วันนี้พิมมาชวนระลึกถึงความหลังในวัยเด็กผ่านอาหารกันอีกสักเมนูเน๊าะคะ กับ ข้าวผัดกากหมู ค่า
แต่ก่อนจะไปพูดถึงข้าวผัดกากหมู พิมก็มีเรื่องเม้ามอยให้ฟังกันนิดนึงเน๊าะ แบบว่าเป็นน้ำจิ้มๆ อ่ะค่ะ ^_^ พูดถึงสมัยตอนพิมยังเด็ก ๆ เนี่ย สมัยนั้นเนี่ยเป็นสมัยที่น้ำมันพืชแบบขวดยังไม่แพร่หลาย (ฟังดูโบราณมากเน๊าะ - -") เพราะงั้นเวลาที่ครอบครัวพิมจะทำอาหารจำพวกทอดหรือผัด ก็เลยต้องไปซื้อมันหมูจากตลาดมาเจียวเพื่อเอาน้ำมันหมูมาไว้ใช้ทำอาหารนะคะ
ทีนี้พอเราเอามันหมูมาเจียวแล้วเนี่ย สิ่งที่เราจะได้นอกจากน้ำมันหมู ก็คือ กากหมูอ่ะค่ะ (เด็ก ๆ สมัยนี้บางคนอาจจะไม่รู้จักกากหมูแล้วเน๊าะ - -") แล้วสมัยเด็ก ๆ เนี่ย พิมมีความรู้สึกว่า กากหมูมันเป็นของที่อร่อยมากกกกก ยิ่งกากหมูที่เพิ่งเอาขึ้นจากกระทะใหม่ ๆ จิ้มน้ำปลานิ๊ดดนึงงง แล้วเอาเข้าปาก โอ้โห เค็ม ๆ มัน ๆ ..... อร่อยอย่าบอกใครเลยอ่ะค่ะ
แล้วในสมัยนั้นเนี่ย นอกจากจะเอากากหมูมาโรยบนข้าวสวยร้อน ๆ แล้วเหยาะน้ำปลานิดนึงแล้ว แม่พิมก็มักจะเอากากหมูมาทำผัดพริกกากหมูรสชาติเผ็ด ๆ หวานๆ ใส่ผักบุ้งที่เก็บได้จากทุ่งนาบ้านด้วยนะคะ บางทีก็เอามาใส่ในไข่เจียว ผัดกับกะปิ รวมไปถึงเอามาทำเป็นข้าวผัดกากหมู อย่างที่พิมจะทำให้เพื่อน ๆ ดูกันในวันนี้ด้วยอ่ะค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ข้าวสวยหอมมะลิ 2 + 1/2 ถ้วย
- กระเทียมโขลก 2 ช้อนโต๊ะ
- รากผักชีโขลก 1/2 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนซอย 2 ช้อนโต๊ะ (หรือตามความเผ็ดที่ชอบ)
- กากหมู 1/2 ถ้วย
- น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
- ผักชีหั่นหยาบ ๆ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันหมู 2 ช้อนโต๊ะ
*** คำว่า ถ้วย = ถ้วยตวง / ช้อนชา = ช้อนตวงแบบช้อนชา / ช้อนโต๊ะ = ช้อนตวงแบบช้อนโต๊ะ ทั้งหมดสามารถอ่านรายละเอียดและวิธีการใช้งานแบบคร่าว ๆ ได้ >> ที่นี่ << นะคะ
*** ได้ประมาณ 2 จานตามในภาพด้านบน
:: วิธีทำ ::
พูดถึงข้าวผัดกากหมูแล้ว แน่นอนว่าก็ต้องมีกากหมูเน๊าะคะ ซึ่งกากหมูเนี่ย ถ้าเพื่อนๆ อยู่ในไทย ก็หาซื้อได้ตามแผงขายหมูในตลาดสดหรือตลาดนัดเลยค่ะ ถุงนึงก็ประมาณ 20-30 บาท ไม่เกินนี้นะคะ
