นอกจากอาหารไทย จะว่าไปแล้วอาหารชาติอื่น ๆ พิมก็ชอบนะคะ ^_^ โดยเฉพาะอาหารจีนเนี่ย เป็นอีกหนึ่งอาหารที่พิมเลิฟฟฟฟฟ เลยค่ะ
ส่วนนึงอาจจะเพราะว่าพิมมีพ่อเป็นคนจีนที่มาจากเมืองจีน สมัยก่อนบ้านพ่อพิม (พิมเรียกว่าอาป๊า) อยู่แถว ๆ เยาวราช ตอนเด็ก ๆ สักประมาณ ป.5 - ป.6 พิมไปเดินเล่นแถวนั้นบ่อย ได้กินอาหารจีนจากแถวนั้นบ่อย ก็เลยมีช่วงชีวิตนึงที่ซึมซับกับรสชาติของอาหารจีนมานะคะ
สำหรับเมนูอาหารจีนที่พิมชอบมาก ถ้าไม่นับพวกผัดผักแล้วก็คงจะเป็นเมนูสามชั้นตุ๋นผักกาดแห้ง หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า เคาหยุก / เคาหยุก นี่แหละค่ะ จำได้ว่าสมัยเด็ก ๆ ป๊าเคยทำให้กินอยู่หลายครั้ง แต่ตอนนั้นพิมก็ได้แค่กิน ไม่ได้รู้ว่าเค้าทำกันยังไง จนกระทั่งป๊าพิมไม่อยู่ แล้ววันนึงที่พิมอยากกินอีก พิมก็เลยต้องมาเรียนรู้วิธีการทำด้วยตัวเอง แต่ว่าวิธีการทำและรสชาติ พิมก็อ้างอิงจากที่ป๊าพิมเคยทำ แล้วก็มาประยุกต์ให้ง่ายขึ้นนะคะ
พูดถึงวิธีการทำเคาหยกแล้ว แต่ละบ้านก็อาจจะมีวิธีทำที่แตกต่างกันไปในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะนั้นแล้วถ้าบ้านใครทำไม่เหมือนที่พิมทำ หรือมีส่วนผสมที่แตกต่างกันไปบ้างในบางอย่าง ก็ไม่ใช่ว่าพิมทำผิด หรือใครทำผิด ... ขอให้มีส่วนผสมที่ใช่ มีผลลัพธ์ออกมาคล้าย ๆ กัน ได้รสชาติที่ถูกปาก พิมว่าก็ใช้ได้แล้วค่ะ
ไม่พูดเยอะเน๊าะ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันดีกว่าเน๊าะคะ ^_^
*** นิ๊ดดดดดนึง ... สมัยที่ป๊าพิมทำ เค้าใช้วิธีเรียงหมูสามชั้นหั่นเป็นแผ่นบางที่ก้นชาม แล้วก็ใส่ผักกาดตุ๋นวางทับลงไป จากนั้นก็นำไปนึ่ง 4-5 ชม. จนหมูนุ่ม (วิธีนึ่งมักจะหั่นหมูเป็นชิ้นบางกว่านี้ หมูจะนุ่มช้ากว่าวิธีตุ๋นในหม้อ แต่ก็จะออกมาเป็นชิ้นสวยกว่า) เวลาจะกิน ก็หยิบชามเคาหยุกร้อน ๆ ออกมาคว่ำใส่จาน ก็จะเห็นหมูอยู่ด้านบนเล้วด้านล่างก็เป็นผักกาดตุ๋นค่ะ ซึ่งตอนนี้บ้างครั้งพิมก็ยังทำแบบนั้นอยู่ สลับกับแบบที่นำเสนอในวันนี้นะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- หมูสามชั้น (เลือกที่ชั้นไขมันมันน้อยๆ) 650 กรัม
- ผักกาดแห้ง (แบบในภาพ) 500 กรัม
- รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
- พริกชี้ฟ้าแดงสับหยาบ (ไม่เอาเมล็ด) 1 เม็ด
- ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ
- ซีอิ๊วดำหวาน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลกรวด/น้ำตาลทราย 4 ช้อนโต๊ธ
- น้ำมันงา 1 ช้อนโต๊ะ
- เหล้าจีน 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำซุป 2 - 2.5 ลิตร
- น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเรามาดูที่ผักกาดแห้งกันก่อน หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยิน หรือไม่เคยรู้จักผักกาดแห้งมาก่อน พิมก็เลยอยากจะเล่าให้ฟังนิดนึงค่ะ
ผักกาดแห้ง .. ทำมาจากผักกาดเขียวนะคะ (ผักชนิดเดียวกับที่เอามาทำผักกาดดอง) สมัยก่อนตอนที่แม่พิมยังอยู่ หน้าหนาวทีไรพิมกับแม่จะช่วยกันทำทั้งผักกาดดองและผักกาดแห้งเก็บไว้กินตอนหน้าอื่น ๆ เกือบทุกปีเลยค่ะ
