หลายวันก่อน คุณสามีบอกอยากกินกราแตงครีมปู แต่พิมหาเนื้อปูสด ๆ ไม่ได้ ก็เลยผลัดคุณสามีมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อวาน มีโอกาสไปเดินตลาดแฮปปี้แลนด์ตอนเช้า ๆ เจอเนื้อปูแกะแบบสด ๆ เนื้อปูยังหอมอยู่ ก็เลยรีบจัดการซื้อมาทำกราแกงครีมปูให้คุณสามีอ่ะค่ะ
กราแตง อูกราแตง หรือ "Au Gratin" หลายคนที่ไม่รู้จัก อาจจะสงสัยว่าเป็นอาหารประเภทไหน หน้าตายังไงนะคะ ... Au Gratin จริง ๆ แล้วเป็นภาษาฝรั่งเศส ที่เป็นชื่อของอาหารอิตาเลียนชนิดนึงอ่ะค่ะ อูกราแตง (เรียกสั้น ๆ ว่า กราแตงล่ะกันเน๊าะ) เป็นชื่ออาหารที่โรยทับด้วยเกล็ดขนมปังป่น หรือ/และ ชีสขูดฝอย แล้วนำไปอบให้หน้าชีสเหลืองเกรียมนะคะ ^_^ ซึ่งเท่าที่พิมเคยทำมาเนี่ย ก็จะมีกราแตงหลายอย่างมาก ทั้ง macaroni au gratin , broccoli au gratin , potato au gratin, spinach au gratin และ crabmeat au gratin ที่พิมกำลังจะทำให้เพื่อน ๆ ได้ดูกันในวันนี้ด้วยอ่ะค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- เนื้อปู 300 กรัม
- มอสเซอเรล่าชีส 2 ถ้วย (หรือจะเป็นมอสเซอเรล่าชีส 1 ถ้วย + เชดด้า 1 ถ้วยก็ได้)
- แครอท หั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1/3 ถ้วย
- ถั่วแขก หั่นเป็นชิ้นเล็ก 1/3 ถ้วย
- ข้าวโพดเหลือง ฝานเป็นเม็ด 1/3 ถ้วย
- หอมใหญ่ หั่นชิ้นเล็ก 1/2 ถ้วย
- เกลือสมุทรป่น 1 ช้อนชา
- พริกไทยดำป่น 1/2 ช้อนชา
- ใบกระวาน 2-3 ใบ
- เนยสด 4 ช้อนโต๊ะ
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 3 ช้อนโต๊ะ
- วิปปิ้งครีม 1 ถ้วย
- น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย
- พาสลีย์นิดหน่อย สำหรับตบแต่ง
- ขนมปังแผ่น 4-6 แผ่น
ถ้วย = ถ้วยตวงมาตรฐาน ส่วน ช้อนโต๊ะ-ช้อนชา = ช้อนตวงมาตรฐาน เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียด สถานที่ซื้อ และวิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง ได้ >> ที่นี่ << ค่ะ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้นเราก็จะมาเตรียมในส่วนของผักต่าง ๆ กันก่อนนะคะ ซึ่งวันนี้เนี่ยเราจะมีผักที่ต้องเตรียมอยู่ 4 อย่างด้วยกันอ่ะค่ะ ^_^
อย่างแรกก็คือ แครอท ... ให้เราปอกเปลือก ล้างสะอาด ซับด้วยผ้าให้แห้ง แล้วหั่นไว้เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ นะคะ อ้อๆ .... แครอทเนี่ย เราใช้แค่ส่วนเดียว (จาก 3 ส่วนในภาพด้านล่าง) ไม่ได้ใช้ทั้งหัว แต่พิมเอามาให้ดูทั้งหัว เผื่อใครเพิ่งหัดทำกับข้าวอ่ะค่ะ ^_^
ต่อมาอย่างที่สอง คือ ถั่วแขกนะคะ ... ก็ให้เราตัดส่วนขั้วและปลายฝักถั่วทิ้งไป เพราะมันแข็ง เรากินไม่ได้ T___T แล้วหั่นไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ อย่างในภาพด้านล่างอ่ะค่ะ (ใช้ประมาณ 6-8 ฝัก ขึ้นกับว่าฝักเล็กหรือใหญ่)
