คุณน้ำค้าง 081-763-6574 เลยค่ะ ^_^
สำหรับทัวร์สุขภาพที่พิมจะชวนเพื่อน ๆ ไปชมกันในวันนี้ก็จะเป็นทัวร์แบบ 1 วันนะคะ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 700 บาทต่อ 1 คน (อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้) เริ่มลงเรือตอน 9 โมงเช้า และขึ้นจากเรืออีกทีตอนบ่าย 3 ค่ะ โดยราคานี้เค้าก็จะครอบคลุมถึงค่านวด ค่าทำกิจกรรมต่างๆ บนเรือ ค่าอาหารว่าง อาหารมื้อหลัก และค่าเครื่องดื่มด้วยนะคะ ซึ่งจุดขึ้นเรือก็จะอยู่ที่ท่าเรือวัดหลวงพ่อเปิ่นนั่นเองค่ะ ^_^
บรรยากาศในแพก็จะเป็นแบบชิลด์ๆ นะคะ ใครที่กลัวว่าแพจะเอียงไปเอียงมาไหม แพจะรับน้ำหนักคนไวไหม พิมก็ขอบอกว่าแพแน่นหนามาก ไม่มีเอียง ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเราเดินอยู่บนพื้นบ้านที่บ้านเลยค่ะ
ระหว่างทางที่แพถูกลากไป เราก็จะได้ชมวิวสองข้างฝากฝั่งแม่น้ำนครชัยศรีแบบในภาพด้านล่างนี่นะคะ ซึ่งขอบอกว่าเป็นบรรยากาศที่พิมโหยหามาก เพราะสมัยเด็กๆ บ้านพิมอยู่ติดริมคลอง ชาวบ้านแถวนั้นก็จะปลูกบ้านปลูกเรือนอยู่กันแบบนี้เลยค่ะ แถมยังปลูกผักบุ้ง มีผักตบชวาเหมือนกันอีกต่างหาก แล้วบางบ้านก็ยังมีการวางยอใหญ่ไว้ที่หน้าบ้าน (เครื่องมือหาปลาชนิดนึง) ไว้ยกยอเวลาที่ฝนตกด้วยอ่ะค่ะ ..... พอพิมได้กลับไปนั่งเรือท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้ บวกกับเจอลมเย็นๆ พัดอ่อนๆ ก็แอบทำให้นึกไปถึงวันเก่า ๆ เลยค่ะ >_<
ส่วนกิจกรรมบนเรือนั้นก็มีหลายอย่างนะคะ หลักๆ คือ ตรวจสุขภาพเบื้องต้น วัดความดัน ตรวจค่าน้ำตาลในเลือด ตรวจไขมันในเลือด เช็คการทำงานของตับ ไต หัวใจอ่ะค่ะ และสำหรับคนที่ชอบถูกนวด เค้าก็ยังมีบริการนวดตัว นวดศรีษะ นวดเท้า จากผู้ที่ได้รับการอบรม ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี มีใบประกาศจากโรงพยาบาลวัดหลวงพ่อเปิ่นด้วยนะคะ แถมพี่ๆ ที่มานวดให้กับเรา ก็ยังพูดเพราะ จะเอาหนักเบาแค่ไหนก็แจ้งพี่เค้าได้อ่ะค่ะ ^_^
นอกจากกิจกรรมนวดตัว เช็คสุขภาพแล้ว ทางทัวร์เค้าก็ยังมีอาหารให้เราได้ทานกันบนเรือด้วยนะคะ อย่างวันที่พิมไปก็จะมีส้มตำไทย แบบตำกันใหม่ๆ ครกต่อครกเลย มีก๋วยเตี๋ยวลุยสวนซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางโรงพยาบาล คือ เป็นผักสดผักลวก ราดด้วยน้ำจิ้มที่คล้ายน้ำราดไข่ลูกเขยอ่ะค่ะ แล้วก็มีผลไม้สด มีขนมไทยๆ อย่างใส่ไส้ ขนมกล้วย ข้าวเหนียวปิ้งด้วยนะคะ แต่ว่าอาหารพวกนี้ก็จะสลับสับเปลี่ยนกันไป ไม่เหมือนกันทีในแต่ละครั้งอ่ะค่ะ
