อาทิตย์ก่อน..พิมรับงานทำอาหารเป็นหม้อใหญ่ไว้ 4-5 อย่าง หนึ่งในนั้นมีเมนูนึงที่ต้องใช้ขิงแก่ประมาณ 2 โล  

พิมก็เลยไปที่ร้านขายผักเจ้าประจำ  สั่งขิง 2 โล    แต่คนขายได้ยินเป็นว่าขิง 4 โล  - -"  ก็เลยจัดมาให้ตามที่เค้าได้ยิน โดยที่พิมก็ไม่ได้ตรวจเช็คอะไรเลย >_<  (สะเพร่าเอง)  ปรากฎว่าหลังจากทำอาหารส่งเค้าไปเรียบร้อยแล้ว พิมก็เลยเหลือขิงแก่อยู่ 2 โลค่ะ   ด้วยความที่ไม่อยากเก็บไว้นาน  ก็เลยเอามาซอยทำผัดขิงบ้าง  เอาไปต้มน้ำขิงบ้าง แต่มันก็ยังเหลืออยู่

จนมาเมื่อวันก่อนร้านขายไก่ที่ตลาดนัดแถวบ้าน เค้าฝากปีกบนไก่มาให้แม่พิมประมาณ 1 โล บอกว่าตอบแทนที่อาทิตย์ก่อนแม่พิมแบ่งกล้วยไข่และสับปะรดไปให้เค้า   พอพิมกลับถึงบ้าน พิมก็ถามแม่ว่าแม่จะเอาปีกบนไก่ไปทำอะไรกิน   คือปกติพอแม่ซื้อปีกบนมา แม่ชอบต้มยำไม่ก็ต้มข่าไม่ก็ทอดประจำเลยค่ะ เรียกว่าวนอยู่ 3 เมนูนี่แหละ ฮ่ะ ๆ ......... แต่มาคราวนี้ แม่บอกเบื่อ ไม่รู้จะทำอะไรกิน  ยกให้พิมล่ะกัน แล้วแต่พิมจะคิดตัดสินใจว่าจะเอาไปทำอะไรดี

พิมก็เลยไปค้น ๆ ในตู้เย็น เจอขิง เจอรากผักชี เจอพริกจินดาอยู่นิดหน่อย  ก็เลยตัดสินใจว่าเอามาทำเมนูไก่ตุ๋นขิงนี่แหละเวิร์คสุด เพราะวัตถุดิบพร้อมไม่ต้องลงทุนเพิ่มล่ะ  ฮ่ะๆ  ...... แล้วหลังจากพิมไปขลุกอยู่ในครัวประมาณเกือบ ๆ 1 ชม. พิมก็ได้เมนูนี้ออกมาหน้าตาแบบในภาพด้านล่าง ๆ นี้นะคะ ^__^ 

หมายเหตุ  สูตรที่พิมให้ไว้สำหรับเมนูนี้และทุกเมนู  ขอให้คิดซะว่าเป็นแนวทางนะคะ  เพราะเพื่อนๆ อาจจะไม่ได้ชอบรสชาติเดียวกันพิม  ดังนั้นแล้วหากเพื่อน ๆ ชอบรสแบบไหนก็ปรับเพิมลดส่วนผสมและเครื่องปรุงเอาได้ตามใจชอบเลยนะคะ   

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ปีกบนไก่  (น่องน้อย)  10 ชิ้น
- ขิงแก่ 1 ชิ้นใหญ่
- พริกจินดา 7 เม็ด  (ถ้าชอบเผ็ดมาก ใช้พริกขี้หนูสวนแทนสัก 10 เม็ดนะคะ) 
- รากผักชี 4 ราก
- กระเทียมไทยกลีบเล็ก  10-12 กลีบ
- เกลือป่น 1/2 ชช.
- น้ำปลา 3 ชต.
- น้ำตาลทราย 1  ชต.
- ซีอิ๊วดำหวาน 1 ชช.
- น้ำเปล่า 2 ถ้วย
- น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ชต.

- รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง  ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง  ชต. ชช.  ช้อนตวงคืออะไร  วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ << 

:: วิธีทำ ::

อันดับแรกเราก็มาโขลกเครื่องที่จะใช้หมักไก่กันก่อนนะคะ  ด้วยการล้างรากผักชีให้สะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ลงในครกพร้อมกับกระเทียมไทยกลีบเล็ก แล้วโขลกให้ละเอียดค่ะ  

 โขลกเสร็จ ตักใส่กาละมังที่จะใช้หมักไก่  ใส่เกลือป่นลงไป  ตามด้วยน้ำปลา 1 ชต. คนพอให้เกลือละลาย ใส่ไก่ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน หมักไว้ประมาณ 15 นาทีค่ะ 

