วันนี้พิมอยากจะชวนเพื่อน ๆ มาเปลี่ยนบรรยากาศจากอาหารไทย ๆ ที่พิมทำบ่อย ๆ มาเป็ฯอาหารฝรั่งทานกันบ้างดีกว่านะคะ ^_^

ก็เมื่อหลายวันก่อน พิมไปทำธุระที่ห้างๆ  นึง แล้วก็เดินผ่านร้านอาหารฝรั่งที่ขายพวกพาสต้าร้านนึงค่ะ  แล้วที่ตู้โชว์อาหารหน้าร้าน เค้าก็มีเมนูสปาเกตตี้อะไรสักอย่างที่เป็นครีมๆ แล้วก็มีกุ้ง  มีผักเขียวๆ  ที่เหมือนก้านขึ้นฉ่ายอยู่ด้วย   แลดูน่ากินมากกกกกกก แต่วันนั้นพิมค่อนข้างรีบค่ะ  ทั้งทำธุระส่วนตัว ทั้งนัดลูกค้า ก็เลยไม่ได้แวะเข้าไปกิน   ....... แต่ด้วยความอยากกินยังมีอยู่  ^_^  พอกลับถึงบ้านก็เลยลองค้นใน google ดูว่าเมนุหน้าตาประมาณนี้เค้าเรียกว่าอะไร  ปรากฎเค้าเรียกว่า  "สปาเกตตี้ครีมซอสกุ้ง"  ค่ะ  ...... วิธีการทำคล้ายๆ  กับสปาเกตตี้ไวท์ซอส  แต่ไม่ใส่แป้งสาลี  ใส่แต่วิปปิ้งครีมล้วนๆ   ปรุงรสด้วยเกลือพริกไทยนิดหน่อย  แล้วเอามาเคล้ากับเส้นสปาเกตตี้ ก็จะได้เป็นเมนูนี้แล้วล่ะค่ะ  พิมลองทำไปหลายรอบ รู้สึกว่าอร่อยดี ก็เลยอยากเอาเมนูนี้มาฝากเพื่อน ๆ ซะหน่อยค่า

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- เส้นสปาเกตตี้ต้มสุก  220 กรัม
- กุ้งสดแกะเปลือก ผ่าหลัง ไว้หาง  5-6 ตัว   (น้ำหนักก่อนแกะเปลือกประมาณ 150-170 กรัม) 
- เห็ดแชมปิญอง 2 ดอก  (ใช้เห็ดฟางดอกตูมแน่นๆ แทนได้)
- หอมใหญ่ 1/4 ลูก   (ถ้าลูกเล็กๆ  ก็ 1/2 ลูก)
- ก้านขึ้นฉ่ายยาว 1 คืบ 3 ก้าน  (เลือกก้านที่สีเขียวสด ก้านอวบๆ) 
- วิปปิ้งครีม 1/2 ถ้วย
- น้ำเปล่า  2  ชต.
- พริกไทยป่น 1/4 ชช.
- เกลือป่น 1/2 ชช.
- น้ำมันมะกอก 2 ชต.

** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง  ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง  ชต. ชช.  ช้อนตวงคืออะไร  วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < ** 

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกมาดูเส้นสปาเกตตี้ที่พิมต้มไว้กันก่อนนะคะ ก็หน้าตาแบบนี้เลย พิมต้มไว้ตั้งแต่เมื่อวานตอนที่จะทำสปาเกตตี้ผัดขี้เมาค่ะ  แล้วมีเหลือก็เลยเอามาทำเมนูนี้ซะเลย

หากใครยังได้ต้ม หรือไม่เคยต้ม วิธีต้มก็ทำแบบนี้เลยนะคะ ..... ใช้หม้อใบโตหน่อยค่ะ ใส่น้ำลงไปให้สูงสัก 1 คืบ  (แล้วแต่ปริมาณของเส้นที่ต้มด้วย)  ใส่เกลือป่นลงไปสัก 1/2 ชต. นำไปตั้งไฟจนน้ำเดือดจัด ก็ใส่เส้นสปาเกตตี้ดิบลงไปสัก 500 กรัม   ใช้ทัพพีเขี่ยให้เส้นสปาเกตตี้อยู่ในน้ำให้หมด  แล้วใช้เวลาต้มประมาณ 8-10 นาทีตามที่ระบุไว้ที่ซอง  หรือตามความแข็งนิ่มของเส้นที่ชอบ  

