header



 เปลี่ยนจากหอยแครงลวก วันนี้เรามาทำหอยแครงอบกันบ้างค่ะ  หอยแครงสด ๆ หวาน ๆ หอมกลิ่นใบมะกรูด จิ้มกับน้ำจิ้มทะเลแบบทำใหม่ ๆ รสชาติแซ่บเวอร์เลยค่ะ

ป่ะ .... ไปดูส่วนผสมและวิธีทำที่ง่ายแสนง่ายกันเลยค่า

roasted cockle 03

roasted cockle 05

roasted cockle 07

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- หอยแครง  1  กิโล
- ใบมะกรูดแก่ สีเขียวเข้ม ใบใหญ่  10 ใบ
- ข่า ตะไคร้ ตามชอบ (แต่เผอิญว่าวันนี้ไม่มีค่ะ -*-) 

- กระเทียมไทยแกะเปลือก 2 ช้อนโต๊ะ 
- รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกขี้หนูสวนสีเขียวแดง ปน ๆ กัน 1 +1/2  ช้อนโต๊ะ  (ถ้าชอบเผ็ดมากกว่านี้ ก็ใส่เพิ่มได้)  
- น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำตาลทราย 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ 

roasted cockle 14

:: วิธีทำ ::

เริ่มแรกเรามาดูวิธีล้าง #หอยแครง กันก่อนเน๊าะคะ    เพราะถ้าล้างไม่ดีเนี่ย  เวลาแกะหอยออกมาแล้วเจอโคลนในตัวหอย  จะกินไม่อร่อยอ่ะค่ะ  ซึ่งวิธีล้างหอยแครงก็ง่ายๆ  ไม่มีอะไรยุ่งยากเลย  แต่อาจจะต้องเปลืองน้ำสักหน่อยนะคะ   ^_^

วิธีล้างก็คือ ..... ให้เราเอาหอยแครงใส่กาละมัง >> เทน้ำสะอาดตามลงไป >>   แล้วเอาสองมือกอบหอยขึ้นมาถู ๆ  กัน   >>  ถูไปถูมาจนน้ำในกาละมังขุ่นดำ  (น้ำแรก ๆ จะดำ เหมือนน้ำโคลน)   >>  ก็เทน้ำทิ้ง  >>  ใส่น้ำใหม่ลงไป  แล้วก็กอบหอยมาถู ๆ กันเหมือนเดิม สลับกับการเปลี่ยนน้ำ >>  จนน้ำในกาละมังใส ก็ใช้ได้อ่ะค่ะ   

และพอล้างหอยจนน้ำใสแล้ว ขั้นตอนต่อไป >>   ก็ให้เราใส่หอยลงในกาละมังเดิม  >>   เติมเกลือป่นลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะ ต่อหอย 1 กิโล  >>  แล้วเติมน้ำพอท่วม >>  ทิ้งไว้สักประมาณ 1 ชม. นะคะ  (วิธีนี้หอยจะไม่ตาย)  เพื่อให้หอยแครงคลายดินโคลนที่อมไว้ออกมานะคะ   หรือถ้ารีบ ก็ใช้วิธีทุบพริกขี้หนูเผ็ด ๆ ลงไปสัก 6-7 เม็ด แทนเกลือก็ได้  >>  แล้วพักไว้ประมาณ 30 นาทีอ่ะค่ะ   แต่วิธีนี้หอยจะตาย ทำเสร็จต้องเอาหอยมาทำกินเลยนะคะ   ^_^ 

ทีนี้พอแช่หอยในน้ำครบเวลา  >>  ก็เอามือลงไปคน ๆ หอยที่อยู่ในกาละมังเพื่อให้คายดินโคลนทรายที่เหลือออกมา >>   แล้วก็กอบเอาหอยไปใส่ไว้ในอีกกาละมังนึง  >>   ก่อนจะเทน้ำในกาละมังเดิมทิ้งไปนะคะ >>   แล้วก็ล้างหอยอีกสัก 2-3 น้ำ  จนน้ำใส ก็เทหอยใส่ตะแกรงพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ  เป็นอันว่ากระบวนการล้างหอยของเรา เสร็จเรียบร้อยแล้วอ่ะค่า

