2-3 วันก่อน มีน้องคนนึงเก็บใบชะพลูมาฝากพิมเยอะมากก.ก..ก เลยค่ะ หลังจากพิมเอาไปกินคู่กับเมี่ยงคำอยู่ 2 รอบแล้ว ใบชะพลูก็ยังเหลืออยู่อีกพอประมาณ ก็เลยคิดว่าเอามาทำเป็นแกงอะไรสักอย่างกับใบชะพลูกินดีกว่า และหลังคิดไปคิดมา ก็ได้ออกมาเป็นแกงปูนี่แหละค่ะ
แกงปูกับใบชะพลู เป็นอีกหนึ่งอาหารใต้ที่สมัยพิมอยู่สุราษฎร์ได้กินบ่อยครั้งนะคะ บางทีแม่คุณสามีก็ซื้อมาฝาก บางทีลูกพี่ลูกน้องของคุณสามีก็ทำมาฝาก บางทียายก็ทำมาฝาก (ยายกะแม่คุณสามีทำอาหารใต้อร่อยมากกกกก แต่ยายแก่แล้ว ส่วนแม่ก็ไม่ค่อยมีเวลา) หรือบางทีเดิน ๆ ไปตลาดนัดแถวบ้านยายตอนเย็น เจอก็ซื้อกลับมากินที่บ้านอ่ะค่ะ
แต่พอกลับมาอยู่กรุงเทพฯ เนี่ย ไม่ค่อยเห็นมีใครค่อยทำขายเลย (เจอแต่น้ำยาปูซะมาก) ครั้นจะหาเนื้อปูแกะแบบสด ๆ มาทำกินเอง ก็ไม่ค่อยเจอเนื้อปูสดเลยนะคะ (เจอแต่ปูที่พ่อค้าบอกว่าสด แต่พอถึงบ้าน เนื้อปูอย่างเละมาเลย) จนวันก่อนพิมไปตลาดสดแฮปปี้แลนด์ตอนเช้า ๆ แล้วเจอร้านขายของทะเลร้านนึง เค้ากำลังหยิบภถงเนื้อปูแกะขึ้นมาจากลัง พิมก็เลยไปขอเค้าดู ปรากฎว่าเนื้อปูสดมากกกก ลองชิมแล้วเนื้อหวานมาก ก็เลยซื้อเค้ามาครึ่งโล แล้วก็เอากลับมาทำเป็นแกงปูใบชะพลูทานนี่แหละค่ะ ^__^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- เนื้อปู 300 กรัม
- พริกแกงกะทิใต้ 3 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนชา
- กะทิอัมพวา 2 ขวดเล็ก
- น้ำเปล่า 1 + 1/2 ขวดเล็ก (ขวดกะทิอัมพวา)
- น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
- เกลือสมุทรป่น 2 ช้อนชา
- น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
- ใบชะพลู 40 ใบขนากกลาง
ถ้วย = ถ้วยตวงมาตรฐาน ส่วน ช้อนโต๊ะ-ช้อนชา = ช้อนตวงมาตรฐาน เพื่อน ๆ สามารถอ่านรายละเอียด สถานที่ซื้อ และวิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวง ได้ >> ที่นี่ << ค่ะ
:: วิธีทำ ::
เริ่มต้น .... ให้เราโขลกพริกแกงใต้กับกะปิรวมกัน แล้วตักใส่ถ้วยพักไว้ก่อนนะคะ
จากนั้นก็หันมาเทกะทิอัมพวาใส่ลงในหม้อใบย่อม ๆ สักใบ ตามด้วยน้ำเปล่าค่ะ ^_^ (ตวงน้ำเปล่า ด้วยขวดกะทิอัมพวาเลยนะคะ ใช้น้ำเปล่าประมาณ 1 ขวดครึ่ง) แล้วเอาหม้อตั้งไฟกลาง รอให้กะทิเดือดค่ะ
