ช่วงนี้เป็นช่วงที่พิมทำขนมบ่อย แต่กลับไม่ค่อยมีขนมเหลือติดตู้เย็นเลย ไม่รู้ว่าทำไม พอเวลากินข้าวเสร็จ ไม่มีขนมกินตบท้าย ก็เลยรู้สึกโหย ๆ อย่างบอกไม่ถูก - -"
วันนี้พอจะมีเวลาว่างอยู่สักหน่อย ก็เลยคิดว่างั้นทำขนมตุนเอาไว้ดีกว่า ภายในอาทิตย์นี้จะได้มีขนมกิน ^_^ ..... ตอนแรกพิมก็ว่าจะทำเค้กล่ะค่ะ แต่นึกไม่ออกว่าจะทำเค้กอะไรดี เพราะวัตถุดิบสำหรับแต่งหน้าเค้กในบ้านก็ไม่ค่อยจะมี และพิมก็ไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะออกไปซื้อของเพิ่มด้วย - -" ส่วนคุ๊กกี้ มันก็ไม่ใช่ฟิลด์ในตอนนี้อ่ะค่ะ แบบว่าอยากทำขนมอะไรที่นุ่มๆ เช่น เค้ก หรือพุดดิ้ง หรือคัสตาร์ดพวกนี้ไว้กินมากกว่า .... สรุปหลังจากคิดไปคิดมาสามสิบแปดตลบ - -" ก็เลยทำเป็น Apple-Cranberries Bread Pudding ซะเลยค่ะ ^_^
และในวันนี้เนี่ย นอกจากพิมจะรีวิววิธีการทำ Apple-Cranberries Bread Pudding แล้ว พิมก็จะรีวิววิธีการทำขนมปังด้วยอ่ะค่ะ ซึ่งด้วยเครื่องทำขนมปังของ Panasonic ทำให้พิมทำขนมปังได้ง่ายมากๆๆๆ ......... ยังไงตามมาดูวิธีทำกันเลยดีกว่าค่า ^_^
ในส่วนแรก ... เรามาทำขนมปังกันก่อนนะคะ
:: ส่วนผสม "ขนมปัง" ::
- แป้งขนมปัง 250 กรัม
- นมผง 1 ช้อนตวงใหญ่
- น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนตวงใหญ่
- Instant Dry Yeast 1 ช้อนตวงเล็ก
- เกลือป่น 1 ช้อนตวงเล็ก
- เนยสด 10 กรัม
- น้ำเย็น 180 ml.
เพิ่มเติม "ช้อนตวงใหญ่" และ "ช้อนตวงเล็ก" เป็นช้อนตวงที่มีมากับเครื่องทำขนมปังของ Panasonic และสูตรขนมปังนี้เป็นสูตรที่มากับเครื่องทำขนมปังด้วยอ่ะค่ะ
:: วิธีทำ "ขนมปัง" ด้วย Panasonic Bread Maker ::
อันดับแรก พิมขอพูดถึงตัวเครื่องทำขนมปังกันก่อนนะคะ ...... เครื่องทำขนมปังของ Panasonic เนี่ยจะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ ด้วยกัน ส่วนแรกก็คือส่วนของโถ (หรือในคู่มือเรียกถาดขนมปัง) ซึ่งประกอบด้วยโถ+ใบพัด และส่วนที่สองก็คือ ส่วนของตัวเครื่อง ซึ่งก็จะมีช่องใส่ยีสต์ ช่องใส่ลูกเกดถั่ว มีฝาปิด แบตเตอรี่และอื่นๆ อ่ะค่ะ
ก็ให้เราใส่แป้ง + นมผง + น้ำตาลทราย + เกลือป่น + และเนยสดลงในโถทำขนมปังนะคะ (เอาตัวโถออกมาจากเครื่องก่อน) แล้วเทน้ำเย็นจัดตามลงไป โดยตอนที่เทน้ำเนี่ย ให้เทบริเวณรอบๆ ด้านในโถตามภาพอ่ะค่ะ
จากนั้นก็ใส่โถลงในตัวเครื่องให้ตรงล๊อค
แล้วก็ใส่ยีสต์ที่ช่องใส่ยีสต์ด้านบน
ปิดฝาเครื่อง แล้วเสียบปลั๊ก เลือกโปรแกรมที่ 1 2 หรือ 3 ก็ได้นะคะ (แต่ละโปรแกรมแตกต่างกันที่ความนุ่มของขนมปัง และเวลาที่ใช้ แต่ไม่ต่างกันมาก) แล้วเลือกระดับความเกรียมของเปลือกที่ Light และก็กดปุ่ม Start อ่ะค่ะ
