หลายวันก่อนพิมไปเดินห้าง พอจัดการธุระอะไรเสร็จเรียบร้อย ก่อนกลับพิมก็เลยแวะซื้อไส้กรอกคอกเทลรมควันคลาสสิคของเบทาโกร ซึ่งเป็นไส้กรอกสุดโปรดของคุณสามี กับไข่ไก่อนามัยของเบทาโกรกลับมาอย่างละหลายแพ็คค่ะ
ทีนี้เนี่ยจะเอาไส้กรอกมาเวฟ เอาไข่ไก่มาต้มหรือทอดเฉย ๆ ก็ดูจะไม่ใช่ครัวบ้านพิมเน๊าะคะ ^_^ เพราะงั้นวันนี้พิมก็เลยคิดว่าจะทำเมนูซาลาเปาทรงเครื่องให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันค่ะ พิมเชื่อว่าหลายคนต้องคิดว่ายากกกก ถ้าไม่ใช่คนทำเบเกอรี่หรือคนที่มีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม เพื่อน ๆ ต้องคิดว่า ทำเองไม่ได้หรอก !! #เพราะเมื่อก่อนพิมก็เคยคิดแบบนั้น หรือหลายคนอาจจะเคยลองทำดูแล้ว แต่ทำกี่ครั้ง ๆ ก็ไม่สำเร็จสักที ขอบอกเลยว่าอย่าเพิ่งท้อใจไปนะคะ เพราะวันนี้พิมจะมาแจกสูตรเด็ดพร้อมอธิบายอย่างละเอียด และเคล็ดลับทุกขั้นตอน รับรองอ่านจบปุ๊บ เพื่อน ๆ ไปซื้อวัตถุดิบมาทำตามพิมได้แน่นอนค่ะ ป่ะ ....... ไปดูวิธีทำกันเลยจ้า
:: ส่วนผสมแป้งเชื้อ ::
- แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเปา 200 กรัม
- ยีสต์ 8 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 8 กรัม
- น้ำเปล่า 100 กรัม
:: ส่วนผสมแป้งซาลาเปา ::
- แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเปา 75 กรัม
- น้ำตาลทรายขาว 65 กรัม
- ผงฟู 5 กรัม
- เกลือป่น 3 กรัม
- น้ำมันพืช 20 กรัม
- น้ำเปล่า 30 กรัม
:: ส่วนผสมเครื่องซาลาเปา ::
- ไส้กรอกคอกเทลรมควันคลาสสิค เบทาโกร 1 แพ็ค (160 กรัม)
- ไข่ไก่อนามัยเบทาโกร 3 ฟอง (เบอร์ 1)
- เห็ดหอมแห้ง แช่น้ำจนนุ่ม หั่นชิ้นพอคำ
- หมูสับติดมันเล็กน้อย 180 กรัม
- รากผักชี 1/2 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยขาว 1/2 ช้อนชา (แต่พิมใส่เพิ่มพิเศษเป็น 1 ช้อนชา เพราะชอบพริกไทยมาก)
- ซีอิ๊วขาว 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเย็นจัด 3 ช้อนโต๊ะ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเรามาทำแป้งเชื้อของแป้งซาลาเปากันก่อนนะคะ ใส่แป้งสาลี ยีสต์ น้ำตาลทรายขาว และน้ำเปล่าตามสูตรด้านบนลงไปในอ่างผสมค่ะ
คนส่วนผสมด้วยพายยางให้เข้ากัน แล้วนวดต่อสักแป๊บ ไม่ต้องนวดให้เนียน ใช้เวลาประมาณ 3 นาที จนแป้งไม่ติดมือ ไม่มีผงแป้งหรือของเหลวหลงเหลืออยู่ในอ่างผสม ก็รวบแป้งให้เป็นก้อนกลม ปิดอ่างผสมด้วยฟิล์มใสหรือผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด แล้วพักไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงนะคะ
