เมื่อสัก 3 ปีก่อนตอนที่ยังไม่มีโควิด พิมมีโอกาสได้ไปเที่ยวจีนมา 2 ทริปค่ะ ไปที่เมืองคุนหมิง ลี่เจี่ยง แชงกรีล่า ต้าหลี่ และก็กวางโจวนะคะ
แล้วตอนก่อนที่พิมจะไปเนี่ย พิมมีความกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องอาหาร เพราะพิมเป็นคนที่ชอบอาหารรสจัด ทุกมื้อจะต้องมีอะไรที่เผ็ด ๆ นิดนึงถึงจะกินข้าวอร่อยค่ะ แต่เพื่อน ๆ หลายคนที่เคยไปจีนมาก่อน บอกพิมว่าอาหารจีนส่วนใหญ่มักจะจืดนะ ถึงจะใส่พริกก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ วันแรก ๆ ที่ไปอาจจะไม่ค่อยรู้สึก แต่ถ้าไปครึ่งเดือนแบบพิม เบื่อแน่นอนจ้า
แต่ว่าในความเป็นจริงแล้ว ตั้งแต่มื้อแรกที่เหยียบแผ่นดินจีนจนถึงมื้อสุดท้าย ไม่อยากจะบอกเลยว่า ... พิมแฮปปี้กับอาหารทุกอย่างเลยค่ะ ฮ่า ๆ จำได้ว่าทริปแรกหลังจากออกจากสนามบินฉางสุ่ยที่คุนหมิง และเอากระเป๋าเดินทางไปเก็บที่ Hostel แล้ว พิมกับเพื่อนหิวมาก เลยลองถามคนแถวนั้นว่าแถวนี้เค้ามีแหล่งที่แบบขายของกินแลลตลาดไหม เค้าก็แนะนำถนนคนเดินต้ากวนที่อยู่ไม่ไกลจาก Hostel เท่าไหร่นะคะ ซึ่งที่ถนนคนเดินจริง ๆ จะมีของกินขายเยอะมาก แต่ตอนที่พิมไปถึงมันน่าจะเพิ่งบ่าย ๆ ร้านเค้ายังไม่ค่อยเปิดกัน ก็เลยมีตัวเลือกไม่เยอะค่ะ สุดท้ายพิมกับเพื่อนเลยตัดสินใจว่าจะกินก๋วยเตี๋ยวล่ะกัน ซึ่งก๋วยเตี๋ยวที่พิมสั่งมากิน ก็เป็นก๋วยเตี๋ยวชามละ 26 หยวน หรือประมาณ 112 บาท (ชามในภาพด้านล่าง ที่มีน้ำซุปสีขาว) ที่ใส่คากิ 2 ชิ้น มะเขือเทศ 1 แว่น และก็ฟองเต้าหู้ประปรายนะคะ รสชาติก็จะออกจืด ๆ เค็ม ๆ หน่อย แต่ก็มีรสเปรี้ยวหวานนิด ๆ จากมะเขือเทศ โดยรวมแล้วโอเคอยู่ค่ะ แต่ที่ไม่โอเคคือคากิที่เหนียวมากกกกกก เหนียวจนไม่สามารถแทะได้ เหมือนว่าสูตรของเค้าจะต้มแค่พอสุกก็เอามาขายได้เลยทำนองนั้นนะคะ แล้วไม่ใช่แค่ร้านนี้ร้านเดียวที่คากิเหนียว ร้านอื่นที่ลองไปกินมาอีก 3-4 ร้าน ก็ไม่ต่างกันเลยค่ะ 😅 แต่โดยรวมแล้วพิมก็แฮปปี้กับอาหารทุกมื้อในทริปจีนนะคะ ไว้เดี๋ยววันไหนว่าง ๆ พิมจะมาเม้ามอยเรื่องอาหารที่จีนในแต่ละมื้อแต่ละจานในฟัง รับรองว่าอ่านเพลินแน่นอนค่า
แล้วในทริปจีนเนี่ยมีเมนูอยู่ประเภทนึงที่พิมติดใจมาก ๆ ก็คือเมนูยำ ไม่ว่าจะยำตีนไก่ ยำหัวหมู ยำสารพัดสาหร่าย รวมไปถึงยำสารพัดผักนะคะ ซึ่งพิมยังไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเน๊าะ เพราะเดี๋ยวมันจะยาว 555 แต่อยากจะบอกว่า พิมชอบถึงขนาดเคยไปยืนดูพ่อค้าในตลาดที่เค้าทำเมนูนี้ขายติดกัน 3-4 เจ้า เพื่อจดจำว่าเค้าใส่อะไรยังไงบ้าง และก็จำเอากลับมาทำกินที่ไทยค่ะ 😄
หนึ่งในเมนูยำที่พิมชอบมาก ก็คือยำแตงกวา ซึ่งพิมเคยแชร์สูตรและวิธีทำไปแล้วเมื่อสักประมาณปลายปีที่แล้วนะคะ สำหรับวันนี้พิมก็จะมาแชร์อีกเมนูยำที่พิมชอบมากเหมือนกัน ก็คือ ยำรากบัว ยำอันนี้ texture จะกรอบ ๆ หน่อยตามรสสัมผัสของรากบัวค่ะ รสชาติจะออกเค็มนำเผ็ดตาม หอมกลิ่นน้ำมันงา หอมกลิ่นงาขาวคั่ว กินเย็น ๆ อร่อยมาก ... หากเพื่อน ๆ คนไหนชอบ ก็ลองเอาไปทำดูนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- รากบัว 500 กรัม
