หลายวันก่อนพิมไปกินโทสต์สังขยาชาไทยที่โรงแรมนึงแถวเขาใหญ่มา แล้วแอบติดใจค่ะ เพราะมันอร่อยมากกกกกก
พอกลับถึงบ้านที่กรุงเทพฯ ก็เลยหาเวลาลองทำดูโดยใช้สูตรสังขยาชาไทยของครัวบ้านพิมนี่แหละนะคะ และอบขนมปังในแบบของพิมเอง ปรากฎว่าพอจับมารวมกัน อร่อยมากกกกกก คือขนมปังกรอบนอกนุ่มใน หอมเนย ทานคู่กับสังขยาชาไทยที่หวานมันกำลังพอดี แบบว่ากินเพลินจนไม่อยากเลิกกินเลยค่ะ .... เพราะงั้นพิมก็เลยอยากจะเอาสูตรมาแบ่งให้เพื่อนๆ เผื่อใครอยากไปลองทำดูนะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง "สังขยาชาไทย" ::
- ผงชาสำหรับทำชาเย็น 5 ชต.
- น้ำร้อนจัด 3/4 ถ้วย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย
- กะทิอัมพวา 3 กล่อง (600 ml.)
- น้ำตาลทรายขาว 1 + 3/4 ถ้วย
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- เกลือสมุทรป่น 1 ชช.
- นมข้นจืด 1 ถ้วย
** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < **
** ในภาพ เป็นน้ำชาไทยที่ชงมาเรียบร้อยแล้ว **
:: ส่วนผสม "โทสต์" ::
- ขนมปังที่มีความหนาประมาณ 1 นิ้ว ปริมาณมากน้อย ตามชอบ
- เนยสดจืด ทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องจนนิ่มนุ่ม ตามชอบ
*** ปกติ 1 จานเสริฟ พิมใช้ขนมปัง 2 แผ่นใหญ่ และเนยสำหรับทาขนมปัง 2 ช้อนโต๊ะ ***
:: วิธีทำ ::
ก่อนจะไปลงมือทำ พิมขออธิบายก่อนนะคะว่า โทสต์สังขยาชาไทยของเรา แบ่งออกเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกก็คือสังขยาชาไทย และส่วนที่สองก็คือ โทสต์นะคะ ซึ่งเราจะทำสังขยาก่อน เสร็จแล้วระหว่างพักสังขยาให้อุ่น ๆ เราก็จะค่อยทำโทสต์กันค่ะ ^_^
อันดับแรกเรามาชงชาที่จะใช้ทำสังขยาชาไทยกันก่อนเน๊าะคะ .... วิธีชงก็ง่ายมากค่ะ ให้เราเอาผงชาเทใส่ในชามใบโตหรือถ้วยใบใหญ่ที่ทนความร้อนได้ แล้วเทน้ำร้อนจัดตามลงไปนะคะ คนให้เข้ากัน แล้วก็พักไว้ 5 นาที จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำชาไว้ ส่วนกากชาทิ้งไปค่ะ
สำหรับวิธีกรองชา พิมกรองโดยผ่านถุงกรองชาโบราณ ที่เป็นผ้าดิบสีขาว ซึ่งเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ตามร้านที่ขายพวกผงชากาแฟในตลาดสดหรือไม่ก็ตามในซุปเปอร์มาร์เกตนะคะ ราคาประมาณ 25-40 ขึ้นกับขนาดค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวก หรือหาซื้อไม่ได้ จะกรองด้วยผ้าขาวบางทบสัก 3-4 ชั้นก็ได้นะคะ
จากนั้นในกาละมังใบที่ 1 ให้เราตอกไข่ทั้ง 5 ฟองใส่ลงไป ตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ...... แล้วพักไว้ก่อนค่ะ
ในกาละมังใบที่ 2 ให้เราใส่แป้งสาลีลงไป ตามด้วยน้ำชาที่เราชงไว้เมื่อกี้นี้ แล้วคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี แป้งไม่เหลือเป็นเม็ดนะคะ ^_^
จากนั้นก็ใส่กะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล และก็เกลือป่น
คนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด ก็จะได้ออกมาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ
ก็เอาไข่ที่เราเตรียมไว้ในตอนแรก มาเทใส่ลงไป คนให้เข้ากันดี