พอครบ 1 ชม. แป้งเชื้อของเราก็จะขึ้นฟูเป็น 2 เท่าตามภาพด้านล่างนี้ค่ะ
*** ถ้าอากาศร้อนจัด อาจจะใช้เวลาแค่ 40-50 นาที
ถึงตรงนี้เราก็จะมาทำแป้งซาลาเปากันต่อเลย ... ก็ให้เราใส่แป้งสาลีสำหรับทำซาลาเปาลงไปในอ่างแป้งเชื้อ ตามด้วยน้ำตาลทรายขาว เกลือป่น ผงฟู น้ำมันพืช และน้ำเปล่านะคะ (ปริมาณทั้งหมดตามสัดส่วนในสูตรแป้งซาลาเปา)
แล้วใช้พายยางคนส่วนผสมให้พอเข้ากัน จนจับตัวกันเป็นก้อน (ไม่เหลือส่วนที่เป็นของเหลวในอ่างผสม)
ยกก้อนแป้งออกมามาวางบนโต๊ะ แล้วนวดด้วยมือประมาณ 30 นาที จนได้แป้งซาลาเปาที่เนียนนุ่ม ไม่ติดมือ ก็เป็นอันว่าใช้ได้ล่ะค่ะ
** ใครไม่สะดวกนวดแป้งด้วยมือ จะนวดด้วยเครื่องก็ได้นะคะ
** วิธีนวดแป้งซาลาเปาหรือแป้งขนมปังด้วยมือแบบที่พิมทำ ก็คือ วางก้อนแป้งบนโต๊ะที่สะอาดและมั่นคง อาจจะรองด้วยแผ่นรองนวดแป้งขนมปังเพื่อกันติดพื้นโต๊ะได้ค่ะ แล้วใช้ด้านล่างของอุ้งมือข้างที่ถนัด (ของพิมคืออุ้งมือข้างขวา) กดลงไปที่ก้อนแป้ง ผลักก้อนแป้งไปด้านหน้าประมาณสักครึ่งฟุต จากนั้นใช้อุ้งนิ้วมือ (มือเดียวกัน) ตวัดก้อนแป้งกลับมาที่เดิม แล้วผลักไปกลับอีกหลาย ๆ รอบ จนได้แป้งที่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน และก็มีความยืดหยุ่นดี ไม่ติดมือ ซึ่งแต่ละคนอาจจะใช้เวลาไม่เท่ากันเป๊ะ ๆ ขึ้นกับจังหวะการนวด ขึ้นกับอุณหภูมิห้องและอีกหลาย ๆ อย่าง แต่คือให้สังเกตุดูลักษณะแป้ง ถ้าเป็นตามที่พิมบอกก็คือใช้ได้นะคะ
ต่อมาก็แบ่งแป้งที่นวดออกเป็นก้อนละประมาณ 45-55 กรัม ใครชอบซาลาเปาลูกโตหน่อยก็ใช้ 55 กรัม จะได้แป้งประมาณ 9 ก้อน ส่วนใครที่ชอบซาลาเปาลูกย่อมลงมานิดนึง ก็ใช้ 45 กรัม จะได้ประมาณ 11 ก้อนค่ะ
จากนั้นก็คลึงแป้งแต่ละก้อนให้เป็นรูปทรงตามที่ชอบนะคะ สำหรับพิมจะชอบซาลาเปาลูกกลมรี พิมก็จะคลึงแป้งให้เป็นทรงรี ๆ หน่อย (ตามในภาพด้านล่าง) พอคลึงเสร็จ ก็วางแป้งซาลาเปาไว้ในกระทงกระดาษ แล้วก็พักแป้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมงค่ะ
** อย่าลืมหาฝาปิดภาชนะที่วางพักแป้งซาลาเปาไว้ด้วยนะคะ เช่น ฝาหม้อ ฟิล์มใส ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาด เพื่อกันแป้งแห้งค่ะ
** กระทงกระดาษที่พิมใช้เป็นแบบเคลือบไขนะคะ ถ้าใครไม่มีกระทงแบบพิม จะใช้กระทงกระดาษสีขาวทั่วไปก็ได้ หรือถ้าไม่มีกระทงกระดาษเลย ไม่อยากไปหาซื้อเพิ่ม จะใช้กระดาษไขตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม/วงกลม ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ
พอครบ 1 ชั่วโมง เราก็จะได้แป้งซาลาเปาทึขึ้นฟูประมาณ 2 เท่าจากที่เราปั้นไว้นะคะ (ดูจากภาพได้เลย)