แต่ว่าสำหรับคนที่อยากได้กากหมูแบบสดใหม่ ไม่อยากซื้อที่เค้าขาย หรือว่าหาซื้อกากหมูไม่ได้ เราก็จะต้องมาทำกากหมูกันเองอ่ะค่ะ ซึ่งวิธีทำกากหมูเนี่ยก็ไม่ยากเลย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไรมาก แค่มีกระทะก้นลึกหรือหม้อ กับตะหลิวสักอัน ก็เพียงพอแล้วค่า
เริ่มต้น ..... เราก็ไปที่ตลาดสดนะคะ ไปที่แผงขายหมู แล้วบอกคนขายหมูว่าเอามันหมุสำหรับไปเจียวน้ำมัน 1 กิโลค่า (จะซื้อมากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้ ตามสะดวกเลยค่ะ) แล้วลองถามที่แผงเค้าดูว่า เค้ามีบริการหั่นให้ไหมนะคะ ถ้ามีก็ให้เค้าหั่นให้เลย เราจะได้ไม่ต้องมาลำบากอ่ะค่ะ แต่ข้อเสียคือถ้าเค้าหั่นให้เนี่ย ส่วนใหญ่เค้าจะหั่นด้วยเครื่อง มันจะมีขนาดชิ้นมาตราฐานของเค้า เราไม่สามารถไปบอกเค้าได้ว่าให้หั่นขนาดชิ้นกว้าง*ยาวเท่าไหร่นะคะ
แต่ว่าถ้าร้านเค้าไม่มีบริการ หรือเราอยากจะหั่นเอง ... หลังจากถึงบ้านแล้ว ก็ให้เราเอามันหมูทั้งชิ้นไปล้างให้สะอาด เสร็จแล้วก็หั่นไว้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาดประมาณสัก 1.5 * 1.5 ซม. ตามภาพด้านล่างนี้นะคะ
จากนั้นก็เอามันหมูใส่ลงในกระทะก้นลึก หรือจะใช้เป็นหม้อก็ได้ เติมน้ำเปล่าไปประมาณ 1 ถ้วยตวงค่ะ (ราว ๆ 240 - 250 มิลลิลิตร) คนด้วยตะหลิวพอมันหมูเข้ากับน้ำ แล้วก็ยกขึ้นตั้งบนเตาไฟ โดยใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงนะคะ
พอน้ำในกระทะเริ่มเดือด ก็หรี่ไฟลงเป็นไฟกลางค่ะ ผ่านไปสักพักประมาณ 10 นาที น้ำในกระทะจะเริ่มแห้ง แล้วมันหมูก็จะเริ่มคายน้ำมันออกมานะคะ .... ช่วงนี้ก็จะมีมันหมูระเบิด กระเด็นโป๊ะเป๊ะบ้าง ก็ให้ระวังนิดนึงค่ะ อาจจะใช้ที่กันน้ำมันกระเด็น ที่เป็นตะแกรงตาถี่ ๆ ปิดปากกระทะ หรือใช้ฝาหม้อปิดหม้อ ก็ช่วยได้อยู่นะคะ ช่วงนี้ก็เดินมาคนเป็นระยะ ๆ ไม่จำเป็นต้องคนตลอดอ่ะค่ะ
แล้วพอผ่านไปอีกสักประมาณ 20 กว่านาที มันหมูในกระทะจะมีขนาดเล็กลงมาก และเริ่มกลายเป็นสีเหลืองนะคะ เป็นสัญญาณว่าใกล้ใช้ได้แล้ว (จากมันหมู จะกลายเป็นกากหมูแหละ) ตรงนี้หลายคนอาจจะกังวลว่าต้องให้เหลืองมากน้อยแค่ไหน ถึงจะตักกากหมูขึ้นมาได้ ก็ง่าย ๆ เลยค่ะ ให้เราดูที่น้ำมันในกระทะนะคะ ตอนที่เราเจียวแรก ๆ เนี่ย รอบ ๆ มันหมูจะมีฟองน้ำมันขนาดใหญ่ปุด ๆ ออกมา แต่พอเราเจียวไปเรื่อยๆ ฟองก็จะมีขนาดเล็กลง ๆ ..... จุดที่บอกว่ามันหมูของเราจะใช้ได้ พร้อมจะเป็นกากหมู ตักขึ้นมาแล้วจะกรอบจริง ๆ ก็คือ จะต้องไม่มีฟองออกมาจากมันหมูแล้วอ่ะค่ะ
