ที่บ้านพิมช่วงนี้ค่อนข้างขาดแคลนของหวานกันมากๆ เลยค่ะ เวลาทานอาหารมื้อหลักแล้วไม่ได้จบด้วยของหวานเนี่ย มันเหมือนขาดๆ อะไรไปสักอย่างก็ไม่รู้อ่ะค่ะ >_<
แต่ว่าจะให้พิมมาทำเค้ก ทำคุ๊กกี้ หรือทำพวกเบเกอรี่ที่เก็บได้หลายวันประมาณนี้ ...... ช่วงนี้พิมก็ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรอย่างนั้นเลยอ่ะค่ะ แบบทำขนมบางทีมันก็ขึ้นอยู่กับอารมณ์ด้วยเน๊อะคะ - -" ก็เลยลองไปเมียงๆ มองๆ วัตถุดิบที่อยู่ในตู้เก็บของว่าพอจะเอามาทำขนมอะไรที่พิมอยากกินและที่สำคัญคืออยากทำในตอนนี้ได้บ้าง ก็ไปเจอกับชาผง กะทิ และก็นมข้นจืดนี่แหละค่ะ ....... คิดไปคิดมา เลยตัดสินใจว่างั้นทำสังขยาชาไทยดีกว่า เพราะทำไม่ยาก แค่ผสมๆ แล้วก็เอาไปตุ๋นให้สุกเท่านั้นเอง ใช้เวลารวมเบ็ดเสร็จไม่เกิน 1 ชม. ก็ได้กิน ที่สำคัญเก็บใส่ตู้เย็นไว้ทานได้หลายวันด้วยอ่ะค่ะ ...... ก็เลยเป็นที่มาของสังขยาชาไทยในวันนี้แหละค่า
ไปดูส่วนผสมกับวิธีทำกันเลยเน๊อะคะ
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- ผงชาสำหรับทำชาเย็น 5 ชต.
- น้ำร้อนจัด 3/4 ถ้วย
- แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/3 ถ้วย
- กะทิอัมพวา 3 กล่อง (600 ml.)
- น้ำตาลทรายขาว 1 + 3/4 ถ้วย
- ไข่ไก่ 5 ฟอง
- เกลือสมุทรป่น 1 ชช.
- นมข้นจืด 1 ถ้วย
** รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง ชต. ชช. ช้อนตวงคืออะไร วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ < **
:: วิธีทำ ::
อันดับแรกเรามาชงชาที่จะใช้ทำสังขยาชาไทยกันก่อนเน๊าะคะ ^_^
วิธีชงก็ง่ายมากค่ะ ให้เราเอาผงชาเทใส่ในชามใบโตหรือถ้วยใบใหญ่ที่ทนความร้อนได้ แล้วเทน้ำร้อนจัดตามลงไปนะคะ คนให้เข้ากัน แล้วก็พักไว้ 5 นาที จากนั้นก็กรองเอาแต่น้ำชาไว้ ส่วนกากชาทิ้งไปค่ะ
สำหรับวิธีกรองชา พิมกรองโดยผ่านถุงกรองแบบในภาพ ซึ่งเพื่อนๆ สามารถหาซื้อได้ตามร้านที่ขายพวกผงชากาแฟในตลาดสดหรือไม่ก็ตามในซุปเปอร์มาร์เกตนะคะ ราคาประมาณ 25-40 อ่ะค่ะ แต่ถ้าไม่สะดวก จะกรองด้วยผ้าขาวบางทบสัก 2-3 ชั้นก็ได้นะคะ
ต่อมาในกาละมังใบที่ 1 ให้เราตอกไข่ทั้ง 5 ฟองใส่ลงไป ตีด้วยตะกร้อมือให้เข้ากัน ...... แล้วพักไว้ก่อนค่ะ
ในกาละมังใบที่ 2 ให้เราใส่แป้งสาลีลงไป ตามด้วยน้ำชาที่เราชงไว้เมื่อกี้นี้ แล้วคนด้วยตะกร้อมือให้เข้ากันดี แป้งไม่เหลือเป็นเม็ดนะคะ ^_^
จากนั้นก็ใส่กะทิลงไป ตามด้วยน้ำตาล และก็เกลือป่น
คนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งน้ำตาลละลายหมด ก็จะได้ออกมาประมาณในภาพด้านล่างนี้นะคะ
ก็เอาไข่ที่เราเตรียมไว้ในตอนแรก มาเทใส่ลงไป คนให้เข้ากันดี
ก็นำไปกรองด้วยผ้าขาวบาง (ชั้นเดียว) จะได้ออกมาเป็นอย่างในภาพด้านล่าง ขวามืออ่ะค่ะ ^_^
จากนั้นก็ถึงเวลาตุ๋นล่ะค่ะ ..... ก็ให้เราหาหม้อที่ใบใหญ่กว่ากาละมังมา 1 ใบ (พิมใช้ก้นซึ้ง) ใส่น้ำลงไปกะว่าให้สูงมากกว่าความสูงของสังขยาในกาละมังสักนิดนึง แล้ววางผ้าขนหนูพับทบสัก 2 ชั้นลงไปที่ก้นหม้อ ใช้ไฟกลาง รอจนน้ำเดือดก็วางกาละมังส่วนผสมลงไป แล้วก็เริ่มการตุ๋น (ทำให้สุก) ล่ะค่ะ ........ โดยในขั้นตอนนี้เราจะต้องใช้ตะกร้อมือคนๆๆๆ ส่วนผสมในกาละมังเกือบจะตลอดเวลา ไม่งั้นสังขยาของเราจะเนื้อไม่เนียน และอย่าเร่งไฟให้แรงเกิน ไม่งั้นสังขยาเราอาจจะเป็นเม็ดๆ ก็ได้อ่ะค่ะ
ก็กวนๆ คนๆ ไปเรื่อยๆ อย่างใจเย็นๆ นะคะ ใช้เวลาประมาณ 15 นาที สังขยาของเราก็จะเริ่มข้น และพอสัก 25-30 นาที สังขยาของเราก็จะข้นมากขึ้น จนเห็นเป็นรอยของตะกร้อเวลาที่คน (กวน) ก็เป็นอันว่าใช้ได้ ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ
จากนั้นยกกาละมังสังขยาลงจากเตา แล้วก็เทนมข้นจืดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ใช้ตะกร้อมือคนไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งสังขยาร้อนน้อยลงและนมเนียนไปกับสังขยา ก็เป็นอันว่าเสร็จเรียบร้อยล่ะค่ะ หยุดคนได้เลย
เราก็จะได้สังขยาชาไทยออกมาหน้าตาแบบนี้นะคะ ........ ก็พักไว้จนเย็นสนิท แล้วค่อยตักใส่กล่องปิดฝาแล้วเก็บไว้ในตู้เย็น ได้เป็นอาทิตย์อ่ะค่ะ (เวลาเก็บในตู้เย็น สังขยาจะข้นขึ้น แต่พอทิ้งไว้ให้หายเย็น จะกลับมาข้นเท่าเดิม)
ถึงเวลาจะทาน เราก็นำขนมปังมาตัดเป็นชิ้นพอคำ แล้วนำไปอุ่นในร้อน (พิมใช้วิธีอุ่นในไมโครเวฟ) เสริฟพร้อมสังขยาในถ้วยน่ารักๆ .... เท่านี้เราก็จะได้ของว่างอร่อยๆ ไว้ทานแล้วอ่ะค่ะ ^_^
สังขยาชาไทยสูตรนี้เนี่ย ขอบอกว่าหอมกลิ่นชามากๆ เลยค่ะ แล้วก็มีความหอมมัน เข้มข้นจากกะทิ และหวานไม่มาก จิ้มกับขนมปังแล้วพิมว่ากำลังพอดีเลยอ่ะค่ะ ... ใครที่ชอบสูตรสังขยาใบเตยที่พิมทำลงไว้ในเวบเมื่อปีก่อน ๆ พิมอยากแนะนำให้ลองสังขยาชาไทยสูตรนี้บ้าง อาจจะติดใจจนกลายเป็นอีกหนึ่งสังขยาโปรดของเพื่อนๆ ก็ได้อ่ะค่ะ
ยังไงลองไปทำดูกันนะคะ แล้วพบกับพิมใหม่ในเมนูถัดไปจ้า