ระหว่างล่องแพ เค้าก็จะมีการแวะที่ร้าน Coco D Natural ซึงอยู่ริมน้ำนครชัยศรีนั่นแหละค่ะ เป็นร้านที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP จากธรรมชาติหลากหลายมาก โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น สบู่ ครีมทาตัว ครีมทามือ แชมพู ครีมนวด ที่ทำจากน้ำมันมะพร้าวนะคะ ซึ่งพิมแว๊บ ๆ ไปดูแล้ว หลายอย่างน่าสนใจ น่าซื้อกลับไปฝากแม่ ฝากน้องมากๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ซื้อ เพราะตอนกำลังจะเดินเลือก เจ้าหน้าที่แพเดินมาบอกว่าให้รีบนิดนึง แบบว่าผักตบชวากอใหญ่มากก..ก.ก.ก มันไหลตามน้ำเข้ามาปิดทางเดินแพ หากไม่รีบ เราจะล่องแพต่อไปไม่ได้ พิมก็เลยต้องตัดใจวางตะกร้าลง แล้วรีบกลับไปที่แพอ่ะค่ะ - -" แต่ก็ไม่เป็นไรเน๊าะ โอกาสหน้าเรายังมีค่ะ ^_^
ข้อมูลเพิ่มเติมร้าน Coco D Natural >> คลิ๊กที่นี่นะคะ <<
และเมื่อล่องแพเสร็จ จุดหมายถัดไปของเราก็คือ ตลาดเก่าก๊กพระยานะคะ ...... ตลาดเก่าก๊กพระยาจะอยู่ใกล้ๆ กับตลาดน้ำลำพญาค่ะ ห่างกันไม่มากประมาณ 600 เมตรเท่านั้นเอง เดินถึง ปั่นจักรยานก็ถึง ^_^ ซึ่งตลาดแห่งนี้เนี่ย ถือว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของชุมชนลำพญาด้วยนะคะ ตลาดเก่าก๊กพระยาเดิมเป็นชุมชนชาวจีนโบราณและชาวมอญที่ต่างอพยพมาจากที่อื่น แล้วมาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปี 2411 อ่ะค่ะ ซึ่งตลาดที่นี่เนี่ยสมัยก่อนจะครึกครื้นมาก แต่ด้วยวันเวลาที่ผ่านไป อะไรก็เปลี่ยนไปเน๊าะคะ ทุกวันนี้ตลาดเก่าก๊กพระยามีลักษณะเป็นชุมชนเก่าแบบชาวบ้านๆ ที่เงียบๆ มีบ้านเรือนแบบดั้งเดิมที่ปลูกเรียงรายติดต่อกันคล้ายห้องแถว มีร้านค้าเก่าๆ เช่น ร้านทำทอง ร้านขายทอง ร้านตัดเสื้อ ร้านขายของจิปาถะ ร้านขายหมอนมุ้งเสื่อ ผ้าห่มผ้าถุง เสื้อคอกระเช้ารวมกันประมาณสักสิบกว่าร้าน ......... คือดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ในความเก่าในความเงียบ ก็แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ชวนมองชวนหลงใหลมากเลยค่ะ
ที่ตลาดเก่าก๊กพระยา นอกจากจะเป็นตลาดที่ให้เราเข้าไปชื่นชมกับบรรยากาศในสมัยเก่าๆ แล้ว ก็ยังมีโฮมสเตย์ที่ชื่อว่า กุลนทีโฮมสเตย์ด้วยนะคะ เป็นโฮมสเตย์ที่ใช้บ้านเก่าอายุร้อยกว่าปีมาปรับปรุง สวยงามและน่าอยู่มากเลยค่ะ ที่สำคัญราคาไม่แพงเลยนะคะ รวมอาหารเช้าแล้ว คนละแค่ 350 บาท ถ้ามา 3 คนก็เพียงแค่พันเดียวเท่านั้นเองค่ะ ^_^
รายละเอียดเพิ่มเติม + ติดต่อกุลนทีโฮมสเตย์ >> คลิ๊กที่นี่เลยค่ะ <<