อย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ ...... ซึ่งเมื่อได้ตามภาพนี้แล้ว ก็ใช้กระชอนหรือทัพพีที่มีรู ตักกากหมูขึ้นใส่ไว้ในตะแกรง พักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันอ่ะค่ะ และพอกากหมูเย็นแล้ว ถ้ายังไม่ได้กินทันทีก็เอาใส่ถุงมัดปากไว้ให้แน่น จะยังกรอบได้หลายวันอ่ะค่า #แต่กากหมูร้อนๆจิ้มน้ำปลานี่อร่อยสุดยอดเลยนะคะ ^_^
ทีนี้พอเราได้กากหมูมาแล้ว เราก็จะมาผัดข้าวผัดกันต่อเลยค่า
ก็ให้เราตั้งกระทะบนเตานะคะ เปิดไฟค่อนไปทางแรงหน่อย ใส่น้ำมันลงไป พอน้ำมันร้อนก็ใส่กระเทียมกับรากผักชีลงไปผัดให้หอมค่ะ
จากนั้นก็ใส่ข้าวสวยหอมมะลิลงไปเลยนะคะ แล้วก็ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส ซอสปรุงรส น้ำตาลอีกนิดหน่อย
*** ถ้าใครอยากใส่ไข่ หลังจากผัดกระเทียมรากผักชีหอมแล้ว ก็ตอกไข่ใส่ลงไปสัก 1-2 ฟองค่ะ ยี ๆ ไข่ด้วยปลายตะหลิวให้ไข่แดงกับไข่ขาวเข้ากัน แล้วรอจนไข่สุกประมาณสัก 70% ก็ค่อยใส่ข้าวลงไปอ่ะค่ะ
ตามด้วยกากหมู กับพริกขี้หนูสวนนะคะ
*** จะใส่หรือไม่ใส่พริกก็ได้ แต่ว่าสำหรับคนที่กินเผ็ดได้ พิมแนะนำว่าให้ใส่ค่ะ เพราะมันจะช่วยเพิ่มรสชาติให้ข้าวผัดกากหมูของเราอร่อยมากขึ้น แล้วก็ไม่เลี่ยนด้วยจ้า
ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วชิมรสตามชอบ ถ้าหากรู้สึกว่าเค็มน้อยไป ก็เติมน้ำปลาหรือซอสปรุงรสไปได้อีกหน่อยนะคะ
สุดท้ายก็โรยผักชี แล้วผัดให้เข้ากันอีกที ก็ปิดไฟเตาได้เลยจ้า
พอถึงเวลาทานก็ตักข้าวผัดใส่จาน เสิร์ฟพร้อมมะนาวสัก 1 ซีก และก็พริกน้ำปลาสัก 1 ถ้วยเล็ก ๆ นะคะ หรือถ้าใครมีพวกแตงกวา หั่นเป็นชิ้น ๆ วางเคียงไปในจานข้าวก็จะดีงามมากค่า
สำหรับใครอยากเพิ่มผักลงไป ใส่เป็นคะน้าได้นะคะ โดยเฉพาะก้านคะน้ากรอบ ๆ หวาน ๆ เนี่ย เข้ากันดีเลยค่ะ แต่ว่าวันนี้พิมอยากทำแบบดั้งเดิมที่พิมเคยกินตอนเด็ก ๆ ให้ดู ก็เลยไม่ได้ใส่อะไรมากนะคะ ^_^
ยังไงก็ลองไปทำทานกันดูน๊าาาา แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไปจ้า