ก่อนจะไปลงมือทำขนมอันนี้กัน พิมอยากเล่าให้ฟังก่อนค่ะว่า เพราะอะไรช่วงนี้พิมถึงทำเมนูขนมไทยลงเวบครัวบ้านพิมบ่อย ๆ นะคะ
คือพิมอ่ะ อยู่ดี ๆ ก็มีความรู้สึกว่าอยากเปิดร้านขายขนมไทยเล็ก ๆ ค่ะ ทีนี้ด้วยความที่ระยะหลัง ๆ พิมไม่ค่อยได้ทำขนมไทยบ่อยสักเท่าไหร่ เพราะงั้นพอคิดจะเปิดร้าน พิมก็เลยต้องเอาสูตรขนมที่เคยเทสต์เคยทำไว้เมื่อก่อนมารื้อฟื้นสักหน่อยนะคะ ไม่ว่าจะเป็นขนมต้มใบเตย ขนมต้มอัญชัน ขนมดอกโสน ข้าวต้มจิ้ม ข้าวต้มมัด ขนมถั่วแปบ ข้าวเหนียวมูนธัญพืช ข้าวเหนียวมูนกลอย ขนมเล็บมือนาง ขนมเหนียว และขนมอื่น ๆ ค่ะ ซึ่งเพื่อน ๆ ที่ติดตามเวบและเพจครัวบ้านพิม ก็น่าจะเห็นขนมพวกนี้อยู่ เพราะว่าวันไหนที่พิมทำ พิมก็มักจะโพสต์รูปขนมพวกนี้ลงเพจทุกที 😊😊 #เรียกได้ว่าขี้อวดนั่นเองนะคะ ฮ่า ๆ
มาวันนี้เนี่ยก็เป็นคิวของขนมขี้หนูล่ะค่ะ หนึ่งในขนมที่พิมเคยชอบกินมากตอนที่ยังเด็ก ๆ เป็นขนมที่ส่วนผสมไม่ได้เยอะแยะอะไรเลย วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก แต่ว่าทำให้ออกมาเป็นขนมขี้หนูอร่อย ๆ และเนื้อขนมละเอียดฟูสวยนี่ยากมากนะคะ พิมทำเทสต์ ๆ อยู่เป็นสิบ ๆ รอบกว่าจะจับจุดได้ว่าต้องทำแบบไหนและทำยังไงค่ะ เพราะงั้นวันนี้ที่พิมเอาสูตรเดิมมาลองทำดู และมันยังออกมาเป็นขนมขี้หนูอย่างที่ชอบ พิมก็เลยขอเอาสูตรมาแปะไว้ในเวบครัวบ้านพิมด้วย เผื่อว่าเพื่อน ๆ คนไหนอยากลองทำตามนะคะ
ไปค่ะ .. ไปดูสูตรและวิธีทำกันเล๊ยยยยย 😄😄
:: ส่วนผสม ::
- แป้งข้าวเจ้า 400 กรัม (แป้งเก่า)
- กะทิข้นปานกลาง อบควันเทียน 260 กรัม
- น้ำลอยดอกมะลิ 300 กรัม (หรือน้ำเปล่า + หยดกลิ่นมะลิ)
- น้ำตาลทรายขาว 330 กรัม
- น้ำอัญชัน 25 กรัม
- น้ำใบเตย 25 กรัม
- สีผสมอาหารตามที่ชอบ 2-3 หยด (พิมใช้สีม่วง)
- มะพร้าวทึนทึกขูดเส้น 150 กรัม
- เกลือสมุทรป่น 1/3 ช้อนชา
- เทียนอบ (ถ้าไม่ใช้กะทิอบควันเทียน ให้ใช้กะทิ + เทียนอบ)
** ได้ประมาณ 18 ถุงตามในภาพด้านบน
:: วิธีทำ ::
อันดับแรก ... เราจะมาเตรียมน้ำเชื่อมกันก่อนค่ะ
ให้เราหยิบหม้อมาใบนึง ใส่น้ำตาลทรายกับน้ำลอยดอกมะลิลงไป คนให้เข้ากัน ตั้งไฟพอน้ำตาลละลาย ก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ 😊😊
จากนั้นแบ่งน้ำเชื่อมออกเป็น 3 ส่วนเท่า ๆ กัน (วันนี้พิมใช้วิธีชั่ง แต่บางวันก็ใช้วิธีตวง 😄 เลือกเอาที่เพื่อน ๆ สะดวกได้เลย) ... แล้วเติมน้ำอัญชัน น้ำใบเตย และสีผสมอาหารลงไปในแต่ละชามตามความเข้มอ่อนของสีที่ชอบค่ะ (เวลาเสร็จเป็นขนมแล้ว สีจะอ่อนลงนิดนึง)
คนให้เข้ากันดี แล้วพักน้ำเชื่อมไว้ให้เย็นสนิทก่อนเอามาใช้งานนะคะ 😊
ต่อมา ... ให้เราหยิบกะละมังมาอีกใบ ใส่แป้งข้าวเจ้าลงไป ตามด้วยน้ำกะทิค่ะ #ทยอยใส่เน้ออออ แล้วนวดแป้งกับกะทิให้เข้ากัน จนแป้งมีลักษณะเหมือนทรายเปียก #อย่านวดนานแป้งจะเป็นก้อนแน่น .. ก็หาอะไรมาปิดปากกะละมัง แล้วพักแป้งไว้ประมาณ 10 นาทีนะคะ
พอครบเวลา ก็หยิบซึ้งที่เราจะใช้นึ่งขนมออกมาค่ะ
