อาทิตย์ที่แล้ว ... แม่พิมทำแกงสับปะรดขายที่ตลาดแถวบ้านค่ะ ตอนที่แม่ทำเนี่ย กลิ่นแกงหอมมาก.ก..ก จนพิมนึกอยากจะไปคดข้าวสวยร้อนๆ จากในหม้อมาใส่ชาม และตักแกงสับปะรดราดกินตอนนั้นเลยอ่ะค่ะ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะตอนนั้นเนี่ยเป็นช่วงเวลาที่รีบมาก ในขณะแม่ทำแกงสับปะรดอยู่ที่เตานึง อีก 2 เตาพิมก็จับจองทำกับข้าว 2 อย่างอยู่ค่ะ ทำให้ไม่สามารถปลีกตัวไปคดข้าว กินข้าวได้เลย รู้สึกตัวอีกทีแม่ก็แกงเสร็จ และตักแกงใส่ถุงพร้อมเอาไปขายที่ตลาดเรียบร้อยแล้วอ่ะค่ะ ........ ซึ่งตอนนั้นพิมก็แอบคิดในใจว่า ไม่เป็นไรอ่ะ เดี๋ยวพอไปถึงตลาดแล้ว ค่อยตักใส่ถุงเก็บไว้หน่อยล่ะกัน จะได้เอาไว้กินตอนเลิกขายแล้วก็ยังดี
แต่ปรากฎว่าพอแม่ไปตั้งแผงที่ตลาด - -" นับตั้งแต่เริ่มตักขายถุงแรก ก็ตักขายรวดเดียวจนแกงสับปะรดหมดหม้อเลยค่ะ (แกงสับปะรด แกงขี้เหล็กจะขายดีมากๆ) ทำให้ความฝันในการจะกินแกงสับปะรด คู่กับปลาอินทรีเค็มทอดในมื้อเย็นวันนั้นของพิมต้องสลายไป >_< ในขณะที่ความอยากกินยังคงอยู่
เพราะงั้นวันรุ่งขึ้น พอมีเวลาว่างแว๊บ ๆ พิมก็เลยชวนคุณสามีให้ขับรถพาไปตลาดสดแถวบ้านหน่อย ด้วยความที่คุณสามีเห็นภรรยาอยากกินมาก็พาไปค่ะ - -" ก็ไปซื้อหอยแห้งมา 1/2 โล (เก็บไว้ทำหอยหวานด้วย) และก็ซื้อสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียมา 1 ลูก ซึ่งตอนซื้อเนี่ยพ่อค้าสับปะรดเค้าก็จะถามว่า ซื้อไปทำอะไร ถ้าซื้อไปปอกกินสด ๆ เค้าก็จะเลือกแบบที่หวาน ๆ ให้ แต่ถ้าเอาไปแกง เค้าก็จะเลือกแบบเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ เพราะแกงออกมาแล้วจะอร่อยกว่าแบบหวานอย่างเดียวอ่ะค่ะ
แล้วหลังจากซื้อเสร็จ กลับถึงบ้าน พิมก็เข้าไปคลุกอยู่ในครัวประมาณ 1 ชม. กว่า ๆ (นับรวมเวลาปอกสับปะรด ปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว) พิมก็ได้แกงสับปะรดกับหอยแห้งที่สำเร็จแล้วออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี่นะคะ ..... น่ากินไหม ^__^
หมายเหตุ สูตรที่พิมให้ไว้สำหรับเมนูนี้และทุกเมนู ขอให้คิดซะว่าเป็นแนวทางนะคะ เพราะเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้ชอบรสชาติเดียวกันพิม ดังนั้นแล้วหากเพื่อน ๆ ชอบรสแบบไหนก็ปรับเพิมลดส่วนผสมและเครื่องปรุงเอาได้ตามใจชอบเลยนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- สับปะรด พันธุ์ปัตตาเวียน้ำหนักประมาณ 2 กิโล ... 1/2 ลูก
- พริกแกงคั่ว 1.5 ชต.
