หลายเดือนก่อนระหว่างทางที่ไปทำธุระ พิมเดินผ่านร้านขายหนังสือเก่าร้านนึง เห็นนิตยสารอาหารที่วางขายหน้าร้านหลายเล่มดูน่าสนใจดี เลยอดหยิบขึ้นมาดูไม่ได้
และในนิตยสารเล่มนึง ก็มีการพูดถึงแกงชนิดนึงซึ่งพิมไม่เคยเห็นและไม่เคยทำมาก่อน แต่พออ่านๆ ดู พบว่ามีวิธีการทำแลดูเรียบง่าย ส่วนประกอบก็มีแค่ฟักทอง เห็ด ใบแมงลักและปลาย่างเท่านั้น แต่ในขณะที่หน้าตาอาหารนั้นแลดูน่ากินมาก ก็เลยแอบสนใจค่ะ แต่พอกำลังจะเปิดดูรายละเอียดอื่นๆ ในเล่มเพื่อตัดสินใจว่าจะซื้อดีไหม ปรากฎว่ามีโทรศัพท์จากลูกค้าเข้ามา เลยรับและเผลอพูดคุยกับลูกค้าจนลืมเรื่องนิตยสารเล่มนั้นไปเลยค่ะ - -" ทำให้สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อหนังสือเล่มนั้นมา
จนกระทั่งวันเวลาผ่านไปประมาณ 1 อาทิตย์ แม่พิมเค้าซื้อฟักทองมาทำผัดฟักทองให้น้องชายพิม แล้วฟักทองมันเหลือ แม่พิมก็ถามว่าพิมจะเอาไปทำอะไรไหม ซึ่งพอแม่ถามพิมก็มายืนมองๆ ดูฟักทองค่ะ แล้วก็นึกในใจว่า เอ๊ะ !! มันคุ้น ๆ นะฟักทองเนี่ย วันก่อนเราว่าเราจะทำอะไรนะ แล้วพอนึกๆ ไปก็นึกได้ว่า อ่อ.อ.อ.อ.อ. ฟักทองที่พิมว่าคุ้น ๆ ก็คือฟักทองที่อยู่ในแกงฟักทองในนิตยสารวันก่อนที่พิมไม่ได้ซื้อมาไง - -" แล้วพอนึกได้ก็อยากกินซะงั้นค่ะ เลยต้องมานั่งนึกๆ ว่า ในวันนั้นที่เราอ่านเนี่ยอาหารชนิดนั้นมันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง และทำยังไงบ้างนะ
แล้วพอเริ่มนึกได้คร่าว ๆ ว่ามันมีส่วนผสมอะไร และมีวิธีการทำยังไงบ้าง ก็เลยแว๊บไปตลาดทันทีค่ะ (วันนั้นมีตลาดนัดท้ายหมู่บ้านพอดี) ไปหาซื้อปลาดุกย่าง เพราะว่าวัตถุดิบทั้งหมดเนี่ยพิมขาดแค่ปลาดุกย่างอย่างเดียว แล้วพอได้วัตถุดิบครบ พิมก็เริ่มลงมือทำล่ะค่ะ
และด้วยความที่มันทำง่าย ส่วนผสมก็ไม่เยอะ ทำออกมาครั้งแรกให้คุณสามีชิม คุณสามีก็ว่าโอเคเลยค่ะ ..... แต่ส่วนตัวพิมครั้งนั้นรู้สึกว่าจะใส่พริกน้อยเกิน หอมแดงก็น้อยเกิน เวลาแกงเสร็จแล้วก็เลยออกจะจืดไปสักนิด+ไม่ค่อยหอมเครื่องแกงสักเท่าไหร่ ครั้งต่อมาก็เลยปรับเพิ่มค่ะ ก็ดีขึ้นกว่าครั้งก่อน และก็ปรับมาเรื่อย ๆ จนมาเป็นแกงฟักทองกับปลาดุกย่างอย่างที่พิมจะนำมารีวิวให้เพื่อนๆ ดูกันในวันนี้นี่แหละค่ะ ^__^
หมายเหตุ สูตรที่พิมให้ไว้สำหรับเมนูนี้และทุกเมนู ขอให้คิดซะว่าเป็นแนวทางนะคะ เพราะเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้ชอบรสชาติเดียวกันพิม ดังนั้นแล้วหากเพื่อน ๆ ชอบรสแบบไหนก็ปรับเพิมลดส่วนผสมและเครื่องปรุงเอาได้ตามใจชอบเลยนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ปลาดุกย่าง แกะเอาแต่เนื้อไว้เป็นชิ้นใหญ่ 1 ตัว
- ฟักทอง 1 ชิ้น หนักประมาณ 250 กรัม
- เห็ดฟาง หรือเห็ดชิเมจิ 80 กรัม
- ใบแมงลัก 4-5 กิ่ง
- น้ำเปล่า 3 ถ้วยตวง
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ 7 เม็ด
- หอมแดง 5 หัว
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก 1 + 1/2 ชต. หรือราวๆ 25-30 กลีบ
- เกลือป่น 1/2 ชต.
