วันนี้มาทำเมนูเอาใจคนรักปลาและรักสุขภาพกันหน่อยดีกว่าค่ะ กับเมนุ "ปลาอบสมุนไพร" จากครัวบ้านพิมค่า
เมนูนี้เนี่ย ..... มันเกิดขึ้นจากว่าพิมอยากทำเมนูจากปลาให้แม่ทาน เพราะช่วงนี้แม่พิมป่วยอยู่อ่ะค่ะ แต่แม่พิมเค้าเบื่ออาหารจากปลาที่รสจืดๆ กลิ่นจืดๆ เน๊าะคะ แบบว่าทำปลารสจืดๆ ทีไร แม่พิมกินข้าวไม่ค่อยจะหมดจานสักกะที >_< ส่วนคุณสามีพิมก็อยากทานอาหารปลาที่ไม่ใช่อาหารแนวทอด ผัด ปิ้ง ย่างบ้าง เป็นแบบอาหารปลาเพื่อสุขภาพอะไรทำนองนั้นอ่ะค่ะ ............ พิมก็เลยจัดการทำเป็นปลาอบสมุนไพรซะเลยค่ะ แล้วให้คุณสามีกินคู่กับผักสลัดสด กับน้ำจิ้มแซ่บๆ ส่วนแม่ก็กินกับผักต้มผักลวก ..... ได้ทั้งในเรื่องของสุขภาพและรสไม่จืด กลิ่นหอม ^_^ ถูกใจทั้งแม่และคุณสามีพิมมากๆ ....... พิมก็เลยขอหยิบเมนุนี้มาฝากเพื่อน ๆ กันสักหน่อยค่า
ป.ล. เมนูนี้จะว่าไป ถ้าตัดซีอิ๊วขาวออก ปรุงรสด้วยเกลือเพียงอย่างเดียว ก็ถือเป็น "อาหารคลีน" อาหารยอดนิยมของหนุ่มสาวในยุคสมัยนี้ด้วยนะคะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ปลากะพง 1 ตัว หนักประมาณ 6 ขีด
- รากผักชี 5 รากใหญ่
- ตะไคร้ 2 ต้น
- หอมแดง 5 หัว
- กระเทียมไทยแกะเปลือก 2 ชต.
- ขมิ้นชันยาว 1 นิ้ว
- ใบมะกรูดแก่ๆ 5 ใบ
- เกลือป่น 1 ชต.
- ซีอิ๊วขาว 1 ชต.
** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < **
:: วิธีทำ ::
เรามาดูที่ปลากันก่อนนะคะ ..... สำหรับปลาเนี่ย วันนี้พิมเลือกใช้เป็นปลากะพงค่ะ แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่ทานปลากะพงจะเปลี่ยนเป็นปลาอย่างอื่นก็ได้ ปลาที่พิมเคยใช้ก็เช่นปลาทับทิม ปลาช่อน อะไรประมาณนี้นะคะ
เราก็เอาปลามาขอดเกล็ด ผ่าท้อง ควักไส้ออก บั้งข้างละ 2 ที่ ล้างให้สะอาดตั้งแต่หัวจรดหางปลา รวมไปถึงตรงเหงือก ตรงพุงปลาด้วย แล้วพักไว้ในตะกร้าโปร่งให้สะเด็ดน้ำค่ะ
ต่อมาก็ให้เราหั่นหอม กระเทียม รากผักชี ขมิ้น ตะไคร้เป็นชิ้นเล็กๆ นะคะ
แล้วก็เอาทุกอย่างมาโขลกรวมกัน พิมแนะนำว่าให้โขลกตะไคร้ รากผักชี ขมิ้น และเกลือป่นรวมกันก่อน พอละเอียดก็ค่อยใส่หอม กระเทียมลงไปโขลกต่อ จะง่ายกว่าโขลกทั้งหมดรวมกันในทีเดียวเลยอ่ะค่ะ
เพิ่มเติม :: ถ้าปลาน้ำหนักเยอะกว่าที่พิมบอกไว้ หากจะใช้สมุนไพรเท่าเดิม ..ก็ได้นะคะ แต่จะต้องเพิ่มในส่วนของเกลือให้มากขึ้น ไม่งั้นจะจืดค่ะ
พอโขลกเสร็จ ก็ใส่ซีอิ๊วขาวลงไปในครก คน ๆ ให้พอเข้ากันนะคะ (หรือจะตักเครื่องออกมาใส่ชาม แล้วค่อยผสมกะซีอิ๊วขาวในชามก็ได้ค่ะ)