ส่วนอย่างสาม คือ ข้าวโพดหวาน หรือบางคนเรียก ข้าวโพดเหลือง บางคนก็เรียก ข้าวโพดสวิส ก็ตามแต่สะดวกเลยนะคะ
สำหรับข้าวโพดเนี่ย ก็ให้เราแกะเปลือกข้าวโพดออก แล้วดึงพวกเส้นไหมฝอย ๆ ออกด้วยค่ะ เสร็จแล้วก็ล้างน้ำให้สะอาด ก่อนจะเอามาฝานไว้เป็นเม็ด ๆ นะคะ (ใช้ประมาณ 1/3 ฝัก)
ส่วนแอย่างสุดท้ายที่เราต้องเตรียม ก็คือ หัวหอม ค่ะ ..... ก็ให้เราปอกเปลือกหัวหอม ผ่าเป็น 2 ส่วนตามแนวตั้ง แล้วนำ 1 ส่วนมาหั่นตามรูปภาพด้านล่างให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ นะคะ หรือถ้าใครไม่สามารถหั่นได้ จะใช้วิธีสับเอาก็ได้ค่ะ ** แต่หั่นง่ายกว่านะ **
และเมื่อเราเตรียมผักทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาลงมือทำล่ะค่ะ (ใกล้จะได้กินแหละ ^_^)
ก็ให้เราเอาหม้อใบเล็ก ๆ ใส่น้ำเปล่าสูงสักประมาณ 2-3 นิ้วนะคะ แล้วนำไปตั้งบนเตาไฟโดยใช้ไฟแรงให้เดือดค่ะ
และพอน้ำเดือด เราก็ทยอยใส่ถั่วแขก แครอท ข้าวโพดลงไปลวกให้สุกทีละอย่างนะคะ ซึ่งใครที่ชอบผักนิ่ม ๆ อาจจะลวกสัก 2 นาที แต่สำหรับพิมชอบที่ไม่นิ่มมาก ก็จะลวกแค่ประมาณ 1 นาทีเท่านั้นอ่ะค่ะ และเมื่อลวกผักทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้เอาไปน๊อคในน้ำเย็น เพื่อไม่ให้ผักสุกเกินไปนะคะ และเมื่อผักหายร้อนแล้ว ก็เทใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ
จากนั้นยกกระทะอีกใบขึ้นตั้งเตาไฟนะคะ ....... ใส่เนยสดลงไป
พอเนยละลายดีแล้ว ก็ใส่หอมที่เราหั่นไว้ลงไปผัดให้สุกใสนะคะ (พิมใช้เวลาผัดอย่างใจเย็น ประมาณ 3-5 นาที)
และพอหอมสุกใสดีแล้ว ก็ใส่แป้งสาลีเนกประสงค์ลงไป แล้วก็ผัดๆ ให้แป้งเข้ากับเนยกับหัวหอม จนกระทั่งแป้งสุกใส
ก็ใส่วิปปิ้งครีม + น้ำซุปลงไปค่ะ โดยแบ่งใส่ประมาณสัก 3-4ครั้งนะคะ ...... ในการใส่แต่ละครั้ง ใส่เสร็จแล้วก็คนให้เข้ากัน ก่อนจะใส่นมครั้งต่อไปอ่ะค่ะ
ในภาพ พิมผสมวิปปิ้งครีมกับน้ำซุปรวมกันในถ้วยแล้ว
จากนั้นเราก็ปรุงรสด้วยเกลือป่น และพริกไทยป่น ให้ได้รสเค็มปะแหล่ม ๆ และมีกลิ่นหอมพริกไทยพอประมาณนะคะ
ปกติเนื้อปูที่เราซื้อมาจะมีความเค็มพอประมาณอยู่แล้ว ดังนั้นเราจะไม่ปรุงรสด้วยเกลือเยอะ เพราะอาจจะเค็มเกินไปจ้า
แล้วก็ใส่ใบกระวาน เพื่อแต่งกลิ่น ลงไปด้วยสัก 2-3 ใบค่ะ
ตามด้วยแครอท ถั่วแขก และข้าวโพดต้มสุก และมอสเซอเรล่าชีสสัก 1/2 ถ้วยนะคะ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน แล้วก็ปิดไฟเตาได้เลยอ่ะค่ะ