เพิ่มเติม :: โปรแกรม 1 = โปรแกรมทำขนมปังปกติ / โปรแกรม 2 = ขนมปังแบบด่วน / โปรแกรม 3 = ขนมปังแบบนุ่ม
เพิ่มเติม :: เครื่องยี่ห้ออื่น เมื่อเรากดปุ่มเลือกโปรแกรม ที่หน้าจอเครื่องมักจะแสดงเวลาที่โปรแกรมนั้นใช้ทำงานเช่น 3 hr. 20 min. แต่สำหรับของ Panasonic จะแสดงเวลาที่เครื่องทำงานเสร็จตามโปรแกรมที่เราเลือก เช่น ณ เวลาเริ่มคือ 09.55 น. แล้วเราเลือกโปรแกรม 3 ซึ่งเครื่องจะใช้เวลาทำงาน 4 ชม. 20 นาที เครื่องก็จะแสดงเวลาที่หน้าจอเป็น 14.15 น. เพื่อบอกเราว่าเครื่องจะทำงานเสร็จตอนเวลานี้อ่ะค่ะ
จากนั้นก็ร้องเพลงรอไปเรื่อย ๆ นะคะ ^___^ ..... พอครบกำหนดเวลาและเครื่องทำขนมปังทำงานเสร็จ ก็จะมีเสียงสัญญาณดังขึ้น พร้อมคำว่า End ปรากฎที่หน้าจอ เราก็ไปกดปุ่ม Stop แล้วเปิดฝาเครื่อง หยิบโถทำขนมปังออกมาได้เลยค่ะ
แล้วก็ให้เรานำขนมปังออกมาพักไว้ให้หายร้อนสักหน่อย ค่อยเอาไปทำขนมอย่างอื่นตามชอบใจนะคะ ^_^ (แต่ถ้ายังไม่ใช้เลย ก็สามารถเก็บใส่ถุง ใส่กล่อง ไว้ในตู้เย็นได้หลายวันค่ะ)
:: ส่วนผสม Apple-Cranberries Bread Pudding ::
- ขนมปังจากสูตรด้านบน
- ไข่ไก่ 4 ฟอง
- นมสดรสจืด 2 ถ้วย
- นมข้นจืด 2 ชต.
- น้ำตาลทรายขาว 3/4 ถ้วย
- กลิ่นวนิลา 1 + 1/2 ชช.
- เนยสดเค็มหั่นชิ้นเล็กๆ 5 ชต.
- แอ๊ปเปิ้ลเขียว 1 ผล
- แครนเบอรี่แห้ง 70 กรัม
** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ << **
** แอ๊ปเปิ้ลพันธุ์ที่เหมาะเอามาทำขนมที่ผ่านความร้อนคือ Boskoop ตามที่เชฟชื่อดังท่านนึงได้บอกเอาไว้ แต่เมืองไทยไม่มี - -" **
:: ส่วนผสม Apple-Cranberries Bread Pudding ::
เริ่มต้น ... เราก็จะมาจัดการกับขนมปังกันก่อนนะคะ
โดยให้เราฉีกขนมปังที่เตรียมไว้ เป็นชิ้นเล็ก ๆ แบบในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ ... แล้วก็พักไว้ก่อน
ต่อมาก็ปอกเปลือกแอ๊ปเปิ้ล ซึ่งวันนี้พิมใช้แอ๊ปเปิ้ลเขียว เพราะอยากได้รสเปรี้ยว ...... หั่นแอ๊ปเปิ้ลเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กประมาณปลายนิ้วก้อยนะคะ หั่นเสร็จก็บีบมะนาวเคล้าให้ทั่วๆ หรือแช่ในน้ำเปล่าผสมเกลือไว้สักนิดเพื่อไม่ให้ดำ แล้วก็ล้างน้ำเปล่าสักครั้งนึงเพื่อให้หายเค็ม พักในตะแกรงให้สะเด็ดน้ำค่ะ
ระหว่างนั้นตอกไข่ทั้ง 4 ฟองใส่กาละมังใบโตหน่อย ตีด้วยตะกร้อมือให้พอเข้ากัน ใส่นมสด นมข้นจืด น้ำตาลและก็กลิ่นวนิลาลงไป ........ ตีให้เข้ากัน และน้ำตาลละลายหมด
เพิ่มเติม :: ปกติพิมใช้วนิลาแบบฝัก 1/2 ฝัก แต่วันนี้ไม่มี ก็เลยใช้กลิ่นวนิลาแทนนะคะ