นำซาลาเปาไปนึ่งให้สุกค่ะ โดยนึ่งในน้ำเดือดจัด ใช้เวลา 10 นาทีนะคะ พอสุกเราก็จะได้ซาลาเปาที่ไม่มีไส้ แต่ขาวอวบอย่างในภาพด้านล่างเลยค่ะ ^_^
*** วิธีนึ่งคือ ตั้งหม้อซึ้งที่มีน้ำให้น้ำเดือดก่อน แล้วค่อยวางชั้นซึ้งที่มีซาลาเปาลงไป โดยใช้ไฟแรง พอปิดฝาปุ๊บก็จับเวลา พอครบ 10 นาทีปั๊บ ก็ปิดไฟเตา เปิดฝา แล้วยกชั้นที่มีซาลาเปาลงได้เลยนะคะ
ถึงตรงนี้ .. ก่อนที่เราจะเอาซาลาเปาไปใส่ไส้ เราก็จะต้องพักซาลาเปาให้เย็นสนิทก่อนค่ะ ไม่งั้นเวลาหั่น ซาลาเปาอาจจะยุบได้ค่ะระหว่างที่รอให้ซาลาเปาหายร้อน เราก็จะมาเตรียมไส้ หรือบางคนอาจจะเรียกว่าหน้าซาลาเปากันนะคะ ซึ่งเครื่องที่พิมจะใช้ในวันนี้ก็จะมี 4 อย่างด้วยกัน
อย่างแรกคือ เห็ดหอมแห้ง ล้างให้สะอาด แล้วเอาไปแช่น้ำ พอนิ่มก็เอามาหั่นไว้เป็นชิ้นพอคำ หรือใครจะคลุกกับซีอิ๊วขาวนิดหน่อย พอให้เห็ดหอมมีรสชาติเค็มนิด ๆ ก็ตามที่ชอบเลยค่ะ
ต่อมาอย่างที่ 2 หมูสับปรุงรส ใส่รากผักชี กระเทียม พริกไทย ลงไปครกโขลกหรือปั่นให้ละเอียดแบบนี้ค่ะ (สิ่งที่ได้เรียกว่า #สามเกลอ)
ตักสามเกลอใส่ลงไปในชามหมูบด ตามด้วยซีอิ๊วขาว และน้ำเย็นจัด (ค่อย ๆ ทยอยใส่) นวดส่วนผสมให้เข้ากันจะด้วยช้อนหรือมือก็ได้ตามถนัด จนหมูดูมีความนุ่มละมุน และมีความชุ่มชื้น ไม่กระด้างก็ใช้ได้นะคะ
** หมูบดใช้แบบติดมันเล็กน้อย จะอร่อยกว่าแบบเนื้อล้วนค่ะ
อย่างที่ 3 ไข่ต้ม วันนี้พิมเลือกใช้เป็นไข่ไก่อนามัยของเบทาโกรนะคะ เป็นไข่ไก่เพื่อสุขภาพ หรือ Healthy Hens Eggs เพราะว่าเป็นไข่สดที่ได้มาจากแม่ไก่คุณภาพดี ที่เค้าเลี้ยงแบบใส่ใจ เลี้ยงด้วยอาหารสูตรพิเศษจากนักโภชนาการอาหารสัตว์ จนได้ไข่แดงที่แบบว่าทั้งกลมนูนและเป็นสีเหลืองส้ม แถมยังอุดมด้วยวิตามินนานาชนิดอีกด้วยนะคะ
วันนี้พิมก็จะใช้ไข่ 2 ฟอง (แต่ต้มเผื่อกินไว้อีก 1 ฟอง ^_^) ก็ให้เราตั้งหม้อน้ำบนเตา โดยใช้ไฟกลาง พอน้ำเดือดก็ค่อยใส่ไข่ลงไปต้มค่ะ ต้มสัก 8-9 นาทีให้ไข่แดงสุกดี ก็ตักไข่ขึ้นมาแช่ในน้ำเย็น พอไข่หายร้อน ก็ปอกเปลือกไข่ แล้วก็ตัดไข่ไว้เป็นเสี้ยว ๆ นะคะ
ส่วนอย่างสุดท้าย วัตถุดิบที่เราจะขาดไม่ได้ในเมนูนี้เลย ไม่งั้นขาดความอร่อยแน่นอน ^_^ นั่นก็คือ “ไส้กรอกคอกเทลรมควันคลาสสิค” ของเบทาโกรค่ะ จริง ๆ ไส้กรอกรมควัน เบทาโกรเค้ามีทั้งแบบยาวและแบบสั้นนะคะ แต่วันนี้พิมขอเลือกใช้เป็นแบบสั้นก็คือแบบคอกเทล เพราะความยาวกำลังพอเหมาะพอดีที่จะวางบนหน้าซาลาเปาทรงเครื่องของพิมเลยค่ะ