วิธีทำผักกาดแห้งก็ไม่ยุ่งยากอะไร เมื่อเราได้ผักกาดเขียวมา ให้เราเอาไปล้างทำความสะอาดพวกฝุ่นผงออก แล้วก็ตากแดดแรง ๆ สัก 1 วัน จนผักเหี่ยวนะคะ จากนั้นต้มเกลือ 1 กก. กับน้ำเปล่า 9 กก. จนเดือด ตั้งทิ้งไว้ พอน้ำเกลือเย็นก็ใส่ผักกาดลงไปแช่ไว้ประมาณ 2-3 วัน จากนั้นก็เอาไปตากแดดจัด ๆ ตั้งแต่เช้ายันเย็น ประมาณสัก 10-15 วัน จนผักแห้ง และขึ้นเกล็ดเกลือ ก็ใส่ถุงเก็บไว้ใช้ได้หลายเดือนเลยค่ะ
สำหรับผักกาดแห้งในภาพ เป็นผักกาดแห้งที่พิมซื้อมาจากตลาดกิมหยง ที่หาดใหญ่ (ซื้อผ่าน Lazada อีกที) พิมจำราคาไม่ได้แล้วว่ากิโลละกี่บาท แต่เค้าตากมายังไม่ค่อยแห้งดี ถ้าสมมติว่าให้ใช้ผักกาดแห้งที่ตากแห้งจริง ๆ (แบบหักได้) ก็ใช้สัก 350-400 กรัมก็พอนะคะ)
เมื่อได้ผักกาดแห้งมาแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือล้างผักกาดแห้งด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดค่ะ น้ำแรกจะขุ่น ๆ หน่อย ให้เปลี่ยนน้ำล้างไปเรื่อย ๆ ประมาณ 6-7 ครั้ง จนน้ำใสและผักกาดแห้งแทบไม่เหลือความเค็ม (ลองเอามือฉีก มาชิมดู) ก็เทน้ำพอท่วมผักกาด แล้วแช่ไว้ประมาณสัก 30 นาทีนะคะ
พอผักนุ่ม ก็บีบน้ำให้แห้ง หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วพักไว้ก่อนค่ะ
ต่อมา .. มาดูที่หมูสามชั้น เราจะเลือกใช้สามชั้นที่มันน้อย ๆ และก็มีความหนามากนิดนึงนะคะ
ให้เราเอาสามชั้นทั้งชิ้นไปต้มให้สุก ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีค่ะ
พอสามชั้นสุก ก็ตักขึ้นใส่ชาม พักให้หายร้อน แล้วทาด้วยซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะให้ทั่ว ๆ ชิ้นหมูนะคะ
จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันให้ด้านนอกเหลือง หรือใครจะใช้วิธีอบในเตาอบก็ได้ เอาตามสะดวกเลยค่ะ ส่วนพิมใช้วิธีการทอดในหม้อทอดไร้น้ำมันใบที่ใช้อยู่ประจำ ตั้งอุณหภูมิ 200 องศา แล้วก็ทอดเป็นเวลาประมาณ 30 นาทีนะคะ
พอครบเวลาก็จะได้หมูสามชั้นทอดออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้ .... ถึงตรงนี้ก็พักหมูไว้ให้หายร้อนนิดนึงค่ะ
ระหว่างรอหมู พิมก็อยากเล่าถึงข้อดีของการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันทอดหมูสามชั้นนิดนึงนะคะว่า นอกจากเราจะไม่ต้องเสียตังค์หลายสิบบาทเป็นค่าน้ำมันที่ใช้ทอดแล้ว (ปกติพิมใช้น้ำมันรำข้าวในการทอด และทอดแบบครั้งเดียวทิ้ง) ด้วยระบบของเครื่องก็ยังช่วยรีดน้ำมันส่วนเกินจากสามชั้นออกมาอีกด้วย อย่างในภาพนี่ก็คือน้ำมันที่รีดได้จากสามชั้น 650 กรัม .... ก็เยอะพอดูเลยค่ะ ^_^
โอเค ... พอหมูสามชั้นของเราเย็นลงพอที่จะหยิบจับแบบเต็ม ๆ มือด้แล้ว เราก็เอาหมูมาหั่นเป็นชิ้นแบบนี้ หนาประมาณชิ้นละ 1 ซม. หั่นเสร็จก็พักไว้ก่อนนะคะ
ต่อมาให้เราหยิบครกมาค่ะ หรือถ้าใครข้อไม้ข้อมือไม่ค่อยดีแบบพิม หรืออยากได้ความสะดวกนิ๊ดดนึง ก็หยิบโถปั่นของแห้งออกมาเลยจ้า ... ใส่กระเทียม รากผักชี พริกไทยป่นลงไป แล้วก็เอาไปปั่นแบบหยาบ ๆ นะคะ (เรียกส่วนนี้ว่า สามเกลอ)
จากนั้นเมื่อเตรียมเครื่องทุกอย่างพร้อม เราก็มาลงมือปรุงกันได้เลยค่ะ