สุดท้ายก็ใส่เนื้อปูลงไป คนเบา ๆ อีกครั้งให้เข้ากัน .... ถ้าใครอยากให้เนื้อปูยังแลดูเป็นชิ้นสวยงามเมื่ออบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ห้าม !! คนแรงเด็ดขาด เพราะไม่งั้นเนื้อปูที่เราอุตส่าห์ซื้อมาแบบสวย ๆ จะแตกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ในพริบตาเลยอ่ะค่ะ T__T แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่องนี้ ก็คนได้ตามสะดวกเลยจ้า
จากนั้นก็ตักใส่ถ้วย/ชามที่เข้าเตาอบได้นะคะ เช่น ถ้วยเซรามิค ถ้วยฟอยด์ โดยจะใส่เป็นถ้วยเดียวเลย หรือแบ่งใส่เป็น 2-3-4-5 ถ้วย ก็เอาตามที่ชอบเลยอ่ะค่ะ
เสร็จแล้วก็โรยด้วยมอสเซอเรล่าชีสสสสสส จนเต็มหน้าถ้วยเลยนะคะ
แล้วก็นำเข้าอบในหม้อทอดอเนกประสงค์ Summer Magic Chef ด้วยไฟ 170 องศา เป็นเวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
และเมื่อครบเวลาเราก็จะได้ กราแตงครีมปู ออกมาหน้าตาอย่างนี้นะคะ ..... ซึ่งจริง ๆ ก็สามารถยกออกมา แล้วเอาช้อนตักกินได้เลยอ่ะค่ะ แต่พิมอยากให้มีอะไรหนักท้องมากกว่านี้สักหน่อย ก็เลยขอปิ้งขนมปังต่อสัก 3 แผ่น เพื่อเอากินกับกราแตงครีมปูนะคะ
ก็ให้เราหยิบขนมปังตามจำนวนที่เราต้องการ ลงไปวางในตะแกรงในหม้อ Summer Magic Chef ค่ะ (มากสุดใส่ได้ 4 แผ่นขนาดปกติ ต่อ 1 ครั้ง)
ตั้งอุณหภูมิตัวเครื่องที่ 200 องศา ตั้งเวลาไว้ที่ 3 นาที (ถ้าชอบแบบไม่กรอบ แค่ร้อน ๆ ก็สัก 2 นาที) แล้วก็กดปุ่ม Start เพื่อให้เครื่องทำงานนะคะ
และเมื่อครบเวลาแล้ว เราก็จะได้ขนมปังปิ้งออกมาอย่างในภาพด้านล่างนี้อ่ะค่ะ
สุดท้ายก็จัดเสิร์ฟพร้อมกับกราแตงที่เราทำไว้เมื่อกี้นี้ และน้ำผลไม้คั้นสดๆ สักแก้ว .......... เท่านี้เราก็จะได้มื้อเช้าที่ทั้งอร่อย ได้สารอาหารครบ และอิ่มสุดๆ แล้วนะคะ ^_^
ซึ่งเมนูนี้เนี่ย เนื่องจากว่ารสไม่จัด เพราะงั้นเลยกินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่อ่ะค่ะ อีกทั้งแถมยังสามารถจะกินเป็นมื้อเช้า มื้อกลางวัน มื้อเย็น หรือจะมื้อดึก ก็ยังสบาย ๆ เลยนะคะ ^_^
สำหรับใครที่อยากกินเป็นมื้อเช้า แต่กลัวว่าจะเสียเวลาต้องมานั่งเตรียมของ เดี๋ยวไปทำงานไม่ทัน พาลูกพาหลานไปโรงเรียนไม่ทัน พิมก็ขอแนะนำว่าให้ทำเก็บแช่ตู้เย็นเอาไว้ก่อนเลย แล้วเช้าก็แค่เอามาอุ่นทานอ่ะค่ะ โดยจะทำแค่ตัวครีมปูเก็บแช่ตู้เย็นไว้ เช้ามา..เทใส่ถ้วย โรยชีส แล้วใส่หม้อ magic chef ตั้งเวลาไว้ 15 นาที ระหว่างนั้นก็ไปอาบน้ำแต่งตัว พออาบเสร็จก็ได้กินพอดีนะคะ หรือจะทำแบบเสร็จเรียบร้อยไว้เลย แล้วใส่ตู้เย็นไว้ เช้ามาก็แค่เอามาอุ่นในไมโครเวฟสัก 3 นาที อย่างนี้ก็สะดวกดีเหมือนกันอ่ะค่ะ
ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ ติดขัดตรงไหนก็มาถาม ๆ กันไว้ เดี๋ยวพิมมาตอบให้อีกทีค่ะ ^_^