โดยช่วงแรกๆ  ที่พิมหัดต้ม  พิมต้มไปประมาณ 9 นาที พิมจะหยิบเส้นขึ้นมา ล้างน้ำเย็น แล้วลองกัดดูค่ะ  ถ้ารู้สึกว่าเส้นแข็งไป จะต้มต่ออีก 1 นาที   แต่ถ้ารู้สึกเส้นแข็งมาก จะต้มต่ออีก 2-3 นาที  แต่ถ้ารู้สึกว่าเส้นนิ่มแล้ว ก็ปิดไฟเตา  เทเส้นสปาเกตตี้ใส่กระชอน  ถ้าใช้เส้นทันทีก็นำไปทำอาหารได้เลย แต่ถ้ายังไม่ใช้ให้ล้างด้วยน้ำเย็น เพื่อให้ความร้อนในเส้นหมดไป เส้นจะได้ไม่สุกต่อ  จากนั้นเคล้าด้วยน้ำมันมะกอกสักนิด เพื่อไม่ให้เส้นติดกัน  แล้วพอเส้นหายร้อนก็ค่อยแบ่งใส่ถุงใส่กล่องเก็บไว้ใช้ในมื้อถัดไปค่ะ  ........... ^_^ 

ส่วนนี่ .. ก็เป็นกุ้งที่พิมเลือกใช้ในวันนี้นะคะ  แกะเปลือก ไว้หาง ผ่าหลัง ชักเส้นดำออก ^_^  ซึ่งเพื่อน ๆ จะใช้กุ้งสดหรือกุ้งแช่แข็งก็ได้ เอาตามสะดวกเลย แต่กุ้งสดจะเนื้อหวานกว่า หอมกว่า แต่กุ้งแช่แข็ง เนื้อจะเด้งกว่า กรอบกว่าอ่ะค่ะ    

ต่อมาก็จัดการผักกันนะคะ .... สำหรับขึ้นฉ่าย พิมแนะนำให้เลือกก้านที่ไม่แก่ แต่สีเขียวสด และก็เลือกกก้านที่อวบนิด ๆ นำไปล้างให้สะอาด แล้วนำมาซอยบาง ๆ ไว้ค่ะ  

เห็นแชมปิญอง ..... พิมซื้อมาใส่ผัดขี้เมาเมื่อวันก่อน  สภาพตอนวันนี้ก็เลยไม่ค่อยสวยเท่าไหร่นัก แต่ก็ยังโอเคค่ะ  เอามาผัดได้  ก็นำเห็ดไปล้าง ซับให้แห้ง แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กนะคะ

หอมใหญ่ ...... พิมใช้ประมาณ 1/4 ลูกขนาดกลางค่ะ  นำมาปอกเปลือก แล้วก็หั่นไว้เป็นชิ้นเล็กๆ  เช่นกันค่า

และเมื่อเตรียมทุกอย่างเสร็จ ก็มาลงมือปรุงกันเลยดีกว่า ^_^ 

ตั้งกระทะบนเตาไฟนะคะ   ใช้ไฟกลางค่อนมาทางอ่อนหน่อย แต่ไม่ต้องให้อ่อนมาก  ....... ใส่น้ำมันมะกอกลงไป พอน้ำมันร้อนก็ใส่หอมใหญ่ลงไปผัดให้สุกใสค่ะ 

ตามด้วยกุ้ง  ผัดจนกุ้งเกือบสุก .. ก็ใส่เห็ดลงไป ผัดให้เข้ากันพอเห็ดสลดนะคะ

จากนั้นก็ใส่วิปปิ้งครีม  น้ำเปล่าค่ะ   ปรุงรสด้วยเกลือป่น พริกไทยป่น ... คนให้เกลือละลาย  ชิมรสชาติตามชอบ ออกเค็มๆ  มันๆ  รสจะหนาๆ นิดนึงนะคะ    (พอใส่เส้นลงไปคลุกเคล้า รสชาติซอสจะอ่อนกว่าตอนยังไม่ใส่เส้น) 

เพิ่มเติม ::  ถ้ามีซอสทาบาสโก้ อาจจะเหยาะไปสักนิด จะช่วยตัดเลี่ยนได้ค่ะ

พอได้รสที่ชอบแล้ว  ก็ใส่ก้านขึ้นฉ่ายลงไป ตามด้วยเส้นสปาเกตตี้ต้มสุก    

ผัดให้เข้ากันอีกที ก็ใช้ได้ล่ะค่ะ ปิดไฟเตาได้เลย ^_^ 

สุดท้ายก็ตักใส่จานเสริฟร้อนๆ นะคะ  โรยด้วยพริกไทยบดหยาบอีกนิดหน่อย ....... กินเพลินเลยทีเดียวค่า

เมนูนี้เนี่ย .. พิมย้ำนิดนึงว่ารสชาติค่อนข้างหนาและหนัก เพราะอุดมไปด้วยวิปปิ้งครีมข้นๆ  ดังงั้นแล้วควรทานในปริมาณที่กำลังพอดีนะคะ  ตามสูตรข้างบนนี่ถ้าแบบกินเพลินๆ  ก็ได้ 2 จานล่ะค่ะ  ... แต่เอาจริง คุณสามีพิมก็กินคนเดียวล่ะค่า   ^_^ 

 ยังไงไปลองทำกันดูน๊า ไม่แน่อาจจะกลายเป็นเมนูโปรดของเพื่อน ๆ อีกเมนูนึงก็ได้อ่ะค่ะ