หนึ่งในอาหารเช้าที่ทางโฮมสเตย์จะนำมาเสริฟให้แก่เพื่อนๆ ที่ไปพัก ก็คือ ข้าวหมูแดงเจ้าเก่าของนครปฐมที่ขายมากว่า 40 ปี รสชาติไม่หวานมาก แต่หอม กลมกล่อม อร่อยเลยทีเดียวค่ะ
(เตียงในภาพบน มีมาพร้อมๆ กับบ้านหลังนี้ สิริอายุรวมแล้วก็ร้อยกว่าปีค่ะ)
ที่ด้านหน้าของโฮมสเตย์ ก็จะติดกับคลองลำพญา ซึ่งน้ำในคลองยังใสสะอาดมาก ระหว่างที่พิมออกไปเดินเล่นที่ริมคลอง ก็เห็นปลาเสือตอหลายตัว ปลาตะเพียนทองเป็นฝูง ๆ มาว่ายเล่นอยู่ตรงท่าน้ำด้วยอ่ะค่ะ ^_^ ซึ่งแม่น้ำไหนที่ยังมีปลาเสือตออยู่ แปลว่าแม่น้ำนั้นยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ และยังมีความใสสะอาด เพราะปลาเสือตอจะอยู่ในน้ำที่สะอาดจริง ๆ เท่านั้นนะคะ
และตรงด้านหน้าที่ติดกับริมน้ำ ก็จะมีทางเดินยาวเลียบริมคลองค่ะ เช้าๆ ก็จะมีพระเดินมาบิณฑบาตร ใครที่ไปพักที่โฮมสเตย์แห่งนี้ เช้าๆ ก็ออกมาใส่บาตรได้ที่หน้าบ้านเลยค่ะ ดีงามมากๆ ^_^ (อาหารใส่บาตร ให้ทางโฮมสเตย์จัดไว้ให้ได้ หรือไม่ก็จะซื้อเป็นของแห้งมาใส่บาตรก็ได้ค่ะ) และหลังจากใส่บาตรเสร็จ หากเพื่อนๆ ไม่รู้จะทำอะไรดี ก็สามารถปั่นจักรยานเล่น ชมสวนผลไม้ นาบัว นาผักบุ้งแถว ๆ นั้นไปเรื่อย ๆ ก็ได้นะคะ หรือจะพายเรือชมวิวริมคลองลำพญาก็ดีไปอีกแบบค่ะ
นอกจากที่พักแล้ว ที่กุลนทีโฮมสเตย์เค้าก็ยังมีสินค้าที่ชาวบ้านนำมาฝากขายด้วยนะคะ เช่น ข้าวกล้องไรซ์เบอรี่ หมี่กรอบ ข้าวกรอบ ฝาชีสวยๆ สำหรับครอบอาหารกันแมลง พวงมาลัยดินปั้น ตะกร้าที่สานจากพลาสติคอ่ะค่ะ ราคาก็ไม่แพงเลย มีเงินแค่หลักสิบหลักร้อยก็ซื้อได้หลายอย่างอ่ะค่ะ ^_^
ถัดจากกุลนทีโฮมสเตย์ ในส่วนของตลาดเก่าก๊กพระยา ก็จะมีจุดที่น่าสนใจมากอีกจุดนึง คือ "บ้านภัณฑารักษ์" นะคะ ซึ่งพี่เจ้าของบ้านหลังนี้ เค้าเป็นคนที่ชอบเก็บสะสมของเล่น ของตกแต่งบ้านแบบชิ้นเล็ก ๆ น่ารักๆ จากทั้งในเมืองไทยและทั่วทุกมุมโลก พอเก็บสะสมไว้ได้เยอะ พี่เค้าก็เลยเปิดบ้านเป็นพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ให้ทุกคนได้เข้าไปชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอะไรสักบาทเลยอ่ะค่ะ ^_^
รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบ้านภัณฑารักษ์ >> คลิ๊กดูได้ที่นี่เลยจ้า <<
และหลังจากเดินชิม เอ๊ย.....ย เดิมชมบรรยากาศในบริเวณตลาดเก่าก๊กพระยากันจนเต็มอิ่มแล้ว ก็ได้ฤกษ์ที่เราจะต้องขยับขยายเดินทางกันต่อแล้วอ่ะค่ะ เพราะถ้าช้ากว่านี้เราคงจะไปถึงที่พักกันมึดแน่ ๆ เลย เนื่องจากระยะทางจากตลาดเก่าก๊กพระยาไปถึงที่พักของเรา ซึ่งอยู่แถวๆ อัมพวา แม้จะแค่ 90 กว่ากิโล แต่ดูจากเส้นทางแล้วน่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 1 ชม. ครึ่ง แน่ ๆ เลยค่ะ >_<