พอกะทิเดือดปุ๊บ ก็ให้เราใส่พริกแกงลงไปคนให้ละลายในหม้อน้ำกะทิเลยนะคะ ..... แต่ถ้าทำแบบนี้เนี่ย กว่าพริกแกงจะละลาย อาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยอ่ะค่ะ เพราะงั้นแล้วพอกะทิเดือด ให้เพื่อน ๆ ใช้วิธีตักกะทิจากหม้อใส่ลงในถ้วยพริกแกงสัก 1 ทัพพี แล้วคนให้เข้ากันดี ก่อนที่จะเทใส่ลงไปในหม้อกะทินะคะ ซึ่งถ้าทำแบบนี้ พอพริกแกงลงไปในหม้อปุ๊บ คน 2-3 ที พริกแกงก็จะละลายเข้ากับน้ำแกงเลยอ่ะค่ะ ไม่ต้องรอนาน ^_^
แล้วก็ปรุงรสด้วยน้ำปลา เกลือ กับน้ำตาลปี๊บค่ะ ซึ่งในส่วนของน้ำปลากับเกลือเนี่ย เพื่อนๆ อาจจะใส่ลงไปสักครึ่งนึงก่อนนะคะ เพราะไม่รู้ว่าพริกแกงกับกะปิที่เพื่อน ๆ ใช้จะเค็มมากน้่อยแค่ไหน ... ซึ่งถ้าปรุงรสรอบแรก คนให้น้ำตาลละลาย แล้วลองชิมดู หากยังไม่ค่อยเค็ม ก็ค่อยเติมเกลือ น้ำปลาเพิ่มทีหลังได้ แต่ถ้าเค็มมากไป แล้วจะแก้ไขลำบากอ่ะค่ะ ^_^
และเมื่อชิมจนได้รสชาติที่ชอบแล้ว ก็ใส่เนื้อปูแกะลงไปนะคะ ซึ่งเพื่อน ๆ สามารถใช้เนื้อปูแกะส่วนไหนก็ได้ จะแบบก้อนใหญ่ก้อนเล็กก้อนใหญ่ก็ได้ เลือกเอาตามความชอบ และความสะดวกเลยนะคะ
ตามด้วยใบชะพลูที่หั่นครึ่งใบค่ะ (หั่นให้มีขนาดเล็กลง จะได้ตักทานง่ายๆ)
แล้วก็คนเบา ๆ พอให้เข้ากัน อย่าคนแรงมากน๊าา เดี๋ยวเนื้อปูจะเละ ไม่เป็นชิ้นสวย ยกเว้นแต่ไม่แคร์ ก็คนโลดดดเลยจ้า ........ และพอเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ
แกงปูแบบนี้ เพื่อนพิมที่เป็นคนภูเก็ตบอกว่าเค้านิยมกินกับเส้นหมี่ลวกอ่ะค่ะ เพราะนั้นแล้วเราก็มาจัดการกับเส้นหมี่กันต่อเลยนะคะ ซึ่งวันนี้พิมเลือกใช้เส้นหมี่แห้ง ก็เอาเส้นไปแช่น้ำเปล่าสัก 3-5 นาที พอเส้นนิ่่ม ก็เทน้ำทิ้งไปอ่ะค่ะ
จากนั้นก็ตั้งหม้อน้ำเปล่าบนเตาไฟ ใช้ไฟกลางค่อนไปทางแรงนะคะ พอน้ำเดือดก็ใส่เส้นหมี่ลงไปลวกสัก 30 วิ - 1 นาที หรือจนเส้นนิ่มตามต้องการ ก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำอ่ะค่ะ
พอถึงเวลาทาน ก็หยิบเส้นหมี่ใส่ชาม ปริมาณตามชอบนะคะ (ชามซ้ายเป็นเส้นหมี่ ชามขวาเป็นหนมจีน)
แล้วก็ตักแกงปูราดลงไปค่ะ ^__^
แล้วเราก็จะได้ขนมจีนแกงปูออกมาอย่างในภาพด้านล่างนี้นะคะ ^__^ ขอบอกว่ารสชาติแกงปูเจ้มจ้น เอ๊ยยย เข้มข้นมากค่ะ แถมเนื้อปูก็หว๊านนนหวาน ใบชะพลูก็ห๊อมมมหอมมม ... รวมกันแล้วอร่อยมากเลยค่ะ
ซึ่งแกงปูแบบนี้เนี่ย ถ้าได้พริกแกงหอม ๆ เนื้อปูแกะใหม่ๆ และกะทิดีๆ ...... แค่ปรุงเพิ่มนิดหน่อย ก็อร่อยมากแล้วนะคะ
ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไป หรือถ้าเพื่อน ๆ สงสัยเรื่องอะไร ก็ฝากคำถามไว้ได้นะคะ แล้วพิมจะเข้ามาตอบให้เรื่อย ๆ จ้า