- น้ำปลาร้า 2 ชต.
- น้ำปลา 1 ชต.
เพิ่มเติม :: รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ <<
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเราก็มาดูที่ฟักทองกันก่อนเลยนะคะ ..... สำหรับฟักทองเนี่ยให้เลือกแบบที่แก่ ๆ เนื้อแน่นๆ เหนียวๆนะคะ เพราะเวลาแกงออกมาแล้วจะอร่อยกว่าฟักทองที่เนื้ออ่อนและไม่เหนียวอ่ะค่ะ
ก็นำฟักทองมาปอกเปลือกออก แต่ไม่ต้องปอกหมดก็ได้ เหลือๆ ไว้บ้างเล็กน้อยเพื่อความสวยงาม ^_^ (พิมคิดว่าสวยนะคะ) แต่ถ้าใครไม่ชอบ จะปอกเหมดเลยก็ได้ค่ะ ปอกเสร็จก็หั่นเป็นชิ้นประมาณในภาพ ล้างน้ำให้สะอาด แล้วก็พักใส่กระชอนโปร่งๆ ไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
ต่อมาก็มาดูที่ปลาดุกย่างกันนะคะ สำหรับปลาดุกย่างเนี่ย พิมซื้อแบบที่เค้าย่างสำเร็จมาแล้ว เนื่องจากสะดวกรวดเร็วดี ... ซึ่งตัวที่พิมซื้อมาก็มีราคา 35 บาทนะคะ ซื้อมาก็แกะเอาแต่เนื้อ+หนังไว้เป็นชิ้นใหญ่ ส่วนก้าง กระดูก หัวปลา ก็ทิ้งไปค่ะ
เห็ด ..... ปกติพิมใช้เห็ดฟางค่ะ เพราะกลิ่นจะเข้ากับแกงชนิดนี้ดี แต่วันนี้ไม่มีเห็ดฟาง ก็ใช้เห็ดที่มีอยู่ คือเห็ดชิเมจิแทนนะคะ ...... ก็ตัดส่วนโคนที่ติด ๆ กันทิ้งไป ล้างน้ำให้สะอาดอย่างเบามือ แล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ใช้เห็ดฟาง ก็ให้เฉือนส่วนโคนที่สกปรกทิ้งไป แล้วผ่าไว้เป็นชิ้น หากดอกตูมใหญ่มากก็ผ่า 4 หากดอกเล็กก็ผ่า 2 นะคะ หรือหากดอกจิ๋ว ๆ เลย ก็ไม่ต้องผ่านะคะ แต่ถ้าใช้ดอกใหญ่มากอาจจะต้องเพิ่มปริมาณเห็ดจาก 80 กรัม เป็นสัก 100 กรัม เพราะเห็ดฟางดอกใหญ่ตูมสด มักจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเห็ดดอกเล็กอ่ะค่ะ
ใบแมงลัก .... ล้างสะอาดแล้วเด็กไว้เป็นช่อ ๆ เป็นใบ ๆ ค่ะ สำหรับใบแมงลักเนี่ย หากเพื่อนๆ ชอบจะใส่มากกว่านี้ก็ได้นะคะ ไม่ว่ากัน ^^
เมื่อเตรียมส่วนผสมหลัก ๆ เสร็จ ต่อมาก็มาเตรียมในส่วนของพริกแกงนะคะ
พริกแห้งเม็ดใหญ่ เลือกที่ไม่ขึ้นรา ไม่เน่า ไม่เสีย ไม่มีแมลงแทะ ล้างน้ำให้สะอาด ตัดเป็นท่อน กรีดเอาเม็ดออก แล้วแช่น้ำไว้จนนิ่มค่ะ
หอมแดง .. ปอกเปลือกแล้วซอยบาง ๆ จะได้ตำง่าย
เมื่อพริกแห้งที่แช่น้ำไว้นิ่มดี ก็จัดการเทน้ำทิ้ง แล้วบีบพริกให้แห้ง ...... จากนั้นจัดการตำพริก หอม กระเทียม เกลือ กะปิรวมกัน โดยตำพริก หอม กระเทียม เกลือให้ละเอียดก่อน ค่อยใส่กะปิเป็นอย่างสุดท้าย แล้วตำให้เข้ากันอีกที