กนกรัตน์รีสอร์ท ... ที่พักของพิมในคืนนี้ เป็นรีสอร์ทริมน้ำอัมพวาที่ตกแต่งในสไตล์บาหลี แต่เป็นบาหลีแบบประยุกต์ที่เหมาะสมกับชีวิตบ้านสวนแบบไทยๆ เรานะคะ ... ตอนแรกพิมตั้งใจเอาไว้ว่าพอไปรีสอร์ทถึงพิมจะถ่ายรูป (แบบเยอะๆ) มาฝากเพื่อน ๆ ก่อน เพราะรีสอร์ทเค้าร่มรื่น ต้นไม้เยอะ น่าเดินชมสวนเป็นอย่างมาก
รายละเอียดเกี่ยวกับกนกรัตน์รีสอร์ท >> คลิ๊กดูที่นี่เลยค่ะ <<
แต่ปรากฎว่ากว่าจะไปถึงรีสอร์ท ก็ปาเข้าไป เกือบๆ 18.35 น. แล้วล่ะค่ะ แถมมีนัดกับเพื่อน ๆ ที่ไปด้วยกันว่าจะไปหาที่กินข้าวตอน 1 ทุ่ม ก็เลยทำให้พิมต้องรีบหอบกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องพักของพิม ซึ่งอยู่บนชั้น 2 เพื่ออาบน้ำอาบท่า เปลี่ยนเสื้อผ้า (เพราะเหม็นมาก) และก็เตรียมตัวไปหาที่ทานข้าวมื้อค่ำอ่ะค่ะ - -"
พูดถึงห้องพักของที่นี่ เค้าก็จะมีทั้งแบบเป็นห้องๆ และแบบเป็นบ้านหลังๆ ราคาก็แตกต่างกันไปนะคะ ซึ่งส่วนที่พิมมาพักนี่จะเป็นแบบห้อง วันธรรมดาคืนละ 950 วันหยุดเสาร์อาทิตย์ นักขัตฤกษ์ ราคาก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกนิดหน่อยค่ะ ^_^
ห้องพักของที่นี่เค้าจะค่อนข้างโล่งกว้าง โปร่งสบาย เฟอร์นิเจอร์ไม่เยอะเกินนะคะ แถมมีระเบียงให้เราออกมานั่งชมสวนจิบน้ำชาเบา ๆ อีกต่างหากค่ะ
ส่วนห้องน้ำก็เป็นแบบปูนเปลือยที่พิมชอบมากๆ กั้นระหว่างส่วนอาบน้ำกับส่วนขับถ่ายด้วยกระจกอย่างหนา พื้นห้องน้ำก็ฝังหินกันลื่นได้เป็นอย่างดีเลยนะคะ ที่สำคัญมากๆ คือ มีสายชำระ แถมน้ำก็แรงดี อันนี้คุณสามีพิมเค้าเลิฟมากๆ เลยค่ะ ^_^ (แต่ระดับของฝักบัว ต่ำมากไปนิดนึง)
และหลังจากสำรวจห้องพัก อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ... ประมาณ 1 ทุ่ม ก็ได้เวลาที่พิมและคุณสามีจะลงไปเจอเพื่อนๆ ในทีมตามที่นัดกันไว้แล้วล่ะค่ะ แต่ขอเม้าท์นิดนึงนะคะว่า พอก้าวลงจากบันไดรีสอร์ทปุ๊บ ฝนลงเม็ดปั๊บเลยค่ะ T__T แถมลงเม็ดหนักขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ร่มก็ไม่มี อะไรที่จะกันฝนได้ก็ไม่มี เพราะงั้นร้านอาหารที่เราจะไปขอฝากท้องกับเค้าในมื้อค่ำ ก็เลยเป็นร้านที่อยู่ใกล้รีสอร์ทมากกกกก ชนิดเดินไปสัก 30 ก้าวก็ถึง นั่นก็คือ ร้านชาวเลอ่ะค่ะ
(4 ภาพด้านบนนี้ จากกล้องคุณสามีพิม Putthabut Nuyung - ขอให้เครดิตเจ้าของภาพเค้าหน่อยค่า)