สำหรับไส้กรอก วิธีเตรียมก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก แค่เราหยิบไส้กรอกแต่ละอันขึ้นมา แล้วใช้มีดกรีดปลายไส้กรอกทั้งสองด้านเป็นรูปกากบาท ลึกประมาณด้านละ 0.5 - 1 ซม. ก็เรียบร้อยนะคะ แต่ว่าตอนกรีดนี่ต้องระวังให้มาก พิมไม่ได้ให้ระวังมีดบาด แต่ให้ระวังจะหยิบไส้กรอกใส่ปากจนหมดค่ะ ^_^ เพราะไส้กรอกคอกเทลรมควันตัวนี้เนี่ยเป็นไส้กรอกที่เนื้อแน่นเว่อร์ แล้วก็หนังกรอบมาก แถมยังมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวที่เกิดจากการรมควันก็คือกลิ่นหอมจากไม้บีซวู้ด ทำให้มีกลิ่นที่เย้าย้วนจิตใจเรามากจริง ๆ ค่ะ ^_^
อ๊ะ .. พอเตรียมเครื่องเสร็จ ซาลาเปาของเราก็หายร้อนพอดี เราก็มาใส่หน้าซาลาเปากันต่อเลยนะคะ
วิธีใส่หน้าซาลาเปาก็ง่าย ๆ ค่ะ ให้เราหยิบซาลาเปามา แล้วใช้มีดคม ๆ (ย้ำว่าต้องมีดคม ๆ นะคะ ไม่งั้นซาลาเปาจะยุบได้ เพราะแป้งนุ่มมาก) ผ่าซาลาเปาให้ลึกจนเกือบถึงกระดาษด้านล่าง (เหลือประมาณ 1 ซม.) จะผ่ารอยเดียว หรือผ่าเป็นกากบาทแบบพิมก็ได้นะคะ (พิมทำทั้งสองแบบ)
จากนั้นก็แบะซาลาเปาออก แล้วตักหมูสับปรุงรสที่เราทำเอาไว้ ใส่ลงไปให้เต็มรอยผ่าเลยค่ะ (ใส่ไส้จนถึงด้านล่างรอยที่เราผ่าไว้)
ตามด้วยไส้กรอก ไข่ต้ม และก็เห็ดหอมนะคะ
สุดท้ายก็เอาไปนึ่งอีก 5 นาที จนหมูสุก ก็ปิดไฟเตา แล้วเราก็จะได้ “ซาลาเปาทรงเครื่อง” หรือที่บางคนเรียกว่า “ซาลาเปาหน้าเปิด” ออกมาอย่างในภาพด้านล่างเลยค่ะ
ถึงเวลาทาน ก็ตบแต่งหน้าซาลาเปาด้วยผักชีใบสวย ๆ สักใบสองใบนะคะ แล้วก็เสิร์ฟคู่กับซอสพริกแบบเผ็ดน้อย ๆ เท่านี้เราก็จะได้ซาลาเปาอร่อย ๆ ไว้ทานแล้วค่ะ
** ไม่จำเป็นต้องกินคู่กับซอสพริกนะคะ แต่สมัยพิมเด็ก ๆ ซาลาเปาที่มีไส้เป็นหมูสับ มักจะกินคู่กับซอสพริกตลอด พิมก็เลยติดมา และพอพิมเอามาลองกินกับซาลาเปาทรงเครื่องแบบนี้ ก็เข้ากันดีเลยค่ะ ^_^
และถ้าสมมติว่าทานไม่หมดในวันเดียว ก็สามารถเก็บแช่ตู้เย็นเอาไว้ทานวันหลังได้อีก 4-5 วันเลยนะคะ
ซาลาเปาสูตรนี้เป็นสูตรที่ทำง่าย ใช้เวลานวดแป้งไม่นาน แต่แป้งออกมาละมุนมาก แถมพอเราได้วัตถุดิบดี ๆ เอามาทำเป็นหน้าซาลาเปา ไม่ว่าจะเป็นไส้กรอก ไข่ไก่ หมูสับปรุงรส และเห็ดหอม ก็ยิ่งทำให้ซาลาเปาของเราอร่อยมากขึ้นเป็นเท่าตัว ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ แล้วพบกับพิมในเมนูใหม่ค่า ^_^
[Advertorial]