กรองด้วยกระชอนตาถี่ ๆ หรือผ้าขาวบางสักครั้งนึง เผื่อว่ามีเศษเปลือกไข่อะไรตกหล่นลงไป ...... ก็จะได้ออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ ^_^ ........ แล้วก็พักไว้ก่อน
จากนั้นก็ให้เราใส่ขนมปังลงในภาชนะที่จะใช้อบ ซึ่งวันนี้พิมใช้เป็นถ้วยกระเบื้องที่เรียกว่าถ้วย Ramekin นะคะ (8 ถ้วย) หรือถ้าเพื่อน ๆ ไม่มีถ้วยแบบนี้ จะใส่ถาดอลูมิเนียม หรือถาดแก้วที่สามารถเอาเข้าเตาอบได้ ... ก็ได้เช่นกันอ่ะค่ะ
โดยพิมจะใส่ขนมปังลงไปประมาณเกือบครึ่งถ้วยก่อนนะคะ ตามด้วยเนยสด และแครนเบอรี่
แล้วก็ปิดด้านบนด้วยขนมปังอีกทีจนเกือบเต็มถ้วย ....... โดยทั้งขนมปัง เนยสด และแครนเบอรี่ (ครึ่งนึงจากในสูตรด้านบน) แบ่งเฉลี่ยให้ได้ 8 ถ้วยพอๆ กันนะคะ แต่ถ้าใส่ถาดเดียวเลย ก็ไม่ต้องแบ่งค่ะ ^_^
จากนั้นก็เทส่วนผสมของคัสตาร์ดลงไปจนเกือบเต็มถ้วย แล้วใช้ช้อนกดให้ขนมปังจมลงในคัสตาร์ด พักไว้ประมาณ 30 นาที จนกระทั่งขนมปังนุ่มนิ่ม+ซึมซับคัสตาร์ด
ก็เรียงแอ๊ปเปิ้ลที่เราหั่นชิ้นไว้ลงไป ตามด้วยแครนเบอรี่แห้งส่วนที่เหลือนะคะ
จากนั้นนำเข้าอบด้วยไฟ 150 องศาเซลเซียส (อย่าลืมวอร์มเตาให้ได้อุณหภูมินี้ก่อนนำขนมเข้าอบ) เป็นเวลาประมาณ 50 นาที หรือจนกระทั่งสุกดี
เพิ่มเติม :: วางถ้วยขนมลงในถาด และใส่น้ำร้อนลงในถาดประมาณ 1/2 ถ้วย ก่อนนำเข้าอบด้วยอ่ะค่ะ
เพิ่มเติม :: ระยะเวลาในการอบขึ้นกับขนาดของพิมพ์ที่ใช้อบด้วยค่ะ หากใส่ถาดเดียวแบบก้นตื้น (ไม่แบ่งหลายถ้วย) จะใช้เวลาอบประมาณ 1 ชม. แต่ถ้าใส่ชามกระเบื้อง/แก้ว ก้นลึก อาจจะใช้เวลาอบถึง 1 ชม. 20 นาทีก็เป็นได้ค่ะ
และแล้วเมื่อเวลาผ่านไป 50 นาที เราก็จะได้ Apple-Cranberries Bread Pudding ออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ ^_^
ก็นำมาวางพักไว้บนตะแกรงให้เย็นสนิท แล้วก็นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นจนกระทั่งถึงเวลาเสริฟค่ะ
พอถึงเวลาเสริฟ ก็ให้เรานำไอซิ่งมาโรยหน้า ตกแต่งด้วยใบสะระแหน่นิดหน่อยพองาม (แต่วันนี้พิมไม่มี ^__^) เราก็จะได้ Apple-Cranberries Bread Pudding ออกมาหน้าตาน่าทานอย่างนี้ล่ะค่า
ซึ่ง Bread Pudding ตัวนี้เนี่ย จะมีความนุ่ม หวาน หอมจากขนมปังที่แน่นไปด้วยคัสตาร์ด แล้วก็จะได้รสเปรี้ยวนิดๆ จากแอ๊ปเปิ้ลเขียวกับแครนเบอรี่แห้งด้วย ... เรียกว่าทานเดี่ยว ๆ ก็อร่อย และยิ่งทานคู่กับไอติมวนิลาก็ยิ่งอร่อยมากขึ้นค่ะ
ยังไงลองไปทำทานกันดูนะคะ ขนมตัวนี้เป็นขนมที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง แต่หวานไม่มาก ดังนั้นเด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี ผู้สูงอายุทานก็โอเคค่ะ ^_^