ได้ออกมาเป็นพริกแกงสีตุ่น ๆ แบบนี้นะคะ ^_^
จากนั้นเอาน้ำใส่หม้อตั้งเตา เปิดไฟกลาง รอจนน้ำเดือดก็ละลายพริกแกงใส่ลงไป
ตามด้วยฟักทองที่เราหั่นชิ้นไว้ แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า ...... พอเดือดก็ตักน้ำแกงขึ้นมาชิมรสชาติว่าเค็มไหม ถ้ายังไม่เค็มค่อยเติมน้ำปลาเพิ่ม มากน้อยตามชอบ แต่ถ้าเค็มแล้ว (ด้วยน้ำปลาร้า ด้วยเกลือ) ก็ไม่ต้องใส่น้ำปลาอีกนะคะ ซึ่งตอนนี้อาจจะชิมแล้วรู้สึกว่ามันเค็มโดด ๆ ไม่กลมกล่อม แต่พอแกงไปสักพักจนฟักทองสุก ความหวานจากฟักทองจะค่อย ๆ ละลายมาปนกับน้ำแกง ทำให้น้ำแกงเรามีรสกล่อมกล่อมมากขึ้นค่ะ แต่โดยปกติแกงนี้จะให้อารมณ์แกงแบบทางภาคอิสาน ดังนั้นจะมีรสเค็มนำ หวานจากฟักทองตามมาเล็กน้อย และหอมใบแมงลัก หอมกลิ่นปลาร้าอ่ะค่ะ
หลังจากใส่ฟักทองลงในหม้อไปสักพัก ก็ตักฟักทองขึ้นมาดูว่าสุกหรือยัง หรือนิ่มตามที่ต้องการไหม
หากสุกนิ่มนุ่มได้ที่แล้ว ก็ใส่เห็ด กับปลาดุกย่างที่เราแกะเนื้อไว้แล้ว และใบแมงลักลงไปค่ะ
เพิ่มเติม :: ถึงตรงนี้ ก่อนใส่เห็ด ...... ลองตักน้ำแกงขึ้นมาชิมดูอีกทีก็ได้นะคะ ว่าโอเคไหม แต่หากเพื่อน ๆ คนไหนที่เคยชินกับแกงกะทิของภาคกลางซึ่งมีรสกลมกล่อม หอม หวานกะทิ อาจจะไม่ชินกับแกงพวกนี้ที่มีรสเค็มนำ และแทบไม่มีรสหวาน ซึ่งหากเพื่อน ๆ รู้สึกชิมแล้วไม่คุ้น อาจจะปรุงเพิ่มด้วยน้ำตาลทรายสักนิด ก็ตามชอบเลยนะคะ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใดค่ะ
รอจนน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
สุดท้ายก็ตักใส่ชาม เสริฟร้อน ๆ กับข้าวสวยสักจาน ปลาสลิดหรือปลาช่อนเค็มสักตัว ....... ขอบอกว่ามันรู้สึกดีมากมายค่ะ แบบว่าเผ็ด ๆ ร้อน ๆ แต่กินแล้วไม่หนักท้องมาก เพราะส่วนประกอบหลักเป็นผักกับปลา แถมไม่มีกะทิ ........ โอเคเลยอ่ะ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ทานปลาดุก อาจจะปรับเปลี่ยนเป็นปลาช่อนย่างแทนก็ได้นะคะ ส่วนปลาอื่นพิมยังไม่เคยลอง เลยตอบไม่ได้ว่าถ้าเอามาใช้แทนจะโอเคไหมอ่ะนะคะ
ยังไงก็ไปลองทำกันดูค่ะ เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่ทำไม่ยาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานแกงเผ็ด แต่ไม่ชอบทานแกงกะทิ แต่เบื่อแกงส้ม แกงป่าแล้ว ก็ลองมาทำแกงแบบนี้ดูนะคะ ^__^ ....... แล้วเจอกันใหม่เมนูหน้าค่ะ