ต้นปีที่ผ่านมา มีเพื่อนพิมคนนึงไปเที่ยวภาคเหนือ แล้วขากลับก็ซื้อลำไยแห้งแบบที่เป็นเม็ดสีทองๆ มาฝากพิม 3 ถุงใหญ่มาก (น่าจะถุงละ 1 โล) 

ซึ่งลำไยแบบที่เพื่อนพิมซื้อมาฝากเนี่ย สามารถเอามากินเล่นได้  ^_^  แล้วก็เอาไปเป็นวัตถุดิบสำหรับทำอาหารคาวหวานได้   ซึ่งที่ผ่าน ๆ มา นอกจากหยิบกินเล่นกะแม่ 2 คนจนหมดไปเกือบ 2 โลแล้ว >_<   พิมก็มีเอามาตุ๋นกับไก่ ทำเป็นไก่ตุ๋นลำไย  เอามาใส่ในน้ำก๋วยเตี๋ยวเวลาทำก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นบ้าง อะไรอย่างนี้อ่ะค่ะ  ซึ่งก็ทำให้ได้น้ำซุปที่รสชาติหอมหวานละมุนมากๆ ^_^ 

แล้วนอกจากอาหารคาว ลำไยแห้งก็ยังเอามาทำขนมหวานได้อีกด้วยนะคะ  เช่น  วุ้นน้ำลำไย  เค้กลำไยแห้ง  (คล้ายเค้กมะตูม)  เค้กบัตเตอร์ลำไย (เนื้อเค้กแบบบัตเตอร์ แล้วใส่ลำไยแห้งหั่นชิ้นเล็กลงไปในเนื้อเค้ก)  รวมไปถึงขนมหวานง่าย ๆ อย่างต้มถั่วเขียว  ก็สามารถเอามาทำเป็นต้มถั่วเขียวกับลำไยแห้งได้ด้วยอ่ะคะ่ ^_^ 

:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::

- ถั่วเขียว 250 กรัม
- ลำไยแห้งสีทอง 1 ถ้วย
- น้ำเปล่า  8 + 1/2 ถ้วย
- มิตรผลโกลด์ หรือน้ำตาลทรายขาว  หรือน้ำตาลทรายแดง 1 + 1/2 ถ้วย
- ใบเตยแก่ ๆ ล้างสะอาด 2 ใบมัดเป็นปมรวมกัน

- รายละเอียดเกี่ยวกับการตวง  ถ้วยคืออะไร ถ้วยตวง  ชต. ชช.  ช้อนตวงคืออะไร  วิธีการใช้ถ้วยตวง ช้อนตวง >> คลิ๊กที่นี่ <<    
- ปริมาณตอนทำเสร็จแล้ว ค่อนข้างเยอะ กินกันได้เป็นครอบครัวใหญ่  หากทำกินกัน 2-3 คน แนะนำว่าลดส่วนผสมทุกอย่างลงครึ่งนึง จะดีกว่าค่ะ ^^ 

::  วิธีทำ ::

ก่อนอื่นเลย มาดูที่นางเอกของเราในวันนี้ก่อนนะคะ นั่นก็คือ ลำไยแห้ง  หรือลำไยอบแห้งสีทอง ^_^  ซึ่งพิมคิดว่าน่าจะมีใครหลายคนสงสัยว่าหาซื้อได้ที่ไหน  ราคาประมาณเท่าไหร่นะคะ

สำหรับลำไยแห้งเนี่ย เท่าที่พิมเคยเห็นจะมี 2 แบบด้วยกัน คือแบบที่เป็นสีน้ำตาลค่อนไปทางดำ อัดมาเป็นแท่งสี่เหลี่ยมแข็งๆ  แท่งละ 1 กิโล ราคาไม่ถึง 200 บาท (ปี 2557) หาซื้อได้หลายที่ ที่พิมเคยเห็นมีขายก็เช่นแมคโคร    กับแบบอบแห้งมาเป็นเม็ดๆ  สีน้ำตาลทองอย่างในภาพด้านล่างนี้ จะราคาประมาณกิโลละ 400 - 500 - 600 บาท (ปี 2557)  ขึ้นกับขนาดเม็ด ความสมบูรณ์ของเนื้อลำไย และอื่นๆ นะคะ  ซึ่งอย่างหลังนี่ ถ้าเป็นในกรุงเทพฯ หรือต่างประเทศ พิมไม่แน่ใจว่าหาซื้อได้ที่ไหน  แต่ว่าตอนพิมไปเที่ยวภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปางนี่ เห็นขายกับเยอะตามร้านขายของฝาก และร้านค้าบางร้านในตลาดอ่ะค่ะ  หรือถ้าเพื่อน ๆ ไม่สะดวก จะสั่งซื้อทางเนตก็ได้นะคะ  โดยลอง search ใน google ดูว่า "ลำไยอบแห้งสีทอง"   ก็จะมีหลายเจ้าขึ้นมาให้เลือกซื้อเลยค่ะ ^_^ 

ซึ่งเมื่อเราได้ลำไยมาแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรนะคะ    เตรียมพร้อมเอาลงหม้ออย่างเดียวเลยค่ะ 