- หอยแมลงภู่แห้ง 1/2 ถ้วย
- กุ้งแห้งป่น 3 ชต.
- หัวกะทิ 1/2 ถ้วย
- หางกะทิ 1.5 ถ้วย
- น้ำตาลปี๊บ 1.5 ชต.
- เกลือป่น 1.5 ชช.
- น้ำมะขามเปียกคั้นข้นๆ 1.5 ชต.
หมายเหตุ สูตรที่พิมให้ไว้สำหรับเมนูนี้และทุกเมนู ขอให้คิดซะว่าเป็นแนวทางนะคะ เพราะเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้ชอบรสชาติเดียวกันพิม ดังนั้นแล้วหากเพื่อน ๆ ชอบรสแบบไหนก็ปรับเพิมลดส่วนผสมและเครื่องปรุงเอาได้ตามใจชอบเลยนะคะ
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเราก็มาจัดการกับสับปะรดกันก่อนนะคะ ...... สำหรับสับปะรดที่เราจะเอามาแกงเนี่ย ถ้าเลือกได้......หากเป็นสับปะรดไทย พิมแนะนำพันธุ์ปัตตาเวียนะคะ เพราะเนื้อเค้าจะนุ่ม ไม่กรอบ เหมาะกับการเอามาทำแกงสับปะรดค่ะ
สับปะรดลูกในภาพมีน้ำหนัก 2 โล แต่พิมไม่ได้ใช้ทั้งหมด พิมใช้แค่ประมาณครึ่งลูกเท่านั้นค่ะ
เทคนิคในการปอกสับปะรดของพิมก็คือ มีดต้องคมมาก ๆ ค่ะ ....... ให้ตัดส่วนหัวของสับปะรดทิ้งไปก่อน (ตามลูกศรสีแดง) จากนั้นจับสับปะรดตั้งบนเขียง แล้วค่อยๆ เอามีดเฉือนเปลือกสับปะรดออกให้หมด เฉือนเสร็จก็ทำการควั่นตา และตัดจุกที่เหลืออยู่ทิ้งไป ....... ก็เป็นอันเรียบร้อยค่ะ
จากนั้นนำสับปะรดไปล้างน้ำให้สะอาด พักให้สะเด็ดน้ำ แล้วค่อยนำมาสับไว้หยาบ ๆ อย่างในภาพด้านล่างค่ะ
สับเสร็จก็บีบเอาแต่เนื้อสับปะรดเก็บไว้ (บีบหมาด ๆ ไม่ต้องให้แห้งมาก) ให้ได้ประมาณ 1.5 ถ้วย (ถ้วยตวง) ที่เหลือก็อาจจะใส่กล่องแช่ฟรีสไว้แกงในครั้งถัดไป ส่วนน้ำสับปะรดสามารถเก็บไว้ทำพันซ์ ทำน้ำสับปะรด หรือไว้แช่พวกเครื่องเงินก็ได้อ่ะค่ะ ^_^
ต่อมาก็มาดูที่หอยแมลงภู่แห้งกันนะคะ ....... สำหรับหอยแมลงภู่แห้งเนี่ย วิธีการเตรียมคือ นำมาล้างน้ำให้สะอาด แล้วแช่น้ำไว้สัก 5 นาที เพื่อให้นุ่มและให้ความเค็มออกไปบ้าง ..... แล้วก็บีบให้แห้ง พักไว้ค่ะ แต่ถ้าเพื่อนๆ หาหอยแห้งไม่ได้ จะใช้หอยสด หรือกุ้งสดแทนได้นะคะ ตามที่สะดวกเลย แต่พิมว่ากลิ่นหอยแมลงภู่แห้งจะเข้ากับแกงสับปะรดมากที่สุดเลยอ่ะค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะ)
กุ้งแห้ง ......... พิมใช้กุ้งแห้งตัวใหญ่นะคะ ล้างน้ำให้สะอาด ตากแดดให้แห้ง แล้วนำไปบดด้วยเครื่องปั่น แต่ถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีเครื่องปั่น ก็ใช้วิธีแช่น้ำให้นิ่ม แล้วนำไปโขลกในครกจนกระทั่งป่นก็ได้เช่นกันอ่ะค่ะ