*** ถ้าต้องการให้เปลือกหอยขาว ๆ ให้ใช้แปรงถูทีละตัวนะคะ  แต่พิมคิดว่ามันไม่จำเป็นต่อการกิน ก็เลยไม่ได้ทำอ่ะค่ะ

roasted cockle 11

roasted cockle 12

ต่อมาก็ถึงขั้นตอนของการอบหอยล่ะนะคะ   ซึ่งเมื่อก่อนพิมก็จะอบหอยในเตาอบที่ทำขนมนี่แหละค่ะ แต่ว่ากลิ่นของหอยมันก็จะติดอยู่ในเตา  หลังอบเสร็จแล้ว ก็ต้องทำความสะอาด ดับกลิ่นกันยกใหญ่   ซึ่งพิมไม่ค่อยชอบเลย T___T   หลังๆ พิมก็เลยเปลี่ยนมาอบในหม้อทอดไร้น้ำมันแทนอ่ะค่ะ    แถมหม้อตัวที่พิมใช้  ยี่ห้อ Summer  รุ่น  Magic Chef   เค้ามีตะแกรงกลม  สำหรับทำอาหารประเภทคั่ว/อบที่ต้องพลิกกลับระหว่างทำมาให้ด้วย  พิมก็เลยยิ่งสะดวกเข้าไปใหญ่   หลัง ๆ จะอบหอย หรืออบอะไรประมาณนี้ พิมก็เลยใช้หม้อตัวนี้ตลอดนะคะ 

roasted cockle 15

วิธีอบหอยก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ  แค่ใส่หอยและใบมะกรูดใส่ลงไปในตะแกรงนะคะ   หรือถ้าเพื่อนๆ  มีสมุนไพรสดอย่างอื่น  เช่น  ข่า ตะไคร้  ใบกะเพรา ใบโหระพาก็ใส่ลงไปด้วยได้อ่ะค่ะ   แต่เลือกเอาที่กลิ่นมันเข้ากันนิดนึง  ไม่งั้นถ้าใส่พวกกลิ่นแรง ๆ ไปหลายอย่าง กลิ่นมันจะตีกัน  ออกมาแล้วอาจจะไม่ค่อยหอมอย่างที่ใจคิดก็ได้นะคะ ^_^

roasted cockle 16

roasted cockle 17

แล้วก็ปิดฝา  ปิดตัวล๊อคตะแกรงให้เรียบร้อย  ระหว่างที่หม้อทำงาน  หอยจะได้ไม่หลุดออกมากระโดดโลดเต้นอ่ะค่ะ ^_^

roasted cockle 19

จากนั้นก็ตั้งอุณหภูมิในการอบที่ 250 องศา  ไฟแรงสุดเลย  กดปุ่ม Stir  (หมุน)   และตั้งเวลาที่ 15 นาทีอ่ะค่ะ   แต่ถ้าใครชอบหอยแบบสุกไม่มาก ยังมีเลือด มากบ้าง น้อยบ้าง   ตั้งแค่ 8-10 นาทีก็พอนะคะ   (ถ้าใช้หม้อทอดตัวนี้ ไม่ต้องวอร์มเตาเหมือนเตาอบ) 

roasted cockle 20

แล้วก็ปล่อยให้หม้อทอด ทำงานไปค่าาา  

roasted cockle 21

พอครบเวลา  เราก็เปิดฝาหม้อ แล้วก็เปิดตัวล๊อคตะแกรงอบหอย

roasted cockle 27

เราก็จะได้หอยอบสมุนไพรออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ  ก็หยิบไปเทใส่จานได้เลยค่ะ