ต่อมาก็เป็นถั่วเขียวนะคะ ....  พิมใช้ยี่ห้อตามที่เห็นในภาพด้านบนอ่ะค่ะ ส่วนว่าเพื่อน ๆ จะใช้ยี่ห้ออะไรก็ตามสะดวกเลย ไม่มีปัญหา  

เมื่อได้ถั่วเขียวมา ก็เอามาเทใส่ถาดหรือกาละมังใบโต ๆ หน่อยนะคะ แล้วลองมองหากรวดหินที่อาจจะปนมา (พิมเจอบ่อย)  รวมถึงเม็ดที่เสียด้วย ก็ให้เก็บทิ้งไป  .....  เสร็จแล้วล้างน้ำประมาณสัก 2-3 รอบ จนกระทั่งน้ำใส  ก็เทน้ำใส่ถั่วให้ท่วมสูงประมาณ  3-4 นิ้ว  แล้วแช่ถั่วไว้สัก 6 ชม. หรือ 1 คืนค่ะ    

เพิ่มเติม :: แช่ก่อนจะนอน ตื่นเช้ามาก็เทน้ำออกเลย อันนี้เรียกว่าแช่ 1 คืน

ก็จะออกมาเป็นถั่วพอง ๆ อืดๆ  แบบนี้ ก็จัดการล้างน้ำสักอีก 1-2 น้ำ  แล้วเทใส่กระชอนตาโปร่งๆ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำค่ะ 

 พอถั่วสะเด็ดน้ำดี ก็เทถั่วใส่ลงไปในหม้อนะคะ ใส่น้ำสะอาด + ใบเตยตามลงไป  (พิมลืมใส่ใบเตย - -")

เอาหม้อถั่วขึ้นตั้งบนเตาไฟ เปิดไฟกลาง ๆ แล้วคอยคนถั่วเป็นระยะ เพื่อไม่ให้ถั่วติดก้นหม้อไหม้ ...  พอเดือดจะเห็นว่ามีฟองขาวๆ ลอยขึ้นมา ก็คอยเอาทัพพีช้อนฟองออกจนหมดหรือให้เหลือน้อยที่สุด  แล้วก็ตั้งไว้บนเตาอย่างนั้น จนกระทั่งถั่วสุก และเมล็ดบานอย่างในภาพ  (พิมต้มประมาณ 20 นาที) 

ก็ใส่ลำไยอบแห้งลงไป  ต้มต่ออีกประมาณ  7-8 นาที หรือจนกระทั่งได้กลิ่นหอมของลำไย 

ก็เติมความหวานด้วยน้ำตาล   ใช้ทัพพีคนให้น้ำตาลละลาย   ตักขึ้นมาชิมรสชาติตามชอบ หากยังหวานไม่พอก็เติมน้ำตาลอีกได้ หรือถ้าหวานไปอาจจะเติมน้ำเปล่าเพิ่มอีกนิดหน่อย  เมื่อได้รสที่คิดว่าใช่แล้วก็หรี่ไฟลงเป็นไฟอ่อน ต้มต่ออีกประมาณ 5 นาที ........ ปิดไฟเตาได้เลยค่ะ 

เพิ่มเติม :: สำหรับน้ำตาล เพื่อน ๆ จะเลือกใช้น้ำตาลทรายแดง น้ำตาลทรายขาว น้ำตาลทรายไม่ขัดสี  หรือจะใช้มิตรผลโกลด์อย่างที่พิมใช้ก็ได้ค่ะ เลือกเอาตามสะดวกเลย แต่เหตุผลที่พิมใช้มิตรผลโกลด์เพราะว่าที่บ้านมีหลายถุง  และด้วยสีที่ออกน้ำตาลทองของน้ำตาลชนิดนี้ อีกทั้งเป็นน้ำตาลแร่ธรรมชาติ ก็จะทำให้ถั่วเขียวต้มของเรามีสีใสๆ และมีรสหอมกว่าใช้น้ำตาลทรายปกติค่ะ

และนิดนึงค่ะ ... ปริมาณน้ำตาลที่ใช้ อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ ขึ้นกับความหวานของลำไย และความหวานที่เพื่อน ๆ ชอบ

แล้วเราก็จะได้ถั่วเขียวต้มลำไยออกมาหน้าตาประมาณนี้นะคะ 

สุดท้ายก็ตักใส่ถ้วยเสริฟ  ซึ่งจะเสริฟแบบร้อน ๆ หรือจะเสริฟแบบเย็น ๆ ก็ได้ทั้งสองอย่างเลยค่ะ  

และสำหรับเพื่อนๆ ที่ (จะ) ถามพิมว่า ใช้ลำไยสดแทนลำไยแห้งได้ไหม  ขอตอบว่าก็ได้ค่ะ  แต่กลิ่น+สีจะต่างกันนิดหน่อย และถ้าเป็นลำไยสดอย่าต้มนานนะคะ  เอาแค่พอเดือดพอ  ไม่งั้นเนื้อลำไยจะเละได้ค่ะ  ^_^ 

ยังไงไปลองทำทานกันดุนะคะ อากาศร้อน ๆ แปลกๆ  แบบนี้ ทานถั่วเขียวต้มลำไยเย็นๆ สักถ้วยนึง ก็ดีไม่น้อยเลยค่ะ ^____^