ร้านชาวเล เป็นร้านอาหารที่อยู่ติดกับริมคลองอัมพวาอ่ะค่ะ (คนละร้านกับที่คลองโคนน๊าา) บรรยากาศในร้านก็จะเป็นแบบสบายๆ มีที่นั่งทั้งในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งถ้าเป็นวันปกติที่ฝนไม่ตก ส่วนใหญ่ลูกค้าที่มาก็จะนั่งกันกลางแจ้งติดริมน้ำเลยนะคะ แต่วันที่พิมไป ฝนตกและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก เพราะงั้นเลือกที่นั่งในร่มดีที่สุดแล้วเน๊าะคะ ^_^
เมนูของที่นี่เค้าก็จะมีหลากหลายมากค่ะ ทั้งหมึก กุ้ง ปู เห็ด ผักต่างๆ มีทั้งแบบต้ม ผัด แกง ทอด ยำ พล่า และอื่นๆ ราคาก็จะเริ่มตั้งแต่จานละ 150 บาทไปจนถึงจานละ 7-800 บาท
ตอนแรกพวกเราก็ไม่รู้ว่าจะสั่งอะไรกินกันดีเน๊าะคะ แบบว่าตัวเลือกมันเยอะมาก แต่หลังจากประชุมและลงมติกันแล้ว (ฮ่าๆ) ก็สั่งมาทั้งหมด 8 อย่างค่ะ (แอบเยอะนิดนึง ฮ่ะๆ) ... ก็มีหอยหลอดผัดฉ่า หมึกผัดน้ำพริกเผา ปลาช่อนลุยสวน ไก่คั่วเกลือ ไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ แกงส้มชะอมกุ้งสด และก็กะหล่ำปลีผัดน้ำปลาค่า
ซึ่งรสชาติอาหารโดยรวมของที่นี่ บอกเลยค่ะว่าติดหวานมาก โดยเฉพาะพวกผัดต่างๆ และอีกอย่างคือ อาหารไหนที่ใส่ผักได้ เช่น ปูผัดผงกะหรี่ หมึกผัดพริกเผา ทางร้านก็จะใส่ผักมาให้อย่างเต็มที่ ทั้งแครอท ข้าวโพดอ่อน ถั่วลันเตา เกินกว่าครึ่งจาน ซึ่งโดยส่วนตัวพิมว่ามันไม่ค่อยเข้ากันอ่ะค่ะ แต่ก็กินจนหมดนะคะ เพราะว่าเสียดาย + หิว >_<
และก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน ... พิมก็ขอปิดท้ายด้วยไอศรีมเย็น ๆ อีกสักถ้วยนึง เพื่อที่จะได้นอนหลับฝันดี พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำกิจกรรมต่างๆ อีกมากมายค่ะ ^_^
ส่วนว่าวันพรุ่งนี้พิมจะไปทำกิจกรรมอะไรที่ไหน ไปทานอาหารร้านอะไรบ้าง ..... คอยติดตามชมกันในตอนต่อไปนะคะ สวัสดีค่า ^_^
รีวิว :: เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไปนอนเม้าท์กันที่อัมพวาดีกว่าค่ะ ตอนที่ 1 >> คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ <<
รีวิว :: เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไปนอนเม้าท์กันที่อัมพวาดีกว่าค่ะ ตอนที่ 2 >> คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ << ตอนนี้อยู่ตรงนี้นะคะ ^_^
รีวิว :: เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไปนอนเม้าท์กันที่อัมพวาดีกว่าค่ะ ตอนที่ 3 >> คลิ๊กที่นี่ได้เลยค่ะ <<
:: ขอบคุณ ::