ส่วนน้ำมะขาม ..... เน้นว่าขอแบบข้น ๆ นะคะ ถ้าใครไม่รู้ว่าน้ำมะขามคั้นยังไง ได้มายังไง แนะนำให้ไปดูในเมนู "ยำหัวปลีเผากับไก่" อ่ะค่ะ หรือถ้าไม่สะดวกคั้นเอง รู้สึกว่าจะมีน้ำมะขามแบบพาสเจอร์ไรซ์ขายตามซุปเปอร์มาร์ตเกตใหญ่ ๆ หลายแห่งด้วยนะคะ
และเมื่อเตรียมเครื่องต่างๆ เสร็จแล้วก็มาลงมือทำกันดีกว่าค่ะ เริ่มด้วยตั้งกระทะบนเตาไฟ ใส่หัวกะทิลงไป 1/4 ถ้วย เปิดไฟกลาง รอจนกะทิเดือดและแตกมันก็ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอม ซึ่งระหว่างผัดหากในกระทะแห้งไป ก็สามารถเติมหัวกะทิได้เป็นระยะ ๆ นะคะ (แต่ให้เหลือหัวกะทิไว้ราดในตอนสุดท้ายบ้าง)
พอพริกแกงส่งกลิ่นหอมและแตกมันสวยแล้วอย่างในรูปด้านบน ก็ใส่กุ้งแห้งลงไป ผัด 2-3 ทีให้กุ้งแห้งเข้ากับพริกแกง ก็เติมหางกะทิลงไปค่ะ ตามด้วยหอยและสับปะรด
เพิ่มเติม :: หางกะทิที่ใช้สำหรับแกงสับปะรด จะต้องเป็นหางกะทิที่ค่อนข้างข้นนิดนึงนะคะ เพราะว่าพอเราใส่สับปะรดลงไปในน้ำแกง น้ำจากสับปะรดจะออกมาปนในน้ำแกง ทำให้น้ำแกงใสขึ้น ดังนั้นถ้าหางกะทิใส่อยู่แล้ว ก็จะยิ่งใสเข้าไปอีก แต่ถ้าหางกะทิไม่ใส่มาก เมื่อเจอกับสับปะรดก็จะพอดีกันอ่ะค่ะ
คนพอเข้ากัน หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้วทิ้งไว้สัก 10 นาที เพื่อให้รสชาติจากสับปะรดออกมาอยู่ในน้ำแกง ก็ทำการตักน้ำแกงขึ้นมาชิมรสชาติสักหน่อยนึงว่ารสออกไปทางประมาณไหน (ขึ้นกับความ เปรี้ยวหวานของสับปะรด - และความเค็มของหอย กุ้งแห้งที่ใช้) แล้วก็ทำการปรุงเพิ่มตามใจชอบเลยค่ะ ซึ่งของพิมก็จะปรุงเพิ่มด้วยน้ำตาลปี๊บ 1.5 ชต. เกลือป่นธรรมดา ที่ไม่ใช่เกลือไอโอดีน 1.5 ชช. และก็น้ำมะขามเปียกอีก 1.5 ชต. ก็จะได้รสแกงที่พอดีเลยอ่ะค่ะ ....... พอได้รสที่ใช่แล้ว ก็ราดหัวกะทิที่เหลือลงไป
รอเดือดอีกที ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
แล้วก็ตักใส่ชาม เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อน ๆ ปลาเค็มสักชิ้น ........ เท่านี้ก็ไม่อยากเลิกทานแล้วอ่ะค่ะ ^__^
ยังไงไปลองทำกันดูนะคะ ขั้นตอนเหมือนจะเยอะ วิธีทำเหมือนจะยุ่งยาก แต่พอลงมือทำจริงแล้วจะรู้ว่าง่ายกว่าที่คิดเยอะเลยค่ะ
แล้วพบกันใหม่ในเมนูถัดไป ซึ่งพิมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ^____^ .............. นะคะ