หลังจากที่เมื่อวานเราทำแคบหมูกันไปแล้ว วันนี้เรามาทำน้ำพริกอ่องที่ไว้ทานคู่กับแคบหมูกันบ้างนะคะ ^_^
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พิมและคุณสามีพาแม่กับน้องชายไปเที่ยวเชียงใหม่มาค่ะ ตอนเช้าของวันที่จะเดินทางกลับ พิมก็เลยแวะไปกาดชุมชนอาหารปลอดภัย ที่อยู่ตรงเจเจเชียงใหม่ ก็ได้ผักผลไม้หมาเยอะแยะ รวมถึงมะเขือเทศหลากหลายชนิดเลยอ่ะค่ะ ทั้งมะเขือเทศส้ม มะเขือเทศราชินี มะเขือเทศสีทอง มะเขือเทศลูกกลมลาย และก็มะเขือเทศพันธุ์ที่คนขายบอกว่าเป็นพันธุ์พื้นบ้านของเชียงใหม่ ..... ติดไม้ติดมือกลับมาด้วยนะคะ
แต่ตอนที่พิมซื้อเนี่ย มะเขือเทศยังเป็นสีอมเขียวอยู่ะ คือยังไม่สุก พิมกลับถึงบ้านก็เลยเอาใส่ตู้เย็นไว้ แล้วก็ไปคอยเปิดดูทุกวันค่ะ ก็ไม่ค่อยแดงซะที >_< จนเมื่อวานอยู่ดี ๆ มะเขือเทศทุกชนิดก็พร้อมใจกันแดงแถมยังแดงก่ำซะอย่างนั้นอ่ะ พิมก็เลยต้องรีบหาทางทำเมนุอะไรที่ใช้มะเขือเทศเยอะๆ สุดท้ายแล้วก็มาจบที่น้ำพริกอ่องนี่แหละค่ะ ^_^
:: ส่วนผสมและเครื่องปรุง ::
- หมูสับติดมัน 300 กรัม
- มะเขือส้ม 30 ลูก (แต่พิมใช้มะเขือเทศลูกเล็กรวมๆ กันแทน)
- หอมแดงซอย 10 หัว
- กระเทียมไทยกลีบเล็กแกะเปลือก 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกแห้งเม็ดใหญ่ป่น (ไม่ต้องคั่ว) 2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ (จริงๆ ใช้ถั่วเน่า แต่พิมไม่มี เลยใช้กะปิแทน)
- เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลทราย (ถ้าชอบ แต่พิมไม่ได้ใส่)
- น้ำมันสำหรับผิด 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ถึง 1 + 1/2 ถ้วย
- ต้นหอม ผักชี ตามชอบ
** ถ้าชอบให้มีรสเผ็ดแบบรู้สึกได้ แต่ไม่มาก ให้ลดพริกแห้งเม็ดใหญ่ป่นลงแล้วเพิ่มพริกขี้หนูแห้งป่นแทน ในอัตราส่วนเดียวกัน
** วิธีทำพริกแห้งป่น แบบไม่ต้องคั่ว ก็คือ หั่นพริกแห้งเป็นท่อนสั้นสัก 1/2 นิ้ว นำไปตากแดดจัด ๆ จนกรอบ แล้วนำมาโขลกให้ละเอียด เก็บไว้ใช้ตำน้ำพริกได้
** เกลือป่นที่พิมใช้ ปกติเป็นเกลือสมุทรป่นแบบที่เค้าขายกันถุงเล็ก ๆ ถุงละ 1-2 บาท
** ช้อนตวงคืออะไร ถ้วยตวงคืออะไร วิธีการใช้ช้อนตวง ถ้วยตวงทำอย่างไร ดูได้ >> ที่นี่ <<
:: วิธีทำ::
เริ่มแรกเรามาตำน้ำพริกที่จะไว้ใช้ผัดน้ำพริกอ่องกันก่อนนะคะ ก็ให้เราหั่นหอมแดงกับกระเทียมเป็นชิ้นเล็ก ๆ ค่ะ แล้วนำไปตำรวมกับเกลือป่นจนละเอียดดีนะคะ จากนั้นใส่พริกป่นกับกะปิลงไป ตำให้เข้ากันอีกที ก็ใช้ได้ล่ะค่ะ