ระหว่างหมักไก่ก็มาหั่นขิงกันนะคะ โดยขิงเนี่ย.....พิมจะใช้ขิงแก่และใช้ทั้งเปลือก (แปลว่าไม่ต้องปอกเปลือก ^_^)  นำขิงทั้งแง่งไปล้างให้สะอาด แล้วนำมาหั่นเฉียงไว้เป็นแว่นหนาประมาณ 1/2 ซม. สัก 10-12 แว่นค่ะ  

ส่วนพริกจินดา ก็ทุบไว้พอแตกนะคะ หรือใครชอบเผ็ดมาก จะเปลี่ยนไปใช้พริกขี้หนูแทนก็ได้ค่ะ 

เรียงขิงลงก้นหม้อที่เราจะใช้ตุ๋นไก่นะคะ ตามด้วยซีอิ๊วดำ น้ำตาล และน้ำปลาที่เหลือ  

พอหมักไก่ครบตามเวลา  ก็เอาน้ำมันใส่กระทะค่ะ ตั้งเตา เปิดไฟกลาง พอน้ำมันร้อนก็ใส่ไก่ลงไปผัดให้พอหนังไก่ตึงๆ  

แล้วตักใส่หม้อที่เราเรียงขิงไว้  ตามด้วยพริก   

และก็น้ำเปล่านะคะ ........ สำหรับน้ำเปล่าเนี่ย พิมใส่ไปประมาณ 2 แก้ว  (2 ถ้วยตวงของเหลว)  แต่จริง ๆ แล้วให้ใส่พอท่วมไก่  

อย่างในภาพด้านล่างนี้ก็โอเคค่ะ  

จากนั้นนำหม้อไก่ไปตั้งไฟ เปิดไฟกลางนะคะ รอจนเดือดจะเห็นว่ามีฟองขาวๆ ลอยอยู่บนผิวเต็มไปหมด  ก็เอาทัพพีค่อย ๆ ช้อนฟองออกค่ะ พอช้อนฟองออกหมด ก็หรี่ไฟเตาเป็นไฟอ่อน  ค่อย ๆ ตุ๋นอย่างใจเย็นไปเรื่อย ๆ  ประมาณ 30 นาที  

พอครบ 30 นาที ไก่จะเปื่อยนุ่มได้ที่  ก็ตักน้ำในหม้อขึ้นมาชิมรสชาติสักหน่อยค่ะว่าโอเคไหม  หากรสเข้มเกินไป เติมน้ำเปล่าเพื่อทำให้รสอ่อนลงได้ค่ะ แต่ค่อย ๆ เติมแล้วชิมนะคะ อย่าเติมพรวดเดียวทีละเยอะๆ เพราะเดี๋ยวหากรสจางไป ต้องตุ๋นไก่ต่ออีก จะทำให้ไก่เปื่อยเกินค่ะ  แต่หากรสอ่อนไป จะตุ๋นต่อหรือเติมน้ำปลา น้ำตาลเพิ่ม ก็ได้อีกเช่นกันค่ะ  

สุดท้ายแล้วเมื่อทุกอย่างโอเค เราก็จะได้ไก่ตุ๋นขิงออกมาหน้าตาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ 

แล้วก็ตักใส่ชาม เสริฟร้อนๆ  พร้อมผักชีสด ๆ (ไว้กินแกล้ม)  และข้าวหอมมะลิหุงนุ่มๆ  สักชาม แค่นี้ก็ไม่อยากเลิกกินแล้วค่ะ ^_^

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ชอบทานปีกไก่ จะเปลี่ยนไปใช้เป็นสะโพกไก่  น่องไก่ก็ได้นะคะ  แต่ที่ไม่แนะนำคืออกไก่ค่ะ เพราะพอตุ๋นออกมาแล้วมันจะไม่ค่อยอร่อยเหมือนปีก น่อง หรือสะโพก   หรือถ้าไม่ชอบทานไก่ จะเปลี่ยนไปใช้หมู เช่น หมูสันคอ หั่นเป็นก้อนสี่เหลี่ยมสัก 1.5  * 1.5  นิ้ว แทนก็ได้เช่นกันค่ะ   และหากเพื่อน ๆ คนไหนที่จะทำให้ลูกหลานทาน ไม่ต้องใส่พริกก็ได้ค่ะ  แต่ถ้าทำให้คนที่ทานเผ็ได้เนี่ย แนะนำให้ใส่พริก จะช่วยตัดเลี่ยน และเพิ่มรสชาติให้ไก่ตุ๋นขิงของเราอร่อยมากยิ่งขึ้นค่ะ 

ยังไงไปลองทำทานกันดูนะคะ ...... แล้วพบกันใหม่เมนูถัดไปจ้า ^_^