เริ่มจากตั้งกระทะบนเตา ใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟกลาง ใส่สามเกลอ และพริกชี้ฟ้าแดงสับ ลงไปผัดนะคะ
พอเครื่องหอมดี เราก็ใส่ผักกาดแห้งตามลงไปเลยค่ะ ผัดให้เข้ากัน แล้วก็ผัดไปเรื่อย ๆ อย่างใจเย็นประมาณ 5 นาที
จากนั้นเติมซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซอสหอย น้ำตาล น้ำมันงา เหล้าจีนลงไป
ผัดต่อจนผักส่งกลิ่นหอมและมีสีเข้มขึ้น (ประมาณ 5 นาที)
ก็เติมน้ำเปล่าลงไป 750 มิลลิลิตรนะคะ พอน้ำในกระทะเดือด ก็ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วตุ๋นผักไปเรื่อย ๆ ประมาณ 20 นาที (ไม่ต้องปิดฝา) หรือจนกระทั่งน้ำในกระทะแห้ง ก็ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
จากนั้นหยิบหม้อหุงข้าวออกมานะคะ ตักผักกาดตุ๋นส่วนนึงใส่ลงไปที่ก้นหม้อ ตามด้วยหมูสามชั้นที่หั่นไว้ และปิดด้านบนด้วยผักกาดตุ๋นส่วนที่เหลือ ก่อนจะเติมซีอิ๊วดำหวาน และน้ำเปล่าที่เหลือลงไปค่ะ
แล้วก็นำไปตุ๋นด้วยการกดปุ่ม Cook เหมือนการหุงข้าวปกตินะคะ
ระหว่างที่ตุ๋น ... เมื่อเวลาผ่านไปสักประมาณ 1 ชม. 30 นาที ให้เราลองเปิดหม้อ แล้วตักน้ำซุปในหม้อขึ้นมาชิมรสว่าเป็นไปในทางที่เราชอบไหม ซึ่งปกติรสชาติของสามชั้นตุ๋นผักกาดแห้ง ยึดตามที่พิมเคยกินที่จีนและตามที่ป๊าพิมเคยทำให้กินแล้วพิมรู้สึกว่าอร่อย ก็จะเค็มนำแบบนัว ๆ และหวานตามนิด ๆ นึงค่ะ (นิดเดียวจริงๆ) ถ้าเรารู้สึกว่าขาดรสอันไหนไป หรืออยากเติมเค็มเติมหวานเพิ่ม ก็เติมได้ตามที่ชอบเลยนะคะ
พอครบ 2 ชม. เราก็จะได้หมูสามชั้นตุ๋นผักกาดแห้งออกมาหน้าตาประมาณนี้เลยค่ะ
ถึงเวลากินก็ตักส่วนที่เป็นผักกาดใส่ก้นชาม หยิบหมูสามชั้นไว้ด้านบน (ตอนหยิบหมูออกจากหม้อ ระวังนิ๊ดดดดนึง เพราะหมูนุ่มมากกกกกกแบบใช้ตะเกียบคีบเบา ๆ ก็ขาดได้เลยนะคะ ^_^) แต่งหน้าด้วยผักชีเล็กน้อย ก็เสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ ได้เลยค่ะ
เมนูนี้เนี่ย เราจะทานแบบนี้เลยก็ได้ ถ้าให้ดีก็กินแกล้มกับผักชีซะหน่อย เข้ากันมากนะคะ หรือไม่ถ้าใครชอบแซ่บ ๆ ก็ตำน้ำจิ้มพริกเหลืองกระเทียมมากินคู่กันแบบน้ำจิ้มขาหมู ก็อร่อยไปอีกแบบค่ะ
ที่สำคัญ ... เมนูนี้เนี่ย ต้องกินแบบร้อน ๆ เท่านั้นนะคะ ถ้าสมมติว่ากินในมื้อเดียวไม่หมด ก็แบ่งใส่กล่องเล็ก ๆ เอาไว้ โดยตักผักกาดตุ๋นไวด้านล่าง วางชิ้นหมูไว้ด้านบน ปิดฝากล่อง เอาเข้าแช่ตู้เย็นไว้ พอเวลาจะทานก็ค่อยเอาไปเวฟให้ร้อน ๆ ออกมาอร่อยเลยค่า ... ยังไงลองไปทำกันดูน๊า แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไป สวัสดีค่ะ ^_^
:: เพิ่มเติม ::
ขอบคุณผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ที่ทำให้เมนูนี้อร่อยได้แบบง่าย ๆ นะคะ เริ่มจาก
- หม้อทอดไร้น้ำมัน Summer Magic Oven ดูรีวิวได้ >> ที่นี่ << สั่งซื้อได้ที่ >> 2010 Megastore <<
- เครื่องปั่น Summer Magic Blue ดูรีวิวได้ >> ที่นี่ << สั่งซื้อได้ที่ >> 2010 Megastore <<
- และหม้อหุงข้าว Summer Magic Diamond แบบ 1.8 ลิตร ดูรีวิวได้ >> ที่นี่ << และสั่งซื้อได้ >> 2010 Megastore << ค่ะ ^_^