roasted cockle 28

แต่ทีนี้เนี่ย เรามีหอยอบแล้วเน๊าะ  แต่เรายังไม่มีน้ำจิ้มเลย เพราะงั้นเรามาทำน้ำจิ้มกันก่อนดีกว่านะคะ  ...... สำหรับคนที่จะทำน้ำจิ้มแบบโขลกเอาเอง  ก็ให้หยิบครกขึ้นมา ใส่รากผักชีหั่นลงไปโขลกให้ละเอียดก่อน  แล้วค่อยใส่กระเทียมกับพริกขี้หนูสวนตามลงไป  โขลกให้ละเอียดหยาบมากน้อยตามชอบ  แล้วตักออกมาใส่ชาม ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลทราย  คนให้เข้ากันดี  ก็ใช้ได้อ่ะค่ะ

ส่วนคนที่อยากจะทำน้ำจิ้มแบบไม่ต้องตำ ก็ให้หยิบอุปกรณ์จำพวกเครื่องปั่นขึ้นมานะคะ  (วันนี้พิมใช้เป็นเครื่องปั่นมือถือ Summer Magic Handy)    ใส่ส่วนผสมทุกอย่างลงไปในโถปั่น     แล้วก็เอาไปปั่นให้ละเอียดมากน้อยตามชอบเลยอ่ะค่ะ

*** รากผักชี หมายถึงส่วนที่เป็นรากขาวๆ  แล้วก็ส่วนโคนต้นเขียว ๆ (ยาวสัก 1 นิ้ว)  รวมกันนะคะ  ถ้าใครตัดมาแต่ส่วนรากขาว ๆ อย่างเดียว จะไม่หอมเท่ามีต้นเขียว ๆ มาด้วยอ่ะค่ะ

roasted cockle 22

roasted cockle 24

roasted cockle 25

แล้วเราก็จะได้ออกมาเป็นน้ำจิ้มทะเลแซ่บ ๆ ข้น ๆ  แบบในภาพด้านล่างนี้นะคะ 

roasted cockle 26

ถึงเวลากิน ก็จัดหอยแครงอบสมุนไพรใส่จาน แล้วก็เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มที่เราทำเอาไว้อ่ะค่ะ  ^_^ 

roasted cockle 03

หอยแครงอบจานนี้เนี่ย ด้วยความที่พิมได้หอยสด ๆ ตัวอ้วนๆ มา เนื้อหอยก็เลยหวานมากกกก  แถมด้วยความที่เราอบกับใบมะกรูด  กลิ่นใบมะกรูดก็เลยจะซึมเข้าไปอยู่ในเนื้อหอย ตัวหอย  หอยก็เลยหอมกลิ่นใบมะกรูดมากๆ  ด้วยอ่ะค่ะ   แล้วพอเราเอามาจิ้มกับน้ำจิ้มที่เราทำไว้ ที่แบบว่ารสเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ดกลมกล่อม  มันก็เลยยิ่งแซ่บบบบ แบบเข้ากั๊นนเข้ากันนะคะ 

ก็อยากให้เพื่อน ๆ ได้ไปลองทำกันดูค่ะ   แล้วจะพบว่าหอยแครงอบ ก็อร่อยไม่แพ้หอยแครงลวกเลย  ....... แล้วเจอกันใหม่ในเมนูถัดไปนะคะ สวัสดีค่า ^_^

roasted cockle 05

roasted cockle 02

roasted cockle 07

:: เพิ่มเติม ::

หม้อทอดไร้น้ำมันที่พิมใช้คือตัวนี้นะคะ Summer Magic Chef   อ่านรีวิวตอนพิมเปิดกล่องได้ >> ที่นี่ <<   และมีขายที่ >> 2010MegaStore.com << อ่ะค่ะ 

114



ครัวบ้านพิม on Facebook

สมาชิก