ก็นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง (ชั้นเดียว) จะได้ออกมาเป็นอย่างในภาพด้านล่าง ขวามืออ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นก็ถึงเวลาตุ๋นล่ะค่ะ ..... ก็ให้เราหาหม้อที่ใบใหญ่กว่ากาละมังมา 1 ใบ (พิมใช้ก้นซึ้ง) ใส่น้ำลงไปกะว่าให้สูงมากกว่าความสูงของสังขยาในกาละมังสักนิดนึง แล้ววางผ้าขนหนูพับทบสัก 2 ชั้นลงไปที่ก้นหม้อ ใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือดก็วางกาละมังส่วนผสมลงไป แล้วก็เริ่มการตุ๋น (ทำให้สุก) ล่ะค่ะ ........ โดยในขั้นตอนนี้เราจะต้องใช้ตะกร้อมือคนๆๆๆ ส่วนผสมในกาละมังเกือบจะตลอดเวลา (แต่ไม่ต้องคนเร็วมาก) ไม่งั้นสังขยาของเราจะเนื้อไม่เนียน และอย่าเร่งไฟให้แรงเกิน ไม่งั้นสังขยาเราอาจจะเป็นเม็ดๆ ก็ได้อ่ะค่ะ
ก็กวนๆ คนๆ ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็นๆ นะคะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที สังขยาของเราก็จะเริ่มข้น และพอสัก 25-35 นาที สังขยาของเราก็จะข้นมากขึ้น จนเห็นเป็นรอยของตะกร้อเวลาที่คน (กวน) ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
จากนั้นยกกาละมังสังขยาลงจากเตา แล้วก็เทนมข้นจืดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสังขยาร้อนน้อยลงและนมเนียนไปกับสังขยา ก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยล่ะค่ะ หยุดคนได้เลย
เราก็จะได้สังขยาชาไทยออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ ........ พักไว้จนเย็นสนิท แล้วค่อยตักใส่กล่องปิดฝาแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ได้เป็นอาทิตย์อ่ะค่ะ (เวลาเก็บในตู้เย็น สังขยาจะข้นขึ้น แต่พอทิ้งไว้ให้หายเย็น จะกลับมาข้นเท่าเดิม)
โอเคค่ะ เมื่อได้สังขยามาแล้ว อันดับต่อไปก็คือการทำโทสต์ หรือขนมปังปิ้งนะคะ
ก็ให้เราหั่นขนมปังเป็นชิ้นใหญ่หน่อยค่ะ กว้างยาวประมาณ 1 นิ้วกว่าๆ แล้วทาเนยให้ทั่วโดยรอบชิ้นขนมปังแต่ละชิ้นอ่ะค่ะ
จากนั้นนำไปอบให้กรอบนอกนุ่มในนะคะ ซึ่งวันนี้เนี่ยพิมก็ใช้วิธีการอบในหม้อทอดไร้น้ำมัน Magic Chef อ่ะค่ะ
ดูรีวิวหม้อทอดไร้น้ำมัน Magic Chef >>> คลิ๊กที่นี่ <<<
โดยพิมจะใช้อุณหภูมิในการอบที่ 180 องศา และใช้เวลาอบ 3 นาทีนะคะ ซึ่งจะอบรอบแรก 2 นาทีก่อน พอครบเวลา ก็เปิดฝา แล้วพลิกกลับอีกด้านมาอบต่ออีก 1 นาที แบบว่ารวดเร็วมากๆ ไม่ต้องรอนานเลยค่ะ
และเมื่ออบเสร็จแล้ว เราก็จะได้โทสต์ที่กรอบนอกนุ่มใน และหอมเนยแบบในภาพด้านล่างนี้นะคะ ^_^
ก็นำโทสต์มาเรียงใส่จานหรือภาชนะอะไรก็ได้ที่เราจะใช้เสริฟ จะเรียงแบบเป็นกองๆ หรือเรียงรูปแบบไหนก็ได้ ตามชอบเลยค่ะ แล้วก็โรยด้านบนด้วยน้ำตาลไอซิ่งนิดหน่อย แต่อย่าโรยมาก เพราะไม่งั้นมันจะหวานเกิน (หรือจะไม่โรยก็ยังได้)
สุดท้ายก็ราดด้วยสังขยาชาไทยปริมาณมากน้อยตามชอบนะคะ แล้วเราก็จะได้ "โทสต์สังขยาชาไทย" ออกมาหน้าตาอย่างในภาพด้านล่างนี้เลย กินคู่กับชาดำเย็นหรือร้อนสักแก้ว เป็นของว่างยามสายหรือของว่างยามบ่ายก็ดีงามค่ะ
ยังไงเพื่อนๆ ลองไปทำทานดูกันนะคะ สำหรับสังขยาสามารถทำแช่ตู้เย็นไว้ได้ประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ ส่วนขนมปังแนะนำว่าจะทานค่อยเอามาหั่นแล้วอบอุ่นๆ จะอร่อยกว่าอบเก็บไว้นะคะ ^_^
แล้วพบกับพิมในเมนูถัดไปจ้า ^_^