บางสูตรจะใส่ตะไคร้ด้วย แต่พิมไม่ได้ใส่นะคะ
ถ้าใช้ถั่วเน่าแทนกะปิ เอาถั่วเน่าไปปิ้งไฟให้หอมก่อน แล้วใช้ในปริมาณเดียวกัน
ต่อมาก็ให้เราใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งกระทะบนเตาจนร้อน ก็ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอมค่ะ ถ้าระหว่างผัด พริกแกงในกระทะแห้งเกิน ก็เติมน้ำสะอาดลงไปได้ครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะนะคะ
แล้วพอพริกแกงส่งกลิ่นหอมดี ก็ใส่หมูสับลงไปผัดให้เข้ากับพริกแกงค่ะ พยายามยี ๆ หมูสับให้มันกระจายตัว ไม่ให้ติดกันเป็นก้อนด้วยนะคะ
บางคนอาจจะโขลกพริกแกง + หมูสับ + มะเขือเทศรวมกันเลย แล้วค่อยเอามาผัด ก็ได้ค่ะ ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด ^_^
พอพริกแกงเข้ากับหมูดี ก็เติมน้ำเปล่าลงไปสัก 1/2 ถ้วยก่อน (ถ้าใส่ทั้งหมดในครั้งเดียว จะกลายเป็นต้มไปเน๊าะคะ - -")
คน ๆ ผัด ๆ ให้เข้ากัน
ตามด้วยมะเขือเทศที่เราผ่าครึ่งลูกไว้ค่ะ แต่ถ้ามะเขือลุกใหญ่ จะผ่าสักสี่ส่วนก็ได้นะคะ
จากนั้นคนให้เข้ากัน แล้วลดไฟลงเป็นไฟอ่อน ผัดไปเรื่อย ๆ ...... ถ้าระหว่างผัด น้ำในกระทะแห้ง แต่มะเขือเทศยังไม่นิ่มเละ รสชาติจากมะเขือเทศยังออกมาไม่เต็มที่ ก็ทยอยเติมน้ำลงไปได้ค่ะ อาจจะสักทีละ 1/4 ถ้วย หรือประมาณ 4 ช้อนกินข้าวช้อนสั้นนะคะ (ไม่จำเป็นต้องเติมน้ำทั้งหมดตามที่พิมบอกไว้)
จนกระทั่งมะเขือเทศเละ และน้ำในกระทะเกือบแห้ง เราก็ตักน้ำพริกขึ้นมาชิมนะคะว่ารสชาติออกไปทางไหน โดยปกติก็จะเปรี้ยวหวานจากมะเขือเทศ และเค็มจากกะปิ+เกลือพอกลมกล่อมอ่ะค่ะ แต่ถ้าเปรี้ยวไม่พอ เพื่อนๆ สามารถคั้นน้ำมะขามเปียกใส่ลงไปได้นิดหน่อยนะคะ อย่าให้มากเกิน จะเสียรส แต่โดยปกติพิมไม่ได้ใส่นะคะ เพราะมักจะได้รสที่เปรี้ยวพอดีอยู่แล้ว คือเปรี้ยวแบบเบา ๆ ละมุนๆ ส่วนถ้าไม่หวาน หรือรู้สึกว่ารสไม่กลมกล่อม เปรี้ยว ๆ จืด ๆ จะเติมน้ำตาลทรายสักนิดหน่อยก็ได้นะคะ อาจจะสักครึ่งช้อน หรือหนึ่งช้อนกินข้าว แต่ให้คงรสเปรี้ยวนำแบบเบาๆ เอาไว้ อย่าให้หวานนำเด็ดขาด และเค็มกลมกล่อมอ่ะค่ะ
และเมื่อปรุงรสได้ที่แล้ว ถ้าชอบแบบมีน้ำหน่อย รอเดือดก็ปิดไฟได้เลย แต่ถ้าชอบแบบแห้ง ๆ นิดนึง ผัดต่อไปอีกสักแป๊บ จนกระทั่งแห้งมากน้อยตามชอบ ก็ปิดไฟเตาได้เลยนะคะ
เสร็จแล้วก็ตักใส่ชาม โรยต้นหอมผักชีซอย แล้วเสริฟคู่กับผักสดที่เราชอบ เท่านี้เราก็จะได้น้ำพริกอ่องอร่อย ๆ มาทานแล้วอ่ะค่ะ ......... ยังไงลองไปทำทานกันดูน๊าาาา แล้วพบกับพิมเมนูถัดไปจ้า ^_^