- พริกชี้ฟ้าแดงสับ (เอาไส้และเม็ดพริกออก) 3 ช้อนโต๊ะ
- กระเทียมจีนสับ 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือสมุทรป่น 1/2 ช้อนชา
- ซีอิ๊วขาว 1 + 1/2 ช้อนโต๊ะ
- ซอสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันงา 1/2 ช้อนโต๊ะ
- งาขาวคั่วบดหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำมันพริก 2 - 3 ช้อนโต๊ะ ตามความเผ็ดที่ชอบ
- ต้นหอมซอย 2 ช้อนโต๊ะ
*** ทำเสร็จแล้ว ได้ปริมาณเท่ากับจานในภาพ
:: วิธีทำ ::
เริ่มแรก .. มาดูที่รากบัวกันก่อน ยำอันนี้พิมแนะนำให้ใช้รากบัวจีนนะคะ เนื้อมันจะแน่นเหนียวกว่ารากบัวไทย เหมาะกับการเอามาทำยำแบบนี้มากเลยค่ะ หาซื้อได้ที่แมคโคร หรือใครจะสั่งในเนต ตาม Lazada / Shopee พิมก็เห็นมีขายนะคะ
เมื่อได้รากบัวมาแล้ว ให้เอาไปรากทำความสะอาดให้เรียบร้อย แล้วเอาไปต้มค่ะ ใครจะปอกเปลือกก่อนต้ม หรือจะต้มแล้วค่อยมาปอกเปลือก ... ก็ตามที่สะดวกเลยนะคะ 😊
วิธีการต้มรากบัวก็ไม่มีอะไรยุ่งยากค่ะ ให้เราใส่น้ำลงในหม้อหรือกระทะก้นลึก ปริมาณน้ำกะว่าให้ท่วมรากบัวนะคะ จากนั้นก็เปิดไฟกลาง พอน้ำเดือดก็หย่อนรากบัวลงไปต้มประมาณ 30 - 40 นาที ตามความอ้วนของรากบัวและความนิ่มของรากบัวที่ชอบค่ะ (ระหว่างที่ต้ม ถ้าน้ำแห้ง เติมน้ำได้)
วิธีเช็คว่ารากบัวที่เราต้ม สุกดีหรือยัง ก็ให้เอาไม้ปลายแหลมจิ้มไปที่รากบัวนะคะ ถ้าจิ้มได้สบาย ๆ แต่ยังรู้สึกหนืดนิด ๆ แปลว่ารากบัวสุกแล้ว แต่สุกแบบกรอบ ๆ ซึ่งพิมชอบแบบนี้เลยค่ะ แต่ถ้าใครชอบกินรากบัวแบบนุ่ม ๆ หน่อย ให้ต้มต่ออีกสัก 10 - 15 นาที แล้วลองเช็คความสุกอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้เอาไม้แหลมจิ้มแล้วจิ้มได้ง่าย ๆ จิ้มแบบไม่ต้องออกแรงอะไรเลย แปลว่ารากบัวสุกนุ่มแล้ว ก็ปิดไฟเตา แล้วหยิบรากบัวไปแช่ในกะละมังน้ำเย็นได้เลยนะคะ
ถึงตรงนี้ก็พักรากบัวให้หายร้อน ปอกเปลือก แล้วหั่นเป็นแว่น ๆ ไว้ค่ะ
ใส่รากบัวที่หั่นแล้วลงในกะละมัง ตามด้วยกระเทียมสับ พริกสับ เกลือ น้ำตาล ซอสเห็ดหอม น้ำมันงา ซีอิ๊วขาว งาขาวคั่ว น้ำมันพริก และต้นหอม
คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันดีนะคะ
ก็จะได้ยำรากบัวพร้อมกินออกมาหน้าตาแบบในภาพด้านล่างนี่เลยค่ะ
ยำรากบัวอันนี้เนี่ย เหมือนของกินเล่น หรือจะกินเป็นกับข้าวก็ได้นะคะ ตัวรากบัวจะมีความกรุบกรอบ (แต่ถ้าต้มนานก็จะนุ่ม) รสชาติออกเค็มนำ แต่ไม่มาก เผ็ดตามปริมาณของน้ำมันพริกที่เราใส่ลงไป หอมกลิ่นน้ำมันงา หอมกลิ่นงาขาวคั่ว หอมกลิ่นเครื่องเทศที่อยู่ในน้ำมันพริก ... กินเพลินเลยค่ะ
ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนชอบยำสไตล์จีนแบบพิม ก็ลองเอาเมนุยำอันนี้ไปลองทำดูนะคะ ถึงรสชาติจะไม่เหมือนยำไทย ๆ ไม่แซ่บ ไม่เปรี้ยว ไม่สามรส แต่พิมว่าอร่อยดีเลยค่ะ
ยังไงลองไปทำกันดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็มาถามไถ่กันได้ พิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย ๆ เลยค่ะ 😊😊
ปล. ถ้ายำแล้วกินไม่หมด ใส่กล่อง ปิดฝา แช่ตู้เย็นไว้ได้หลายวันนะคะ