จากนั้นก็เอาเครื่องที่เราผสมไว้ มายัดใส่ในพุงปลา ส่วนที่เหลือก็ทาบนตัวปลาทั้งสองด้านให้ทั่ว ๆ เลยนะคะ
แล้วก็เอาตัวปลาวางบนใบมะกรูดที่รองด้วยแผ่นฟอยด์อีกที (เราจะใช้ฟอยด์ห่อปลาก่อนเข้าเตาอบ)
ก่อนจะห่อปลาด้วยแผ่นฟอยด์ที่รองไว้ ให้ได้ออกมาลักษณะแบบนี้ ...... ก็พักปลาไว้ประมาณ 10 นาที ... พอครบ 10 นาทีก็พลิกปลาด้านล่างขึ้นมาเป็นด้านบน (พลิกทั้งที่ยังห่อฟอยด์อยู่นั่นแหละค่ะ)
แล้วก็นำเข้าอบไฟบนล่าง 200 องศาเซลเซียส เป็นเวลาประมาณ 50 นาที (วางถาดตรงกลาง) ปลาเราก็จะสุกกำลังดีค่ะ
เพิ่มเติม :: ถ้าปลาตัวใหญ่กว่านี้ เช่นน้ำหนัก 8-9 ขีด ก็เพิ่มเวลาอบไปอีกสัก 10 นาทีนะคะ
เราก็เอาปลาออกจากเตา แล้วแกะฟอยด์ออก ....... ก็จะได้ปลาอบสมุนไพรที่สีสวยและหอมมากกกกกกก แบบนี้เลยค่า (ขอบอกว่าส่งกลิ่นหอมตั้งแต่อยู่ในเตาเลยค่ะ)
แล้วเราก็จัดเสริฟพร้อมกับผักสดๆ เช่น ผักกาดหอม ผักกาดแก้ว ผักสลัด ผักกาดขาว ... ถ้าชอบให้รสจัดเผ็ดเปรี้ยวมากขึ้นก็อาจจะทำน้ำจิ้มแซ่บๆ เพิ่มอีกสักถ้วย เท่านี้เราก็จะได้ปลาอบสมุนไพรที่ทั้งอร่อยและก็ดีต่อสุขภาพ ผู้ใหญ่ทานดี ผู้สูงอายุทานก็ได้ประโยชน์เยอะค่ะ ^__^
เพิ่มเติม :: น้ำจิ้ม ดูจากใน >> เมนูนี้ << นะคะ
การอบปลาแบบนี้เนี่ย แม้จะค่อนข้างใช้เวลามาก แต่ก็ทำให้ได้ปลาอบสมุนไพรที่เนื้อนุ่ม ชุ่มชื้น ที่สำคัญคือหอมมากเลยนะคะ หอมจนทำเอาคุณสามีพิมที่อยู่ในห้องเดินตามเข้ามาถึงในครัวเลยค่ะ ^_^ แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่สะดวกอบ ไม่มีเตาอบ จะใช้วิธีการห่อฟอยด์แล้วเอาไปย่างบนเตาแก๊ส เตาถ่านก็ได้เหมือนกันนะคะ แต่ถ้าไม่มีทั้งฟอยด์ ไม่มีทั้งเตาอบ เตาถ่าน จะเอาไปนึ่งแทนก็ได้นะคะ แต่ว่าจะไม่หอมและอร่อยเท่าอบอ่ะค่ะ
และสมุนไพรสีเหลือง ๆ ที่ทาอยู่บนตัวปลา ในท้องปลา เราก็สามารถทานได้ด้วยนะคะ รสชาติจะเค็มนิดๆ นึง คลุกข้าวกินนี่อร่อยมากเลยค่ะ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ตะไคร้ช่วยในเรื่องของการขับสารพิษและกรดยูริคออกจากร่างกาย กระเทียมช่วยลดคอเลสเตอรอล รักษาระดับน้ำตาลในเลือด หอมแดงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ส่วนขมิ้นชันก็ช่วยบรรเทาอาการปวดท้อง แน่น จุกเสียด และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ...... เพราะงั้นทานปลาหมดแล้ว อย่าลืมทานสมุนไพรที่อยู่กับปลาด้วยนะคะ
แล้วพบกันใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่า ^_^