ส่วนของก้นซึ้งให้เราใส่น้ำลงไปประมาณ 3 ใน 5 ส่วน ปิดฝา แล้วยกไปตั้งเตา รอเดือดนะคะ
ส่วนตัวซึ้ง ให้เราหยิบผ้าขาวบางมาปู แล้วยีแป้งทั้งหมดผ่านกระชอนตาถี่ลงไปที่ผ้า มันอาจจะมีแป้งบางส่วนที่จับตัวกันเป็นเม็ดบ้าง ก็ใช้เอานิ้วบี้ ๆ ไปกับกระชอนได้เลย ... ไม่มีปัญหาค่ะ 😁
*** ผ้าขาวบาง ชุบน้ำและบิดหมาด ๆ ก่อนเอาใช้ด้วยน๊าาา
พอน้ำเดือดจัด ๆ ก็ยกซึ้งแป้งวางลงไปเลยค่า จัดการปิดฝา แล้วนึ่งด้วยไฟแรงประมาณ 30 นาที ... และพอแป้งสุกดี ก็ปิดไฟเตา ยกซึ้งลงได้เลยนะคะ
จากนั้นแบ่งแป้งร้อน ๆ ออกเป็น 3 ส่วน #กะด้วยสายตาหรือใช้วิธีชั่วตวงก็ได้ ... แล้วเอาแป้งแต่ละส่วนใส่ลงในชามน้ำเชื่อมแต่ละสีค่ะ
จัดการมูน (คลุกเคล้า) แป้งกับน้ำเชื่อมให้เข้ากัน แล้วหาฝาอะไรมาปิดให้สนิท ถ้าไม่มีก็ใช้ฟิล์มแรปได้ ..... พักแป้งไว้ประมาณ 20 นาทีค่ะ
พอครบเวลา ก็จะได้ตัวขนมขี้หนูออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ แต่ว่ามันจะยังเป็นแป้งขนมที่เนื้อแน่น ๆ อยู่ 😁😁
ก็ให้เอาส้อมมาตะกุย ๆ แป้งค่ะ พยายามตะกุยให้ถี่ ๆ นิ๊ดดดนึง เพื่อที่จะได้ตัวขนมขี้หนูที่ฟูสวย และเนื้อขนมละเอียดนะคะ 😊😊
สำหรับคนที่ใช้กะทิอบควันเทียน พอยีขนมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เอาตัวขนมไปคลุกกับมะพร้าวทึนทึกแล้วกินได้เลยค่ะ แต่ว่าถ้าใครใช้กะทิธรรมดา และอยากให้ตัวขนมมีกลิ่นที่หอมชวนกิน ก็ให้เอาไปอบควันเทียนสัก 30 นาทีนะคะ
ต่อมาในส่วนของมะพร้าว ก็ให้เอามะพร้าวทึนทึกที่ขูดเป็นเส้นเล็ก ๆ ไปนึ่งประมาณสัก 10 นาที เพื่อยืดอายุของมะพร้าวค่ะ แต่ว่าถ้าใครทำกินเองที่บ้าน ไม่ได้จะทำไปขายใคร และกะว่าจะกินขนมหมดภายใน 5-6 ชม. ก็ไม่จำเป็นต้องนึ่งมะพร้าวนะคะ
เมื่อนึ่งมะพร้าวเสร็จแล้ว ก็ให้เอามะพร้าวไปคลุกกับเกลือสมุทรป่นพอให้มีรสเค็มปะแหล่ม ๆ เพื่อที่เวลาเอาไปกินกับขนมขี้หนู รสเค็มของมะพร้าวจะได้ไปตัดกับรสหวานของขนมค่ะ 😊
และพอถึงเวลากิน เราก็ตักขนมขี้หนูใส่ถ้วย ใส่จาน หรือใส่ถุง แล้วหยิบมะพร้าวคลุกเกลือโรยไปด้านบนตามความชอบ เวลากินก็คลุกเคล้าทั้งสองอย่างให้เข้ากัน เท่านี้เราก็จะได้ขนมขี้หนูอร่อย ๆ พร้อมกินแล้วนะคะ
ขนมขี้หนูที่อร่อยสำหรับพิม ตัวขนมจะต้องฟูนิ่มและมีเนื้อละเอียด มีกลิ่นหอมของเทียนอบ (ใครไม่ชอบ ไม่ต้องอบเน้อออ) รสชาติจะต้องหวานนำแต่ไม่หวานโดด ได้ความมันและเค็มจากมะพร้าวที่กินแล้วเข้ากับรสหวานของตัวขนมค่ะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยมันก็จะต้องมาจากสัดส่วนของแป้งและน้ำเชื่อมที่เหมาะสมกันนะคะ ^_^ ซึ่งเท่าที่พิมได้ลองทำสูตรนี้มาหลายครั้ง บอกเลยว่ายังไม่มีครั้งไหนที่ผิดหวังค่ะ
เพราะงั้นเพื่อน ๆ ก็ลองเอาไปทำกันดูน๊า ติดขัดตรงไหนก็แวะมาถามไถ่กันได้ อันไหนพิมตอบได้ จะช่วยตอบให้นะคะ
แล้วเจอกันใหม่ในเมนูขนมไทยถัดไป ส่วนวันนี้ขอตัวไปกินขนมขี้หนูก่อน บ๊ายบายค่า 😊😊